ครม.ถกปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ กระตุ้นตลาดทุน
การประชุมครม. วันนี้ หารือปรับเงื่อนไขใหม่กองทุน Thai ESG ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ หวังช่วยกระตุ้นตลาดทุน พร้อมชงสินเชื่อ SME Green ช่วยเติมสภาพคล่องผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
วันนี้ (30 กรกฎาคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย หรือ Thai ESG โดยออกเป็นร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ...) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
สำหรับการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย มีสาระสำคัญเป็นการปรับเงื่อนไขของกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thai ESG (Thailand ESG Fund) ใหม่ ซึ่งจะอยู่ภายใต้มาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน ตามที่รัฐบาลได้แถลงไปก่อนหน้านี้
การปรับเงื่อนไขของกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thai ESG มีรายละเอียด ดังนี้
- ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิมสูงสุด 100,000 บาท
- มีระยะเวลาถือครอง 5 ปี จากเดิม 8 ปี (นับจากวันที่ซื้อ)
- ต้องลงทุนหุ้นใน SET/MAI โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (E) / ESG หรือเปิดเผยข้อมูล ก๊าซเรือนกระจก หรือระดับการประเมิน cg rating ของ IOD และมีการเปิดเผยข้อมูลด้านบรรษัทภิบาล (G) ที่ ก.ล.ต. กำหนด, ESG Bond และ Green Token
- หุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากลมากกว่า 80% จากเดิมเน้นที่ ESG Bond และ Green Token
พร้อมกันนี้ที่ประชุมครม. ยังเตรียมพิจารณาขอความเห็นชอบดำเนินโครงการสินเชื่อ SME Green Productivity วงเงิน 15,000 ล้านบาท เป็นโครงการสินเชื่อธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) เพื่อช่วยเติมสภาพคล่องให้กับกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วย