จับตาหุ้น‘หมู-ไก่’คึก ท่องเที่ยว-รีเทล ดีดแรงชิงยอดขาย ตรุษจีน

“ตรุษจีน” ยังคงเป็นเทศกาลสำคัญที่มีการจับจ่ายคึกคัก โดยปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้กว่า 3.43 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีน ขณะที่เม็ดเงินสะพัดโดยรวมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท สร้างความตื่นตัวให้กับผู้ประกอบการไทย จนต้องลุกขึ้นมาอัดงบลงทุน จัดแคมเปญเพื่อชิงกำลังซื้อ

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เซ็นทรัลพัฒนาและห้างเซ็นทรัล เป็นเดสติเนชั่นอันดับหนึ่ง เป็นแลนด์มาร์ก การจับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว ช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยปีนี้ใช้งบลงทุนราว 500 ล้านบาทจัดแคมเปญ “The Great Chinese New Year 2024” โฟกัสใน 3 กลุ่ม Quality Target

ได้แก่ คนไทยเชื้อสายจีน, คนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวมาเลเซียและจีน ซึ่งถือว่าติดอันดับชาติที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด สอดรับกับโครงการ Easy e-Receipt ของภาครัฐที่จะยิ่งกระตุ้นจับจ่ายเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรก ตั้งเป้าทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 20% ทั่วประเทศ คาดว่าจะสร้างเงินสะพัดจากแคมเปญกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

“ช่วงเวลาที่ธุรกิจคึกคักเป็นพิเศษคือช่วงเทศกาล เช่น เทศกาลตรุษจีน ซึ่งมีอิทธิพลในการกระตุ้น การจับจ่าย เนื่องจากคนไทยเชื้อสายจีนมีความเชื่อเรื่องวันจ่าย วันเที่ยว ที่เป็นปัจจัยให้ออกมาจับจ่ายนอกบ้านเพื่อเป็นการรับความมงคล ตลอดทั้งปี”

ด้านนายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า คาดว่าในช่วงตรุษจีนนี้คนไทยซื้อของไหว้เพิ่มขึ้นกว่า 31% โดยราคาสินค้านั่นไม่เพิ่มสูงขึ้นมากนักเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลให้กำลังซื้อลงลด

จึงตรึงราคาให้ราคาจับต้องได้เริ่มต้นที่ 415 บาทเป็นชุดไหว้เริ่มต้น เทรนด์ที่มาแรงในปีนี้ของผู้บริโภคคือนิยมซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมบรรจุภัณฑ์ของไหว้ต้องย่อยสลายได้และไม่สร้างมลพิษทางอากาศมากนัก โดยในปีนี้บริษัทคาดว่ายอดขายในช่วงตรุษจีนเพิ่มขึ้นราว 15%

ขณะที่ไอคอนสยาม ซึ่งใช้งบลงทุนรวม 100 ล้านบาทในการจัดแคมเปญรับเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ โดยนายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยาม จับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานฉลองตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด “ผสานพลังมหามังกร ฉลองปีมหามงคล” เพื่อให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์อันเป็นมงคลครบทุกมิติ

ซึ่งมั่นใจว่า แคมเปญนี้จะสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายและทำให้ประเทศไทยกลายเป็นอีกหนึ่งงานเฟสติวัลระดับโลก และดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้มาเยี่ยมชมและร่วมงานตลอดเดือนเทศกาลตรุษจีนได้มากกว่า 3.5 ล้านคน ทำให้เกิดยอดจับจ่ายใช้สอยภายในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น 8-10% จากปีก่อน”

นอกจากนี้ที่ “สยามพิวรรธน์” ยังจัดแคมเปญฉลองเทศกาลตรุษจีน รับปีมังกรทอง ขึ้นทั้งที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วม Co-create & Collaboration กับ ศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก Ken Kelleher มาออกแบบมังกร ในคาแรกเตอร์ที่สะท้อน Positioning ของทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ นับเป็นครั้งแรกที่ศิลปินชาวอเมริกันที่มีผลงานโดดเด่นในการสร้าง placemaking มาร่วมรังสรรค์ผลงานกับศูนย์การค้าในประเทศไทย

สอดรับกับนาย อัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กำลังซื้อในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมาภาพรวมยอมรับว่าไม่สู้ดีนัก ในฐานะเอกชนต้องมองว่าเราต้องสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองก่อนด้วยการจับมือพันธมิตรจัดฉลองตรุษจีนยิ่งใหญ่ต้อนรับปีมังกร “ไหว้ตรุษจีน เฮง เฮง เฮง รับปีมังกร ที่บิ๊กซี” ต้อนรับตรุษจีนปีมังกร ที่บิ๊กซีทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ โดยคาดว่าจะมียอดขาย 1,200 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 40%

“เรามาสร้างความเชื่อมั่นกันเอง ว่าประเทศยังเดินหน้าต่อไปได้ ออกมาจับจ่ายใช้สอยให้เงินหมุนไปหลายๆรอบ จัดไหว้เจ้าใช้ของดี ทำให้เฮง เฮง หวังว่าธุรกิจไตรมาสที่ 2 จะดีขึ้น กำลังซื้อที่มีปัญหาและปัญหาหนี้ครัวเรือนนั้น เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ทำงานกันเต็มที่ ภาคเอกชนรอเชียร์อยู่ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรออกมาหรือไม่ที่จะทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นมากขึ้น”

นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนถือเป็นอีกเทศกาลที่เข้ามามีช่วยสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจว่าจะมีหุ้นกลุ่มไหนบ้างที่จะได้รับอานิสงส์จากช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ โดยมองกว่ากลุ่มแรกที่จะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากเทศกาลตรุษจีน คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเนื้อหมูและเนื้อไก่

ได้แก่ CPF-GFPT-TFG-BTG ตามความต้องการบริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาล ประกอบกับหลังจากที่ภาครัฐลงแรงปราบปรามหมูเถื่อน ไก่เถื่อน ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ความกังวลใจต่อการบริโภคเนื้อหมูและเนื้อไก่คลายตัวลงมากแล้ว ทำให้ราคาเนื้อหมูสดและเนื้อไก่สดในปัจจุบันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มองว่า TU ก็มีความน่าสนใจ แม้ว่าจะเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มุ่งเน้นไปที่อาหารทะเลครบวงจร แต่ก็เชื่อว่าปลาจะเป็นที่ต้องการในช่วงเทศกาลด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ มองว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะเป็นอีกกระแสที่ช่วยดึงดูดการท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน ทำให้มองว่ากลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะกลับมามีความคึกคักมากขึ้น โดยมอง AOT และ AAV จะได้รับผลบวกในเชิงของการเดินทางระหว่างประเทศ อีกทั้งด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มองว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนได้ในช่วงนี้ ขณะที่ ERW และ CENTEL จะได้รับผลบวกจากการเพินทางท่องเที่ยวและพักผ่อน

สำหรับกลุ่มค้าปลีก (Retail) นั้น ก็คาดว่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค ของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ได้แก่ BJC CPAXT CPN CRC ด้วย