คนไทยเกือบครึ่ง "เลี้ยงสัตว์แทนลูก" ยอมควัก 2 หมื่นเปย์สัตว์เลี้ยง

CMMU เผยอัตราการเด็กเกิดใหม่น้อย คนไทยกว่า 49% หันเลี้ยงสัตว์แทนลูก แถมยอมจ่ายค่าดูแลเฉลี่ยสูงถึง 1-2 หมื่น/ตัว/ปี คาดดันมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% มาอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2026

ผศ. ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เปิดเผยว่า อัตราการเกิดของเด็กในไทยตั้งแต่ปี 2560 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ครอบครัวจำนวนมากหันมานิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพื่อเข้ามาเติมเต็มครอบครัว ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยยูโรมอนิเตอร์คาดการณ์ว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 217,615 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.2%ในปี 2026 รวมทั้งประเทศไทยซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยจะอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2026เติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4%

ด้านนายพัชรพันธุ์ เทียนศิริ นักศึกษาปริญญาโท วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจวิจัยเชิงลึกพบว่าคนไทยะเลี้ยงสัตว์เป็นลูก (Pet Parent) กว่า49% เลี้ยงสัตว์เพื่อสถานะทางสังคม (Pet Prestige) 34% และเลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยเหลือและบำบัดรักษา (Pet Healing) 18% โดยประเภทสัตว์เลี้ยงที่มีมากที่สุด ได้แก่ สุนัข 40.4% แมว 37.1% และสัตว์เอ็กโซติก 22.6%

นอกจากนี้ยังพบว่า 39.3% ของกลุ่มตัวอย่างมีค่าใช้จ่ายอาหารสัตว์ต่อเดือนอยู่ที่ 1,001 – 2,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแลเสมือนลูกทั้งสุนัขและแมวเฉลี่ยอยู่ที่ 14,200 บาท/ตัว/ปี และบริการยอดฮิตที่เหล่าทาสเลือกใช้งานมากที่สุด คือ อาบน้ำตัดขนถึง 61% และส่วนใหญ่เลือกบริการต่างๆ จากทำเลที่สะดวกเหมาะต่อการเดินทาง

นอกจากนี้ สิ่งที่คนรักสัตว์ยังมองหาบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็น 1. Pet Wellness Center บริการตรวจสุขภาพ รักษาโรค อาบน้ำ ตัดขน สปาสัตว์เลี้ยง ฝากสัตว์เลี้ยง จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์ และปรึกษาแพทย์ออนไลน์ 2. Pet Training ฝึกนิสัยสุนัขพันธุ์ดุ คลินิกดัดนิสัยสุนัข-แมว หรือการฝึกกีฬาเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน 3. After Death Service บริการรูปปั้นสัตว์เลี้ยงหลังเสียชีวิต สร้อยล็อกเก็ตแทนใจ หรือตุ๊กตาสุนัขเหมือนจริง 

ขณะเดียวกันความต้องการด้านการรักษาพยาบาลคนเลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่ 43.3% เลือกที่จะนำสัตว์ไปรักษาในคลินิกเอกชน รองลงมา 41.2% เลือกนำสัตว์เลี้ยงเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสัตว์เอกชน และ 9.8% เลือกรักษาในโรงพยาบาลสัตว์รัฐบาล โดยปัจจัยที่พิจารณาเลือกโรงพยาบาล หรือคลินิกในการใช้บริการ คือ ความเชื่อมั่นในสัตวแพทย์เป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ ทำเลที่ตั้ง และชื่อเสียงของคลินิก ทางด้านการรักษาของสัตว์เอ็กโซติก คลินิกเฉพาะทางยังมีไม่มากเท่าไรนัก