ค่ายญี่ปุ่น-เวียดนามเดือด ชิงตลาดบะหมี่แดนเหงียน บริโภคโตพันตันต่อวัน

17 ธ.ค. 2565 | 10:07 น.

ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเวียดนามโตกระฉูด บริโภคกว่า 1,000 ตันต่อวัน แบรนด์ในประเทศ-แบรนด์ญี่ปุ่นแข่งเดือดชิงผู้บริโภค หลังแซงหน้าเกาหลีใต้บริโภคต่อหัวสูงสุดในเอเชีย 87 แพ็คต่อคนต่อปี

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.ทูตพาณิชย์) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลของสื่อเวียดนามว่า Euromonitor  ระบุปี 2565 ชาวเวียดนามบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกว่า 1,127 ตันต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20  เมื่อ เทียบกับปี 2559

 

จากข้อมูลในปี 2564 เวียดนามบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประมาณ 411,500 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยยอดขายบะหมี่ กึ่งสำเร็จรูปทั้งหมดในประเทศมีมูลค่า 3.8 ล้านล้านด่ง (มากกว่า 153.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับปี 2563 และร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปี2559

สมาคมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโลก (World Instant Noodles Association : WINA) ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา เวียดนามได้แซงหน้าเกาหลีใต้ในฐานะผู้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อหัวสูงที่สุดในโลก โดยเฉลี่ยชาวเวียดนามบริโภค 87 แพ็คต่อคนต่อปี

 

Euromonitor ระบุว่า Acecook จากญี่ปุ่นและ Masan จากเวียดนามเป็น 2 บริษัทชั้นนำในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเวียดนาม โดยครองส่วนแบ่งตลาดรวมกันที่ร้อยละ 33 โดยส่วนแบ่งตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของ Acecook ในเวียดนามลดลงจากร้อยละ 24 ในปี 2560 เหลือร้อยละ 19 ในปี 2564 ในขณะที่ Masan ของเวียดนามเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12 เป็นร้อยละ 14

สำหรับบะหมี่ยี่ห้อ Hao Hao ของ Acecook ยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุดในเวียดนามในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งการตลาดยังคงลดลงและอยู่ที่ร้อยละ 7.7 ในปี 2564

 

Acecook เป็นผู้มีรายได้สูงสุดจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเวียดนาม โดยในปี 2562 มีรายได้ประมาณ 10 ล้านล้านด่ง และรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ใน 2 ปีต่อมา ซึ่งมีมูลค่ากว่า 12.2 ล้านล้านด่งในปี 2564 อย่างไรก็ตาม การเติบโตลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตในช่วงปี 2560-2562 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากบริษัท Masan บริษัท Asia Foods ของเวียดนาม และผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายอื่น ๆ

 

 Euromonitor ระบุว่า การผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งหมดยังคงเพิ่มขึ้นในแต่ละปีแต่สัดส่วนของการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเทียบกับอาหารอื่น ๆ เช่น ข้าว บะหมี่สด และวุ้นเส้นจะลดลงเหลือร้อยละ 26 ในปี 2564