“แดรี่ควีน” สลัดลุคเสือนอนกินขยับตัวในรอบ26 ปีผุด “แดรี่ควีน ป๊อป อัพ สโตร์”

22 พ.ย. 2565 | 23:20 น.

โควิด ปลุกเสือนอนกิน “แดรี่ควีน”ขยับตัวโยนหินถามทางแตกโมเดลธุรกิจใหม่ “แดรี่ควีน ป๊อป อัพ สโตร์” ในรอบ 26 ปี หวังสร้างการเข้าถึงแบรนด์ ขยายฐานลูกค้าและสร้างการจดจำในภาพลักษณ์ใหม่ เตรียมรุกต่อหากสาขานำร่องฟีดแบคดี

อยู่ในตลาดมานานกว่า 26 ปีด้วยโมเดลธุรกิจหนึ่งเดียว “คีย์ออส”  โดยไม่มีการแตกไลน์โมเดลธุรกิจใหม่ใดๆสำหรับ  “แดรี่ควีน” ที่เปรียบเสมือนเสือนอนกิน แต่หลังจากโดนโควิดสวนหมัดฮุกทำให้ “แดรี่ควีน” ต้องลุกขึ้นมาชาเลนจ์ตัวเองในลุคใหม่ๆ โดยอาศัยจังหวะเทศกาลความสุขโค้งสุดท้ายของปีทำบิ๊กโปรเจ็กต์ “แดรี่ควีน ป๊อป อัพ สโตร์” กระตุ้นตลาด

“แดรี่ควีน” สลัดลุคเสือนอนกินขยับตัวในรอบ26 ปีผุด “แดรี่ควีน ป๊อป อัพ สโตร์”


นายนครินทร์ ธรรมหทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บริษัทในเครือไมเนอร์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า  “แดรี่ควีน” อยู่กับคนไทยมานานและค่อนข้างมี market share ที่แข็งแกร่งโดยเป็นเบอร์ 2 ของตลาดรองจาก สเวนเซ่นส์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าโควิดทำให้หลายๆอย่างดรอปลง แม้ธุรกิจของ“แดรี่ควีน”อาจจะไม่ได้เซจนน่ากลัวเท่ากับคนอื่นด้วยราคาจับต้องได้และเดลิเวอรี่แข็งแรง แต่การเข้ามาของโควิตทำให้ “แดรี่ควีน” ตื่นรู้ได้ว่า การยืนนิ่งภาคภูมิใจและยึดติดกับสิ่งที่เคยเป็นมาโดยตลอดอาจจะconservativeมากไป ดังนั้น “แดรี่ควีน”อาจจะต้องมองอะไรที่ไปไกลมากขึ้น

 

“การโพรไวด์สินค้าให้ลูกค้าอย่างเดียวและขายปกติอาจจะไม่พอแล้ว ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาในช่วงโควิดเราจะไม่เจ็บถ้าเทียบกับคนอื่นและยังอยู่ได้แบบเฮลตี้ แต่เรารู้สึกว่ามันมีความเสี่ยงที่ไม่ควรจะหยุดนิ่งขนาดนั้น จึงเริ่มทำกิจกรรมเล็กๆให้มีสีสัน เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเช่นมีตู้หวานน้อย การออกรสชาติใหม่ ซึ่งทำให้เราเห็นว่านอกจากผลตอบรับที่ดีมากแล้ว Brand awareness ก็ขึ้นและมันส่งผลต่อไปที่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วย 

“แดรี่ควีน” สลัดลุคเสือนอนกินขยับตัวในรอบ26 ปีผุด “แดรี่ควีน ป๊อป อัพ สโตร์”

เดิมร้าน “แดรี่ควีน” เป็นลักษณะของคีออสในห้างสรรพสินค้า  เซอร์วิสจะเน้น สินค้าและการบริการที่รวดเร็วฉับไว แต่ตอนนี้เราต้องการทำสิ่งที่แตกต่างและแปลกใหม่โดยเปิดร้านโมเดลใหม่ “แดรี่ควีน ป๊อป อัพ สโตร์” แห่งแรกในเอเชีย ที่มีความตื่นเต้นทั้งในรูปแบบของสินค้า service และกิจกรรมภายในร้าน”

 

สำหรับไฮไลท์ของ “แดรี่ควีน ป๊อป อัพ สโตร์” คือ Products ที่ไม่มีขายในสาขาอื่นกว่า 5 แคทตากอรี่ อาทิ  Overload Bar, Mini Parfait,Frappe และThe Amazing Cone ซึ่งลูกค้าสามารถ DIY หรือเพิ่มเติมท็อปปิ้งได้ตามที่ลูกค้าต้องการกว่า 20 ท็อปปิ้งและบางท็อปปิ้งเป็น Exclusive เฉพาะสาขานี้สาขาเดียว  ส่วนรูปแบบของร้านจะไม่ใช่ “แดรี่ควีน” แบบเดิม แต่จะมีคอนเนอร์ต่างๆที่เป็นไอคอนนิคของทางร้าน และมีกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นตู้ AI หรือตู้กาชาปอง 

