ตลาดครีมอาบน้ำยังเป็นเซกเมนต์ที่มีการแข่งขันสูงทั้งจากแบรนด์เดิมเจ้าตลาดและผู้แข่งขันหน้าใหม่ รวมทั้งสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคาและการจัดโปรโมชันอย่างเข้มข้น โดย โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ยังคงเป็นแบรนด์ที่สามารถครองเบอร์หนึ่งในกลุ่มบิวตี้มาได้ถึง 3 ปีซ้อน
และในปีนี้ความแรงของกระแสกัญชง บวกกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่จับจับใจสินค้าพรีเมี่ยมมากขึ้น โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ จึงกลายเป็นแบรนด์ที่ไลอ้อนประเทศไทย เลือกให้เป็นแบรนด์นำทัพในการบุกตลาดกัญชงและอัพเลเวลขึ้นไปเล่นในตลาดพรีเมี่ยมเป็นแบรนด์แรก เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามราคา
นายประเสริฐ สุรัตนเมธากุล ผู้จัดการส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม และเด็ก บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง3 ปีที่ผ่านมาโชกุบุสซึ โมโนกาตาริสามารถคลองอันดับ 1ของตลาดครีมอาบน้ำในประเทศไทย 3 ปีซ้อน สำหรับโสดในปีนี้นอกจากการรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดแล้ว การมำให้แคตากอรี่ของครีมอาบน้ำเติบโตขึ้นก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เพราะช่วงโควิดมีการแข่งขันทางด้านราคาค่อนข้างรุนแรง
ดังนั้นโชกุบุสซึจึงต้องมองหาช่องทางการเติบโตในมุมของผลิตภัณฑ์สินค้าที่มีอินโนเวชั่นมากขึ้น เพราะในภาพรวมตลาดปัจจุบันมีการนำเข้าครีมอาบน้ำจากต่างประเทศจำนวนมาก และขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมี่ยมได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้เทรนด์การเติบโตของตลาดครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ สารสกัดจากกัญชง และดับเบิ้ลพรีไบโอติก ยังเป็นกระแสที่จะถูกนำมาใช้ในกลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์มากขึ้น สอดรับกับกระแสผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความใส่ใจในสุขภาพมีความต้องการสินค้าที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น หลังจากแนวคิดนี้ค่อนข้างมีการใช้ค่อนข้างแพร่หลายแล้วในกลุ่มอาหาร
ขณะที่กัญชงก็เป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมมากในปีนี้ โดยจะเห็นได้ว่ามีการนำไปใช้เป็นส่วนผสมในหลายผลิตภัณฑ์ ซึ่งทางโชกุบุสสึได้ให้ความสำคัญกับการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นลำดับแรกในการนำส่วนผสมนี้มาใช้เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์สูงสุดและมีความปลอดภัยในการใช้
ดังนั้นทิศทางของโชกุบุสซึ โมโนกาตาริหลังจากนี้ จะมุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ของสินค้าที่ตรงใจผู้บริโภคและทำตลาดสินค้าที่มีความพรีเมียม มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานของลูกค้า เช่น ความสะอาด ความหอม การบำรุงผิว โดยได้พัฒนาเป็นเจลอาบน้ำที่สามารถแก้ปัญหาผิวของลูกค้าได้ ซึ่งมีคุณภาพเทียบชั้นสินค้าครีมอาบน้ำนำเข้าในกลุ่มพรีเมียมหรือสินค้ากลุ่มเวชสำอางค์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่สูงขึ้นของลูกค้า เนื่องจากตลาดนี้ยังมีช่องว่างและมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก
“ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวใน3 เรื่อง คือสิว ผิวแห้งไม่ชุ่มชื้น และสุดท้ายผิวไม่กระชับ/หย่อนคล้อย เราเห็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ไข 3 ปัญหาหลักของผู้หญิงไทย และเราเป็นครีมอาบน้ำแบรนด์แรกที่ใช้พรีไบโอติกและกัญชงมาผลิตครีมอาบน้ำ
