ผ่ากลยุทธ์ "MOSHI" 2566 ขอโต Double Digits

02 มี.ค. 2566 | 22:17 น.

MOSHI ปิดงบปี 65 กวาดรายได้ 1,895 ล้านบาท กำไรโต 92.9% เดินหน้าอัพเกรด 4 ธุรกิจควบคู่อัดแผนตลาดเข้มข้น รับกำลังซื้อฟื้นตัวดันยอดขายเติบโต Double Digits

ผ่ากลยุทธ์ "MOSHI" ปี2566 ตั้งเป้าใหญ่ขอโต Double Digits เปิดเกมบุก "ค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์" ผ่าน 4 กลยุทธ์เพิ่มความหลากหลายสินค้า,เพิ่มยอดขายสาขาเดิม,ขยายสาขาและอัดการตลาดเข้มข้น รับกำลังซื้อภายในประเทศฟื้นตัวบวกกับนักท่องเที่ยวจีนเริ่มทยอยกลับมาท่องเที่ยวและใช้จ่ายในไทย

นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI
นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI เปิดเผยว่า  แผนการดำเนินงานในปี 2566 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก (Double Digits) โดยมาจาก 4 ส่วนธุรกิจ คือ 1. การเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โดยตั้งเป้าเพิ่ม 2 Categories ใหม่ รวมถึงเพิ่มประเภทและรูปแบบของสินค้าให้สามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าภายใต้ตราสินค้าบริษัทฯ ที่ออกแบบเพื่อจำหน่ายในร้าน Moshi Moshi โดยเฉพาะถึง 12 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องใช้ในบ้าน,กระเป๋า ,เครื่องเขียน,ตุ๊กตา,ของใช้แฟชั่น, อุปกรณ์เสริมความงาม , เครื่องแต่งกาย, เครื่องสำอาง, อุปกรณ์ด้านไอที,ของเล่น ,อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

2.เพิ่มการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) บริษัท ตั้งเป้าการเติบโต Double Digits โดยจะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า จัดกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มเติม และแคมเปญกระตุ้นอื่นๆ รวมถึงกลยุทธ์ Co-Branding กับ Influencer หรือตัวการ์ตูนลิขสิทธิ์ต่างๆ มาวางจำหน่ายในร้านเพื่อเพิ่มยอดขายต่อบิล (Ticket Size) ให้มากขึ้น

  ผ่ากลยุทธ์ "MOSHI" 2566 ขอโต Double Digits

3. การเปิดสาขาเพิ่มเติม โดยเน้นเปิดในจังหวัดที่ยังไม่มีสาขาร้าน Moshi Moshi ทั้งเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดหัวเมือง รวมถึงการเปิดสาขาเพิ่มรูปแบบใหม่ Standalone และการพัฒนาแฟรนไชส์ พร้อมทั้งศึกษาตลาดต่างประเทศไปควบคู่กัน โดยในไตรมาส 1/2566 เตรียมเปิดอีกไม่น้อยกว่า 3 สาขา จากเดิมที่มีจำนวน 106 สาขา 

 

4. กิจกรรมการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ศึกษาเทรนด์การตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อกำหนดกิจกรรม รูปแบบ และสื่อในการทำการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลาของปี ให้สอดคล้องกับแต่ละสถานการณ์และเพื่อกระตุ้นยอดขาย  ล่าสุด MOSHI ได้สนับสนุนคอนเสิร์ต NCT DREAM TOUR 'THE DREAM SHOW2: In A DREAM' in BANGKOK วงบอยแบนด์จากค่ายเพลง SM Entertainment ที่มีชื่อเสียงและฐานแฟนคลับผู้ติดตามอยู่ทั่วโลก ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าร้าน Moshi Moshi และ NCTzen ชาวไทยอย่างคึกคัก

ในปี 2566 จะผลักดันการเติบโตต่อเนื่อง สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตในอุตสาหกรรมค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ในปัจจุบันกำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากประเทศจีนที่โหยหาการเดินทาง ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวเร็ว แรง และเติบโตสูง และปริมาณการจับจ่ายใช้สอยก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับสถานการณ์จับจ่ายในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

ผ่ากลยุทธ์ "MOSHI" 2566 ขอโต Double Digits

สะท้อนจากเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงสำคัญที่สุดของธุรกิจค้าปลีก มีการจับจ่ายคึกคักที่สุดของปี เพราะคนไทยนิยมจัดปาร์ตี้สังสรรค์จับฉลากแลกของกัน การซื้อไปแจกและการซื้อสินค้ามอบให้แก่กัน ทำให้สินค้าร้านโมชิ โมชิ มักเป็นตัวเลือกของลูกค้าในเทศกาลปีใหม่ เทศกาลวันเด็ก และเทศกาลแห่งความรัก

ในขณะที่ปีที่ผ่านมาทั้งร้าน Moshi Moshi และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับกระแสความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดียแบบไวรัล (Viral) เป็นระยะๆ เพราะสินค้าที่ถูกใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การออกแบบที่เน้นประโยชน์ใช้สอย ดีไซน์ที่ทันสมัยและมีความหลากหลาย ประกอบกับราคาสินค้ามีความย่อมเยาทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและลูกค้าทั่วไปได้ในวงกว้าง 

บวกกับการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทำให้มี Economy of Scale ช่วยสร้างความได้เปรียบในการเจรจากับผู้ผลิตโดยตรงได้ทำให้สามารถขายผลิตภัณฑ์ในราคาที่ดีกว่าคู่แข่ง ยิ่งทำให้สัดส่วนสินค้านำเข้าเติบโต และสามารถผลักดันสัดส่วนกำไรให้เพิ่มสูงมากขึ้น  โดยภาพรวมการดำเนินงานในปี 2565 เติบโตเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีรายได้รวมจำนวน 1,895.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,263.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 253.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 131.27 ล้านบาท โดยอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 40% ถือเป็นการรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง