"อะแมส มี" ขน 11 มัลติ ลักซ์ชัวรีแบรนด์ เข้าไทยเสิร์ฟลูกค้า LGBTQ+

28 ธ.ค. 2565 | 09:39 น.

‘อะแมส มี’ ยก 11 แบรนด์ดัง จัดมินิแฟชั่นโชว์ ฉลองเปิดตัวช้อปสินค้าสาขาใหม่ตอบโจทย์ลูกค้า LGBTQ+ พร้อมนำเข้าแบรนด์น้องใหม่ Valleyouth (วาเล่ยูส) รองรับลูกค้ากลุ่มใหม่และสร้างยอดขายที่มากขึ้น

บริษัทอะแมส มี จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่น มัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์เปิดตัวช้อปสินค้าสาขาใหม่ ตอบโจทย์ความหลากหลายใน Gender

นางสาวยุฤดี ธนะกิตติภูมิ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท อะแมส มี จำกัด

นางสาวยุฤดี ธนะกิตติภูมิ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท อะแมส มี จำกัด เปิดเผยว่าสำหรับในวงการแฟชั่นปัจจุบันยังไม่มีร้านลักษณะมัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ ที่รวบรวมแบรนด์นำเข้าที่มีเอกลักษณ์และสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปมานำเสนอลูกค้าในเมืองไทย อะแมส มี จึงเป็นแบรนด์แรกที่เห็นความสำคัญมากกว่าการขายสินค้าแฟชั่นทั่วไป แต่ต้องการเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ให้สำหรับทุกคน ที่มีเสื้อผ้าหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์รวมกันอยู่ ให้ทุกคนมาเลือกชม และในแต่ละแบบ แต่ละสไตล์ก็ยังคงแสดงถึงความเป็นตัวตนของลูกค้า ที่สามารถค้นหาตัวเอง และพรีเซ็ตน์ออกมาได้อย่างมั่นใจ

"อะแมส มี" โดยบริษัทอะแมส มี ในเป็นน้องใหม่ในวงการนำเข้าสินค้าแฟชั่น มัลติ ลักซ์ชัวรี ต้องการรวบรวมแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใครจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ลูกค้าได้เลือกสรร บนคอนเซ็ปท์นิยามของแฟชั่นที่สวย และดูดีแบบมีสไตล์ ภายใต้อัตลักษณ์  Never go out of style and Never go out of inspired ซึ่งทุก  แบรนด์ที่นำเสนอภายใต้ อะแมส มี นั้นเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก ได้แก่ Amass me (House Brand), AEL Studio ( Amy Enjoy life), XUNRUO, Jungle Me, CAMOOONI, GOUDIRNQC, LA'FESTIN, TOMATO&POTATO, TSMLXLT, Empty Reference, Valleyouth, และ KAPALIKKO 

"อะแมส มี" ขน 11 มัลติ ลักซ์ชัวรีแบรนด์ เข้าไทยเสิร์ฟลูกค้า LGBTQ+

นอกจากนี้ อะแมส มี ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ถือลิขสิทธิ์แบรนด์ทั้งหมดที่อยู่ใน AMASS ME Shop เพราะฉะนั้น ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่า  ทุกคอลเลกชัน ที่นำเสนอและจัดจำหน่ายนั้นมีสไตล์ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน

“นิยามของคำว่า ‘แฟชั่น’ คือความหลากหลายทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ รวมทั้งเครื่องประดับที่ปัจจุบันเป็นมากกว่าเครื่องนุ่งห่มหรือการสวมใส่ธรรมดา แต่กลายมาเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า นั่นคือเป็นการแสดงอัตตาลักษณ์และตัวตนของแต่ละบุคคล หรือความกล้าที่จะแตกต่าง ซึ่งสิ่งที่อะแมส มี มุ่งให้ความสำคัญคือการสร้างแรงบันดาลใจในทุกๆ คอลเลกชัน ให้กับลูกค้า

"อะแมส มี" ขน 11 มัลติ ลักซ์ชัวรีแบรนด์ เข้าไทยเสิร์ฟลูกค้า LGBTQ+

และหัวใจของการปั้นแบรนด์ที่ อะแมส มี ต้องการคือการส่งเสริมให้ผู้หญิง รวมทั้ง LGBTQ+ กล้าที่จะแสดงออกและเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมั่นใจ และชัดเจน โดยนำเสนอผ่าน Valleyouth (วาเล่ยูส) ที่เป็นคอลเลกชันลักษณะดีไซน์เนอร์แบรนด์ ที่คัดสรรมาใหม่ มีความหลากหลายใน Gender

"อะแมส มี" ขน 11 มัลติ ลักซ์ชัวรีแบรนด์ เข้าไทยเสิร์ฟลูกค้า LGBTQ+

ปัจจุบันอะแมส มี มีช้อปหน้าร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าแล้ว 9 สาขาโดยที่ผ่านมาสินค้ามัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ ภายใต้การจำหน่ายของอะแมส มี นั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในกลุ่มไฮเอนด์ ตลอดจนคนรุ่นใหม่วัยทำงาน   ทำให้ในช่วงปลายปี 2565 นี้ อะแมส มี จึงขยายสาขาเพิ่ม อีก 1 สาขา พร้อมกับนำเข้าสินค้าแบรนด์น้องใหม่ Valleyouth (วาเล่ยูส) มาวางจำหน่าย เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ และเร่งสร้างยอดขายที่มากขึ้น