“ศีกัญญา” ทายาทโรงแรมหรู ฟื้น Kipling แตกไลน์สินค้าผู้ชาย-กระเป๋าเดินทาง
เปิดใจ “ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์” รับไม้ต่อ Kipling พร้อมคัมแบ็คธุรกิจหลังพิษโควิดเล่นงาน ชะงักไป 3 ปี กับการแตกไลน์สู่ธุรกิจกระเป๋าเดินทาง และสินค้าผู้ชาย
เป็นนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองสำหรับ ทายาทโรงแรมเรเนซองส์ “ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์” หรือคุณปอ ที่วันนี้เธอสวมบทบาท senior vice president ด้าน PR ของโรงแรม Renaissance Bangkok Ratchaprasong พร้อมกันนี้ยังเป็น Executive MD & กรรมการ บริษัท มณียา คอนเซพทส์ จำกัด
รับไม้ต่อดูแลธุรกิจนำเข้ากระเป๋าแบรนด์ Kipling จากคุณแม่ หลังจากยุติบทบาทบนจอแก้วในฐานะผู้ประกาศข่าวและพิธีกรรายการโทรทัศน์ ทันทีที่คว้าปริญญาตรีทางด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Syracuse University นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกามา
“ศีกัญญา” เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบัน Kipling มีจุดขาย 60 แห่ง กินสัดส่วนยอดขาย 80% และช่องทางออนไลน์ทั้ง shopee, lazada facebook อีก 20% และอยู่ระหว่างสร้างแพลตฟอร์ม TikTok สำหรับอนาคตบนเส้นทางธุรกิจหลังโควิด “ศีกัญญา” ตัดสินใจ กลับมา ขยายเซ็กเมนท์แบรนด์ Kipling ไปยังตลาดใหม่ๆ
เช่น กลุ่มกระเป๋าเดินทางที่กำลังฮิตมากจนขาดตลาด โดยจะอัพเดทร้าน Kipling สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ให้เป็น Central World Luggage ขายเฉพาะกระเป๋าเดินทางอย่างเดียว แต่อาจพิจารณา Central Village หรือ Siam Premium Outlets ด้วยเพราะเป็นแหล่งทัวร์ริสต์และแหล่งช้อปปิ้งเตรียมการเดินทาง
รวมทั้งขยายไปยังตลาดผู้ชายมากขึ้น หลังจากเริ่มมีโปรดักส์ไลน์สินค้าผู้ชายหลากหลาย และมีศักยภาพสามารถสู้คู่แข่งหลายแบรนด์ได้บวกกับโลโก้ที่ค่อนข้างโดดเด่นเหมาะกับลุคผู้ชายสะพายเป้
ในส่วนของการตลาดจะจับเทรนด์ที่เป็นกระแส เช่น ยุค 90,s หรือ Y2K เข้ามาเล่น เพื่อรุกตลาดใหม่ๆด้วยโปรดักส์ไลน์ที่น่าสนใจ รวมทั้งจัดอีเวนต์เปิดตัวที่เซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีคอลเลคชั่น Kipling x Miffy ซึ่งมีโมเมนตัมที่แรงในประเทศไทยเข้ามาเป็นตัวนำร่องตามมาด้วย และ Kipling x Barbie และคาร์แรคเตอร์การ์ตูนดังอื่นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้มีทั้ง Kipling x Hello Kitty และการคอลแลบกับศิลปินต่างๆเช่น Kipling x Victoria Tang และ Minju Kim x Kipling มาแล้ว
“ด้วยความที่ Kipling เป็นแบรนด์ต่างประเทศ เราไม่สามารถรีแบรนด์เองได้ ในประเทศไทยเราขายได้ในกลุ่มสูงอายุหรือกลุ่มผู้ใหญ่ 35 ปีขึ้นไป แม้ว่าจะมีสินค้าที่มีสีสันสดใสมาช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้ แต่สุดท้ายคนที่ซื้อจริงๆยังซื้อสีดำ สีน้ำเงินเพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการ เป็นผู้ใหญ่เน้นสีที่เรียบร้อย และปีที่ผ่านมาเราโดนหนักมากในเรื่องค่าเงินบาทอ่อน เงินเฟ้อ ค่า shipping แต่เรายังตรึงราคาเท่าเดิมเพราะไม่อยากให้คนที่ซื้อของเราประจำรู้สึกว่า ทำไมอยู่ดีๆ Kipling ถึงแพงขึ้น”
นอกจากธุรกิจครอบครัวทั้งโรงแรมและแบรนด์ Kipling แล้ว “ศีกัญญา” ยังมีแผนขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่มีโอกาส เช่น ร้านอาหาร เบื้องต้นแง้มว่า “อยากเปิดร้านหมูกะทะ”
“ตอนนี้เรามีผู้บริหารคนใหม่เข้ามาช่วย ทำให้มีเวลาไปคิดทำอย่างอื่นได้ ล่าสุดเรามีความคิดจะทำหมูกะทะ แต่เป็นคอนเซ็ปต์หมูกะทะโต๊ะเดียวเป็นการต่อยอดธุรกิจจากน้องสาวคนเล็กที่ทำธุรกิจ cold pressed juice หรือร้านน้ำผลไม้สกัดเย็นและมีพื้นที่เหลือ ประกอบกับเราเป็นคนชอบทานอาหาร ธุรกิจอาหารจึงเป็น passion เราเป็นคนที่คิดอะไรแล้วต้องรีบทำถ้าคิดนานๆ จะไม่ทำ ถ้าเราอยากจะทำและเราตั้งใจที่จะทำและเชื่อมั่นใน ability ของตัวเอง ทำไปเลยเพราะถ้ายิ่งคิด ยิ่งนาน ยิ่งไม่ได้เริ่ม”
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,880 วันที่ 20 - 22 เมษายน พ.ศ. 2566