“ข้าวถุง”แผ่ว ราคาพุ่ง สวนทางคนรุ่นใหม่ บริโภคน้อย

12 ก.พ. 2566 | 01:59 น.

สถานการณ์ข้าวถุงไทยยังน่าวิตก เหตุคนรุ่นใหม่บริโภคลดลง ขณะที่ราคาข้าวถุงปรับตัวขึ้นแรง “ตราฉัตร-มาบุญครอง” หันสร้างความต่าง ผุดข้าวเพื่อสุขภาพรับเทรนด์ดูแลสุขภาพ-สังคมสูงวัย

นายยงยุทธ พฤกษ์มหาดำรง นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทยและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซี.พี.ฟู้ดสโตร์ จํากัด (ข้าวตราฉัตร) เปิดเผยว่า ตลาดข้าวถุงในไทยยังเติบโตทุกปีเฉลี่ย 3-4% และแผ่วลงในช่วงโควิด แต่เชื่อว่าในปีนี้ไทยเริ่มเปิดประเทศและหลายๆประเทศเริ่มเปิดเมือง

ทำให้การจับจ่ายใช้สอยกลับมา และเป็นปีที่ดีในเรื่องของกำลังซื้อและทำให้ตลาดข้าวถุงโดยรวมดีขึ้น โดยมูลค่าตลาดข้าวสารที่บริโภคภายในประเทศอยู่ประมาณ 2 แสนล้านบาท ส่วนตลาดข้าวถุงในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าไม่เกิน 6 หมื่นล้านบาทเติบโต 3-4% เนื่องจากผู้เล่นในตลาดข้าวกระสอบลงมาเล่นในตลาดข้าวถุงด้วย

“ข้าวถุง”แผ่ว ราคาพุ่ง สวนทางคนรุ่นใหม่ บริโภคน้อย

อย่างไรก็ตามปัจจุบันคนไทยมีอัตราการบริโภคข้าวลดลงจากที่เคยเฉลี่ย 100 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ลดลงเหลือเพียง 90 กิโลกรัมต่อคนต่อปี โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่เพราะมีอาหารทดแทนหลายชนิดเช่น สปาเก็ตตี้พิซซ่า แป้งสาลี เข้ามาทดแทน บวกกับความเรื่องบริโภคข้าวทำให้อ้วน ซึ่งไม่เป็นความจริง

ในส่วนของสมาคมมีการรณรงค์ให้คนไทยหันมาบริโภคข้าวมากขึ้นในหลายๆกลุ่ม โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งผู้ประกอบการเริ่มศึกษาชนิดของข้าวที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยหรือเข้าไปทำตลาดในส่วนของ Personal Life ของลูกค้าให้มากขึ้น ส่วนความนิยมของการบริโภคข้าวจะแบ่งเป็นภูมิภาคซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมการกินของแต่ละพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ประกอบการจะสร้างตัวตนของข้าวแต่ละสายพันธุ์สำหรับเจาะตลาดแต่ละพื้นที่

“ข้าวถุง”แผ่ว ราคาพุ่ง สวนทางคนรุ่นใหม่ บริโภคน้อย

ส่วนตลาดที่มีความน่าสนใจคือ “ข้าวเพื่อสุขภาพ” ซึ่งมีระดับการเติบโตเกือบ 10% แต่ยังมีสัดส่วนในตลาดรวมน้อยโดยมีมูลค่าตลาดเพียง 2,000-3,000 ล้านบาท แต่ยังเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตดีและข้าวไทยหลายสายพันธุ์ค่อนข้างเอื้อต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเช่น ข้าวขาว กข. 43 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีน้ำตาลน้อยและมีความนุ่มคล้ายข้าวหอม

“ราคาข้าวถุงปีนี้ปรับตัวสูงขึ้น ข้าวหอมปีที่แล้วราคาอยู่ที่ 19 บาทต่อกิโลกรัม แต่ปีนี้ราคาเริ่มต้นที่ 25 บาทต่อกิโลกรัม ราคานี้ผู้ประกอบการไม่ได้ปรับขึ้นราคาตามต้นทุนวัตถุดิบแต่เป็นการปรับต่ำกว่าต้นทุน และในตลาดมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นในปีนี้ราคาข้าวถุงจะยังทรงๆในระดับนี้ ส่วนในอนาคตจะปรับเพิ่มหรือไม่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะข้าวเป็นสินค้าคอมมูนิตี้ ทำให้มีปัจจัยจากต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”

ด้านนายสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ข้าวมาบุญครอง เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดข้าวเพื่อสุขภาพแม้จะยังมีสัดส่วนเพียง 1% ของตลาดรวมแต่เชื่อว่าจะขยับขึ้นมาได้อีกมาก เพราะผู้บริโภคหันมาดูแลรักษาสุขภาพ

โดยเฉพาะผู้หญิงรุ่นใหม่ ซึ่งข้าวมาบุญครองเป็นเบอร์ 1 ในตลาดนี้กินมาร์เก็ตแชร์ 50% โดยตลาดหลักเป็นตลาดส่งออกไปยังอเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย เวียดนาม 50-60% และในประเทศ 40-50% ในขณะที่ภาพรวมทั้งบริษัทเป็นการส่งออก 35% เติบโตขึ้น 10% และตลาดในประเทศ 65% โตขึ้น 1-2%

“ข้าวถุง”แผ่ว ราคาพุ่ง สวนทางคนรุ่นใหม่ บริโภคน้อย

“ไทยได้เปรียบตรงที่น่าจะเป็นประเทศเดียวที่มีการปลูกข้าวอินทรีย์ หรือทำข้าวออแกนิค รวมทั้งการเบลนด์ข้าวสายพันธุ์ต่างๆ เข้าด้วยกันเพราะคนไทยกินข้าวเก่งที่สุดในโลก และเลือกชนิดข้าวที่เหมาะกับตัวเองตลอดเวลา ดังนั้นมาบุญครองเริ่มทำข้าวเพื่อสุขภาพตามสไตล์ของผู้บริโภคในหลายรูปแบบ

ทั้งข้าว 100% ข้าวเบลนด์กับธัญพืช ข้าวเบลนด์กับข้าวหลายๆชนิด ข้าวเบลนด์กับธัญพืชที่มีคุณค่ามากขึ้น เช่นคีนัว เมล็ดเชีย เพราะเราต้องหาซิกเนเจอร์ของเรา ข้าวเพื่อสุขภาพเราเป็นเจ้าแรกที่ทำ และคาดว่าตลาดน่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นและเราก็ครองตลาดมากที่สุด เพราะฉะนั้นปีนี้เราก็อยากจะขยายตลาดให้โตขึ้นอีก”

ในส่วนของการปรับราคาข้าว มาบุญครองยังคงล็อคราคาข้าวถุงตลอดทั้งปีนี้ โดยราคาข้าวสุขภาพเช่น ไรซ์เบอรี่ยังตรึงราคาอยู่ที่ระดับกิโลกรัมละ 70-80บาท/กก. ส่วนข้าวอินทรีย์ราคา 80-90 บาท/กก. ข้าวขาวหอมมะลิประมาณ 40 บาท/กก. ส่วนข้าวหอมทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 25 บาท/กก.และข้าวขาว 20 บาท/กก.

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,861 วันที่ 12 - 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566