นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจว่า” ภาพรวมสภาพเศรษฐกิจของภาคกลางปัจจุบันค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภค ชะลอตัวและขาดความมั่นใจเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคการเกษตรก็เจอสภาวะภัยแล้งทำให้ผลผลิตลดลง ด้านภาคท่องเที่ยวแม้จะมีการเติบโตช่วงเทศกาลสงกรานต์แต่ว่าหลังเทศกาลท่องเที่ยวก็ชะลอตัว
เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงอยากภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือและขอเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหอการค้าภคกลาง ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว แบ่งออกเป็น 6 มาตรการหลัก ได้แก่
ทั้งนี้ ทางหอการค้าไทยได้มีการสนับสนุนให้มีการท่องเที่ยวในเมืองรองเพิ่มขึ้น โดยได้ร่วมมือกับรัฐบาลทำโครงการ ยกระดับเมืองรอง เพิ่มรายได้ให้เศรษฐกิจท้องถิ่น มีจังหวัดนำร่อง 2 จังหวัด คือราชบุรีและกาญจนบุรี เน้นเรื่องการปลดล็อคศักยภาพเมืองรองที่เป็นต้นแบบ ส่งเสริมการลงทุน พัฒนาการการท่องเที่ยวควบคู่กับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดี
“การส่งเสริมต่าง ๆ ก็ต้องเข้าไปดูแลนด์มาร์กของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละจังหวัด และนำมาพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น การจัดงานเทศกาล หรือจัดอีเว้นท์ที่น่าสนใจ รวมถึงวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อนำมาพัฒนาเป็นสินค้าของพื้นที่ของชุมชนสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เห็นมาตรการที่รัฐบาลจะนำใช้ในการะตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท เรามองว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ที่จะเข้มาช่วยเพิ่มกำลังซื้อและการจับจ่ายประชาชน ซึ่งทางภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลมีมาตรการระยะกลางระยะยาวด้วย
“นอกจากการแจกเงินให้กับประชาชนเพื่อใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งภาครัฐคงไม่มีงบประมาณที่ต้องทำต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นเรื่องของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในเรื่องความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ก็คงต้องทำทางระยะกลาง ระยะยาว เพราะว่าตอนนี้ประเทศไทยถือว่ามีโอกาสที่ดีในเรื่องการโยกย้ายฐานการผลิต ซึ่งนักลงทุนมองประเทศอาเซียนและประเทศไทย อยู่ว่าที่ประเทศไทยจะปรับในเรื่องของความสามารถในการงานของประเทศและความน่าสนใจ ให้กับนักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนที่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น”