 

“Target Group ของ “แดรี่ควีน” ฐานลูกค้าเรากว้างครอบคลุมทุกเพศ ทุกวัยและแทบจะทุกช่วงอายุ เราจึงเลือกที่จะตั้ง Pop Up Store ที่เซ็นทรัลเวิลด์ในช่วงสิ้นปี เพราะโลเคชั่นตรงนี้น่าจะเข้าถึงผู้บริโภคหลักของเราได้มากที่สุด ซึ่งทราฟฟิกของลูกค้าที่เข้ามาที่ร้านตอนนี้เฉียดพันคนต่อวัน โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มอายุ 20-30 ปลายๆ นอกจากนี้ยังได้สัดส่วนลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นจากร้านปกติในสัดส่วนคนไทย 50% และต่างชาติ 50%  และเราคาดว่าทราฟฟิกน่าจะเพิ่มขึ้น2-3 เท่าในช่วงวันที่ 25 - 30 ธันวาคม และเพิ่มขึ้น 50-70 % เมื่อสิ้นสุดกิจกรรม”

“แดรี่ควีน” สลัดลุคเสือนอนกินขยับตัวในรอบ26 ปีผุด “แดรี่ควีน ป๊อป อัพ สโตร์”

อย่างไรก็ตามผู้บริหารยังให้มุมมองภาพรวมตลาดไอศครีมซอฟท์เสิร์ฟ ว่ายังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้เซมากเท่าตลาดอื่นในช่วงโควิด แต่ต้องยอมรับว่าคู่แข่งหลายๆเจ้าปิดตัวลงไปโดยเฉพาะร้านที่ราคาค่อนข้างสูงหรืออยู่ในโลเคชั่นที่ลูกค้าเข้าไม่ถึงเมื่อลูกค้ามีการรัดเข็มขัดทำให้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ซึ่งตรงนี้ส่วนใหญ่จะล้มหายตายจากไปเยอะ  

 

ส่วน “แดรี่ควีน” ยังสามารถอยู่ได้และค่อนข้างเติบโตเพราะสินค้าจับต้องได้ง่าย โลเคชั่นเข้าถึงง่าย และในช่วงโควิดลูกค้ามีการกักตุน ไอศครีมเค้ก เพื่อแบ่งทานในบ้านลดการออกจากบ้านบ่อยๆทำให้ยอดขายในส่วนนี้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ออกสินค้าไอศครีมหวานน้อยซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง และสามารถดึงลูกค้าเก่าที่อาจจะหายไปจากแบรนด์เพราะความหวานหรือความกังวลด้านสุขภาพกลับคืนมา ขณะที่ลูกค้าประจำกลับเข้ามาใช้บริการบ่อยขึ้น

“แดรี่ควีน” สลัดลุคเสือนอนกินขยับตัวในรอบ26 ปีผุด “แดรี่ควีน ป๊อป อัพ สโตร์”

“ในช่วงโควิดเราเจอกับภาวะต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น เราปรับกลยุทธ์หลายรูปแบบรวมทั้งการปรับราคาและกระบวนการลีนในทุกสเต็ปของซัพพลายเชนรวมไปถึงsupplier ด้วย แต่เราไม่ลด product Quality และปริมาณของสินค้าลง  ขณะเดียวกันเรายังได้รับผลกระทบจากฤดูกาล เช่นหน้าร้อนลูกค้าจะคิดถึงเราโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรมากนักถ้าเทียบกับช่วงทั่วไป แต่ฤดูฝนหรือฤดูหนาวอาจทำให้ยอดขายดรอปลงแต่ด้วยประสบการณ์ที่อยู่ในไทยมานานเราจะรู้ว่าช่วงไหนที่ควรที่จะมีแอคทิวิตี้เยอะขึ้นในเรื่องของสินค้าใหม่ ที่ตอบโจทย์และโปรโมชั่นเรื่องเพื่อกระตุ้นยอดขาย

 

ส่วนการขยายสาขา ปัจจุบันเรามีสาขารวมสาขาในสนามบินกว่า 500 สาขาซึ่งโดยปกติแล้วอัตราการขยายสาขาอยู่ที่ประมาณ100กว่าสาขาต่อปีขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด แต่ในช่วงโควิดเราตั้งเป้าการขยายสาขาราวๆ  20 สาขาต่อปีแต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจ ในส่วนของรายได้ปีนี้เดิมเราตั้งเป้าว่าปีนี้เราจะกลับไปเท่ากับ 2019 แต่ข่าวดีคือตอนนี้ยอดขายเรามากกว่าปี 2019 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”