เพราะเรารู้ว่ากระแสของกัญชงกำลังมาและคนกำลังให้ความสนใจ เราจึงทำครีมอาบน้ำสูตรใหม่ เจลอาบน้ำโชกุบุสซึ สกิน โซลูชั่น ซีรีส์ ขึ้นมาและภายใต้โชกุบุสซึ เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพราะฉะนั้นนอกจากตัวครีมอาบน้ำเรายังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าโดยแก้ปัญหาเรื่องสิวและความชุ่มชื้น เราค่อนข้างมั่นใจว่าสินค้าตัวนี้จะได้รับการเติบที่ดีต่อตลาด
นอกจากนี้เรายังมีความพยายามที่จะนำพืชจากเกษตรชุมชน หรือวัตถุดิบที่เกิดจากเกษตรชุมชนมาใช้ในผลิตภัณฑ์ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมเกษตรชุมชนนั้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเราต้องใช้วัตถุดิบนั้นตลอดเวลาที่ขายสินค้านั้น”
ทั้งนี้บริษัทได้ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำ “โชกุบุสซึ สกิน โซลูชั่น ซีรีส์” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดครีมอาบน้ำ โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมีการจัดแคมเปญเพื่อส่งเสริมการขายและสร้างการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์พร้อมกับใช้พรีเซ็นเตอร์นางเอกสาว “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย รวมไปถึงการใช้สื่ออินฟลูเอนเซอร์ต่าง ๆ และการจัดกิจกรรมรีวิวผลิตภัณฑ์ทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย
ผู้บริหารกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน บริษัท มียอดขายรวมเฉพาะในส่วนผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ อยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 24% ขณะที่ตลาดครีมอาบน้ำยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลตลาดครีมอาบน้ำของประเทศไทยจาก Nielsen (รอบเดือนกรกฎาคม 2565) ตลาดครีมอาบน้ำมีมูลค่าประมาณ 7300 ล้านบาท เติบโต 5.2% โชกุบุสสึยังคงเป็นแบรนด์ครีมอาบน้ำที่มียอดขายเป็นอับดับ 1 ซึ่งเป็นการเป็นอันดับ 1 มาติดต่อกัน 3 ปีซ้อน
โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำกลุ่มความงามซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของตลาดครีมอาบน้ำ โชกุบุสสึมียอดขายอันดับ 1 มีส่วนแบ่งตลาด 29% นอกจากนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Shokubutsu For men ยังขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดครีมอาบน้ำสำหรับผู้ชายที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 300 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งตลาด 43% ทั้งนี้ตั้งเป้ารายได้จาก เจลอาบน้ำโชกุบุสซึ สกิน โซลูชั่น ซีรีส์ 100 ล้านบาท
“ตลาดครีมอาบน้ำแบ่งเป็น 5 แคตตากอรี่ได้แก่ Beauty 50% Healthy 20% เด็ก10% แฮนด์วอช10% และครีมอาบน้ำผู้ชาย10% โดยในช่วง covid ที่ผ่านมาแคตตากอรี่เฮลตี้เติบโตมากที่สุดแต่หลังจากที่ covid เริ่มแผ่วลงกลุ่ม Beauty เริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง สำหรับผลงานของโชกุบุสซึ 8 เดือนที่ผ่านมาถือว่าเราทำได้ดีสิ่งที่เราคาดหวังคือทำให้ตลาดครีมอาบน้ำเติบโตต่อไปโดยไม่ต้องพึ่งพาการแข่งขันทางด้านราคา เราจึงโดดเข้ามาเล่นในตลาด Premium ซึ่งเป็นกลุ่มที่คนที่มีกำลังซื้อ ให้ความสนใจ
นอกจากนี้สถานการณ์ทางด้านต้นทุนในปีนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงแม้จะปรับลงเล็กน้อย ซึ่งเราไม่ได้มีการปรับราคาผลิตภัณฑ์ขึ้นแต่มีการปรับราคาให้เป็นมาตรฐานและอยู่ในเพดานราคาเดียวกันในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายและลดการทำโปรโมชั่นลง นอกจากนี้เราก็ยังคอนเสิร์ตในเรื่องของเงินเฟ้อเพราะแม้จะมีแนวโน้มดูดีขึ้นแต่คนก็ยังคงระมัดระวังเรื่องของการใช้จ่ายเราจึงพยายามทำผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภครู้สึกว่าคุ้มค่าคุ้มในการจ่าย”