"CMO" กวาดเรียบเมกะโปรเจกต์มั่นใจรายได้Turnaround

28 ต.ค. 2565 | 12:17 น.

CMO ฟอร์มดีไตรมาส 3-4 กวาดเมกะโปรเจกต์อีเวนต์ – เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ Music Festivalเข้าพอร์ตเรียบ เตรียมลุยต่อเวียดนาม สิงค์โปร์ พร้อมขยายพอร์ต Music Festival ระดับโลกเพิ่มหนุนรายได้ทั้งปี ทะลุพันล้านบาท Turnaroundทำกำไรได้ครั้งแรกในรอบ 3 ปี

ธุรกิจอีเวนต์คึกคัก รับภาพรวมธุรกิจของประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว จากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ “ซีเอ็มโอ” โชว์ฟอร์มดี ไตรมาส3-4 งานจ่อคิวเพียบ ทั้งกลุ่มงานอีเวนต์ – กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ไปจนถึงธุรกิจซัพพลายอุปกรณ์ระบบภาพแสงเสียง รวมไปถึงงานออกแบบก่อสร้าง และบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้  ปีหน้าเตรียมรุกตลาด เซ้าท์ อีสต์ เอเชีย ต่อประเดิม เวียดนาม และสิงค์โปร์ เตรียมจับมือยักษ์ใหญ่ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จากเกาหลี จัดงาน Music Festival ระดับโลกอีกหลายงาน

นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน)


นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2565 จะมีการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอีเวนต์ ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่าสถานที่จัดงานถูกจองจัดงานแฟร์ใหญ่ระดับประเทศเต็มยาวถึงสิ้นปี ซึ่ง CMO ในไตรมาส 4 คว้างานเมกะโปรเจ็กต์หลายงาน โดยคาดว่าเฉพาะไตรมาสที่ 4 น่าจะทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท

โดยงานใหญ่ที่ได้เข้าไปทำ อาทิเช่น MEGA Countdown 2023, งาน Mitsubishi Road Show มิตไมล์เฟสติวัล, งาน K Leasing ที่งาน Motor Expo, งานนิทรรศการแสดงนวัตกรรมและการประชุมด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติระดับโลก ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น

"บริษัทเราได้รับงานจากลูกค้าให้จัดงานให้อย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจธนาคาร, กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มธุรกิจยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังได้เข้าไปรับงานทางด้านการก่อสร้างและบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้อีกหลายโครงการซึ่งมีทั้งหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน โดยในไตรมาสที่ 4 ไปถีงปีหน้าทางบริษัทฯ มีงานในมือและพร้อมที่จะเข้าประมูลเพิ่มมูลค่าหลายร้อยล้านบาท" 

 

 

ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวมกลับไปเท่ากับในช่วงก่อนสถานการณ์โควิดคือประมาณ 1,100 - 1,200 ล้านบาท และคาดว่าผลประกอบการในภาพรวมทั้งปีจะสามารถกลับมาทำกำไรได้ในรอบ 3 ปี ซึ่งถือว่าเรากลับมา Turnaround ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนในปีหน้าคาดว่ายอดขายเราน่าจะเติบโตได้แบบก้าวกระโดด อย่างแน่นอน

 

"ในปีนี้นอกจากธุรกิจทางด้านอีเวนต์แล้ว เรายังหันมาทำธุรกิจทางด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพิ่มโดยล่าสุดเพิ่งจัดคอนเสิร์ต “อันยอง แบงค็อก อารีน่า เค 2022”  ซึ่งประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดีมีผู้เข้าชมแน่นฮอลล์กว่า 15,000คน  สามารถทำรายได้กว่า 80 ล้านบาท  ขณะเดียวกันบริษัทยังเติบโตจากกลุ่มธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ระบบภาพแสงเสียง ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ CMO โดยในช่วงปลายปี ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของงานคอนเสิร์ต ซึ่งผลงานในช่วงไตรมาส 4 อาทิเช่น คอนเสิร์ต “KAMIKAZE PARTY 2022”, คอนเสิร์ต “OCTOPOP 2022” และ ‘T-POP Concert Fest’ เป็นต้น"

 

สำหรับในปีหน้า บริษัทฯ  วางแผนที่จะขยายตลาดธุรกิจ อีเวนต์ และ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ไปยังประเทศในกลุ่ม เซ้าท์อีสต์เอเชีย ซึ่งจะเริ่มต้นจากประเทศเวียดนาม และสิงค์โปร์ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จะมีงานใหญ่ ทั้งงานอีเวนต์ รวมไปถึงคอนเสิร์ตและเฟสติวัล ทั้งจากเกาหลี สหรัฐอเมริกา ยุโรปออกมาอย่างต่อเนื่องไปถึงปีหน้า โดยล่าสุดเตรียมจับมือพาร์ตเนอร์บริษัท เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลี จัดเฟสติวัล และคอนเสริต์ อีกหลายงานด้วยเช่นกัน