ส่องแนวโน้ม"อาหารและเครื่องดื่ม" ปี 2566 เทรนด์ไหนมาแรงเช็คเลย
"มินเทล" เผย4 เทรนด์เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกในปี 2566 และอีก 5 ปีจากนี้ ท่ามกลางความท้าทายรอบด้านในการปรับตัวเข้ากับโลกที่ไม่มั่นคง
"มินเทล" เปิดเผยแนวโน้ม"อาหารและเครื่องดื่ม" ปี 2566 เน้นด้านอวกาศ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สมรรถภาพทางจิต และการตอบสนองผู้บริโภคที่เหนื่อยล้า โดยมีข้อแนะนำให้แบรนด์สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคซึ่งจะพบเจอความท้าทายมากมายในการปรับตัวเข้ากับโลกที่ไม่มั่นคง
รีเบคกา เวลลา ผู้อำนวยการข้อมูลเชิงลึก แผนกอาหารและเครื่องดื่มของมินเทลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยว่าอนาคตบริษัทต่าง ๆ จะสามารถปรับตัว กระจายความเสี่ยง และพัฒนานวัตกรรมอาหารเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในอนาคตข้างหน้าโดยเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกประจำปี 2566 ประกอบไปด้วย
1 ต่อสู้กับสภาพอากาศ: ผู้บริโภคต้องการอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยให้พวกเขาทนต่อคลื่นความร้อน อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ และสภาพอากาศเลวร้ายอื่น ๆ
“การปรับตัวและการแก้ปัญหาอย่างฉับไวจะเป็นสิ่งสำคัญในขณะที่แบรนด์มุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อช่วยผู้บริโภคต่อสู้กับผลกระทบอันร้ายแรงจากสภาพภูมิอากาศที่แย่ลง ผู้บริโภคต้องพบเจอกับลมวนขั้วโลกจนถึงคลื่นความร้อน และพวกเขาจะมองหาผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้ร่างกายรับมือกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจะเห็นการใช้นวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สารอาหารที่กินง่ายสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่และภัยพิบัติอื่น ๆ ความต้องการของการลดการใช้พลังงานจะมีความชัดเจนขึ้นในปี 2566
และทำให้เราเห็นประโยชน์ของการมีอาหารและเครื่องดื่มที่ให้พลังงานติดตัวในช่วงสภาพอากาศเลวร้ายได้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย รังสียูวีที่เข้มข้นกว่าเดิมจะเพิ่มความต้องการของอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติบำรุงผิว อาหารที่เน่าเสียได้ยากจะกลายเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยแบรนด์จัดการกับปัญหาด้านซัพพลายเชน และนอกเหนือไปจากความต้องการหลัก ๆ แบรนด์ยังต้องพัฒนานวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มฉุกเฉินสำหรับผู้ที่มีความต้องการพิเศษ เด็ก และผู้สูงอายุ แบรนด์อาหารสัตว์ควรศึกษาวิธีการช่วยให้สัตว์เลี้ยงอยู่รอดในสภาพอากาศร้ายแรง”
2 จิตใจปลอดโปร่ง: ผู้บริโภคต้องการอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยให้พวกเขามีภาวะทางจิตที่ดีในขณะทำงาน พักผ่อนที่บ้าน และเล่นสนุก
“สมาธิและประสิทธิภาพในการทำงานจะกลายเป็นปัจจัยสุขภาพด้านจิตใจและอารมณ์ที่ผู้บริโภคต้องการ พวกเขาจะมองหาอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการคิด จัดการความเครียด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เราจะเห็นแบรนด์โฆษณาคุณสมบัติบำรุงสมองจากส่วนผสมที่เราคุ้นเคยเช่นส่วนผสมจากพืชต่าง ๆ รวมถึง ผลไม้ ผัก ถั่ว และกาแฟ (ในปริมาณที่พอเหมาะ) แต่แบรนด์ยังต้องทำการวิจัยเพื่อพิสูจน์ให้ผู้บริโภคเชื่อว่าส่วนผสมจากธรรมชาติเช่นวิตามินบีและสารนูโทรปิกส์นั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านความคิดจริงตามที่อ้างไว้
