"อินนิเวท"ปักเป้าขึ้นแท่นผู้นำตลาดบานเกล็ดโลก

14 ม.ค. 2567 | 05:02 น.

"อินนิเวท"ปักเป้าขึ้นแท่นผู้นำตลาดบานเกล็ดโลก หลังมองเห็นแนวโน้มการเติบโตจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ เล็งโอกาสในตลาดฮ่องกง อินเดีย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

มร.พอล แพฟเฟตต์ ผู้อำนวยการบริษัท อินนิเวท จำกัด เปิดเผยว่า โอกาสทางธุรกิจในปี 67 และระยะยาวนั้น บริษัทยังมองแนวโน้มการเติบโตจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมุ่งเป้าการเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดผลิตภัณฑ์บานเกล็ด หรือ Performance Louvre

ทั้งนี้ จากปัจจุบันบริษัทสร้างผลงานและความสำเร็จด้านยอดขายในตลาดระดับภูมิภาค (Regional Brand) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนทั้งหมด 

โดยบริษัทมองโอกาสในตลาดฮ่องกง อินเดีย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีมาตรฐานการทดสอบผลิตภัณฑ์ตรงกัน ซึ่งปัจจัยสำคัญในการผลักดันสู่เป้าหมายดังกล่าว คือ การมีพันธมิตรที่ดี

"อินนิเวท"ปักเป้าขึ้นแท่นผู้นำตลาดบานเกล็ดโลก

มร.พอล กล่าวอีกว่า อินิเวทมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บานเกล็ดระบายอากาศที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและงานด้านสถาปัตยกรรม โดยมีการออกแบบวิจัยและพัฒนาสินค้าเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดให้แก่ลูกค้า ด้วยคุณสมบัติและจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ในเรื่องการถ่ายเทอากาศระบบความร้อนภายในอาคาร 

รวมถึงเครื่องจักรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ใช้งานในตัวอาคาร และยังป้องกันการสาดของน้ำฝน ลดอัตราการเสียหายที่จะเกิดขึ้นขณะฝนตกหรือมรสุม แผ่นบานเกล็ดผลิตจากวัสดุอลูมิเนียม ตอบสนองความต้องการอาคารยุคใหม่ที่เน้นความคงทน ควบคู่ความหรูหรา

“การใช้บานเกล็ดระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ ถือเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมการไหวเวียนของอากาศ แสง หรือแม้แต่เสียงที่ผ่านหน้าอาคารด้วย ซึ่งอินนิเวท มีการวิจัยและพัฒนาออกแบบเพื่อให้ตอบรับกับคุณสมบัติทางวิศวกรรม มีฟังก์ชั่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ ความต้องการของลูกค้าได้ทุกมิติ”

ปัจจุบันอินนิเวทมีลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นฐานทัพธุรกิจที่สำคัญ โดยอินนิเวทยังร่วมมือกับ JTC (Jurong Town Corporation) หน่วยงานของรัฐบาลที่ทำหน้าที่ดูแลและพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในประเทศสิงคโปร์ เพื่อตอบโจทย์บานเกล็ดคุณภาพสำหรับอาคารต่างๆ เป็นต้น รวมถึงลูกค้าในประเทศเวียดนาม เมียนมา ฟิลิปปินส์ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย อินเดีย และสหรัฐอเมริกา