อัตราการวิ่งของรถยนต์กึ่งสันดาป-กึ่งไฟฟ้า รวยริน-รอวันอัสดง หลัง “รถอีวีจีน” ทุบตลาดรถยนต์สันดาป-ดิสรัปต์
เป็นที่มาของ “มติบอร์ดอีวี” ต่อลมหายใจรถยนต์ HEV ปลุกตลาดรถยนต์ไฮบริดให้กลับมากระฉับกระเฉงอีกครั้ง
เป็นที่มาของการออกมาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยการปรับลดภาษีสรรพาสามิตให้อยู่ในระดับคงที่ตั้งแต่ปี 2571-2575 รวม 5 ปี
คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ หรือ “บอร์ดอีวี” ที่มี “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั่งหัวโต๊ะมีมติเห็นชอบปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตในระดับคงที่
สำหรับรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารขนาดที่นั่งไม่เกิน 10 คน แบบไฮบริด (HEV) ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไม่เกิน 120 g/km ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า หรือ ตั้งแต่ปี 2571-ปี 2575 โดยมีอัตราภาษีสรรพสามิต ดังนี้
ขณะที่โครงสร้างภาษีใหม่ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2569 จะมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตร้อยละ 2 ทุก 2 ปี ดังนี้
ภายหลัง “มติบอร์ดอีวี” เห็นชอบต่อลมหายใจรถยนต์ไฮบริด “นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์” เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (ฺBOI) ในฐานะกรรมการและเลขานุการบอร์ดอีวีกล่าวในช่วงแถลงข่าวว่า
“เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และสามารถวางแผนการลงทุนได้ล่วงหน้า เกิดความมั่นใจว่าจะได้รับอัตราภาษีในอัตราพิเศษและนำเงินลงทุนในประเทศไทย ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการพูดคุยร่วมกันระหว่างบีโอไอ สรรพสามิตและผู้ประกอบการ”
ด้าน “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า พยายามรักษาฐานการผลิต โดยคงอัตราภาษีสรรพสามิต ไม่ปรับขึ้นในปี 71 ภาษีสูญเสียอาจจะมี แต่สิ่งที่จะได้คืนมา คือ มูลค่าในอุตสาหกรรม ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่จะมาลงทุน ไม่นับเม็ดเงินที่จะมาลงทุนจากบีโอไอ
ทว่า “มิติบอร์ดอีวี” ที่เห็นชอบปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฮบริด เป็นการ “แก้ไขมติเดิม” ที่เห็นชอบไปแล้วสดๆร้อนๆ ในวันเดียวกัน
เพราะหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมบอร์ดอีวีเมื่อวันที่่ 26 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.45 น. “พิชัย” ที่ทำหน้าที่เป็นประธานบอร์ดอีวีได้เรียกกรรมการให้มาประชุมต่อ จนเกิดความวุ่นวายเล็กน้อยในช่วงการตามกรรมการที่เดินทางกลับไปแล้วและกำลังเดินทางกลับให้กลับมาประชุมอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า กรรมการหลายคนเดินทางกลับไปแล้ว อาทิ ตัวแทนประธานหอการค้าไทย นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
ขณะที่กรรมการคนอื่น ๆ ที่กำลังรอรถเพื่อเดินทางกลับหน่วยงาน เช่น นายกุลิศ สมบัติศิริ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ตัวแทนจากปลัดกระทรวงพลังงาน ที่กำลังเตรียมตัวเดินทางกลับต้องกลับเข้าไปร่วมประชุมกับนายพิชัยต่อที่ยังนั่งรออยู่ในห้องประชุม
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง-ผู้ติดตามมา ต้องโทรศัพท์ตามกรรมการหลายคนที่เดินทางกลับไปแล้วรีบกลับเข้ามาในห้องประชุมอีกครั้ง
ขณะที่นายดนุชาเปิดเผยสั้น ๆ ถึงการเรียกให้กลับมาประชุมบอร์ดอีวีอีกครั้ง ทั้งที่กำลังจะเดินทางกลับ ว่า “ไม่มีอะไร เป็นการเรียกมาเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน”
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวจากที่ประชุมบอร์ดอีวีเปิดเผยภายหลัง ว่า “พิชัย” ได้แก้ไข “มติบอร์ดอีวีเดิม” ที่ได้เห็นชอบไปก่อนหน้าการเรียกกลับมาประชุมต่ออีกรอบ ดังนี้
แหล่งข่าวในที่ประชุมบอร์ดอีวีเปิดเผยว่า เป็นการแก้ไขช่วงการปล่อย CO2 และอัตราภาษีสรรพสามิต และการขยายระยะเวลาไป 5 ปี ซึ่งจะส่งเสริมผู้ประกอบการมากขึ้น ภาษีลดลง 1 % เพื่อส่งเสริม HEV และให้ผู้ประกอบการเดิมสามารถผลิตต่อได้ ไม่โดนดิสริปต์โดย EV 100 % และหลังจากบอร์ดมีมติแล้วจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.อนุมัติ
“ผู้ประกอบการขอลดหน่อยได้หรือไม่ โดยให้เหตุผลเพราะลำบากมาก ขอใช้อัตราภาษีสรรพสามิตเดิม แต่รัฐบาลจะเก็บภาษีลดลง”แหล่งข่าวกล่าว