นอกจากนี้งานวิจัยและการจดสิทธิบัตรใหม่ ๆ เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารกันระหว่างระบบประสาทลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง จะสร้างโอกาสให้แบรนด์เน้นย้ำว่าประโยชน์ด้านสุขภาพทางเดินอาหารที่ได้จากโปรไบโอติก พรีไบโอติก และโพสไบโอติก นั้นส่งผลดีต่อสุขภาพด้านความคิดอีกด้วย ความก้าวหน้าที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะทำให้อาหารที่มีไฟเบอร์สูงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น”
3 สู่อวกาศอันสะดวกสบาย: โลกของเราพบเจอกับความโกลาหลมากขึ้น อวกาศได้กลายเป็นจุดกำเนิดของการคิดบวก นวัตกรรม และการเชื่อมต่อ
“ในอนาคตอันใกล้ ความพิศวงของอวกาศจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ อวกาศจะกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากขึ้น ตลาดอาหารและเครื่องดื่มสามารถใช้ประโยชน์จากแนวคิดการหลบหนีจากโลกของความเป็นจริง ด้วยการช่วยเหลือของเทคโนโลยีอวกาศและนวัตกรรมที่ได้จากการท่องอวกาศ เช่นการนำเสนอแร่ธาตุจากดวงจันทร์และมื้อค่ำไร้แรงโน้มถ่วง ความแปลกใหม่ที่ไม่เคยถูกค้นพบของอวกาศนั้นจะมีเสน่ห์อย่างมากต่อผู้คนใน Gen Z ที่ผิดหวังกับสิ่งที่โลกเป็นอยู่ในปัจจุบัน
แต่แบรนด์ก็ควรคำนึงถึงบทบาทของอวกาศที่อาจสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนใน Gen Alpha ได้เช่นกัน การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การเกษตรแบบยั่งยืนและการผลิตโปรตีนผง จะช่วยให้แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มมีตัวเลือกแรงบันดาลใจจากอวกาศที่หลากหลาย นักบินอวกาศต้องการโซลูชันอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่เน่าเสียระหว่างภารกิจอันยาวนานหลายปี ความก้าวหน้าใหม่ ๆ และจากอวกาศอาจช่วยสร้างประโยชน์ให้โลกในอนาคตได้อีกด้วย”
4 สื่อสารแบบมินิมอล: การสื่อสารที่ชัดเจนและเรียบง่ายจะเป็นสิ่งสำคัญในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคที่เหนื่อยล้า
“ความชัดเจนและเรียบง่ายจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การสื่อสารระหว่างแบรนด์กับลูกค้าประสบผลสำเร็จ แบรนด์ควรมุ่งสื่อสารถึงจุดขายสำคัญเพราะผู้บริโภคกำลังมองหาแบรนด์ที่มุ่งนำเสนอข้อดีต่าง ๆ บนตัวสินค้า โดยปล่อยให้เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และการตลาดเป็นตัวช่วยเล่าเรื่องราวเบื้องหลังต่าง ๆ แทน ผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบอย่างเรียบง่ายสะอาดตาและเน้นการนำเสนอส่วนผสมจากธรรมชาติและประโยชน์ต่อสุขภาพ จะดึงดูดลูกค้าที่ต้องการหลีกหนีจากการรับข้อมูลที่มากเกินไป
ในช่วงสิบปีหลังจากนี้ ผู้บริโภคจะใช้โซลูชันเสมือนจริงในการสร้างแรงบันดาลใจ หาความรู้ และยืนยันการตัดสินใจซื้อสินค้า แบรนด์ควรเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อให้มั่นใจว่าเรื่องราวและประโยชน์ของแบรนด์จะเข้าถึงผู้บริโภคที่ใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ ตู้เย็นอัจฉริยะ หรือเลือกใช้ร้านค้าในเมตาเวิร์สเพื่อกรองรายการสินค้าที่ไม่ตรงตามความต้องการที่ตั้งค่าไว้”