คลัง ลุยแก้หนี้ฯ 2566 เปิดตัว “ออมเพลิน” ในเป๋าตัง ลุ้นเงินสมทบสูงสุด 1 แสนบาท

27 พ.ย. 2566 | 04:43 น.

กระทรวงการคลัง ผนึกภาครัฐ-เอกชน เปิดตัว “ออมเพลิน” ในแอปฯเป๋าตัง แก้หนี้ครัวเรือน ออมขั้นต่ำ 5 บาท  ครบ 50 บาท ส่งเงินเข้ากองทุนการออมแห่งชาติทันที พร้อมลุ้นรับเงินสมทบสูงสุด 1 แสนบาท หลังพบคนไทยเพียง 20% ที่มีวินัย

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นข้อมูลสำคัญของรัฐ และหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยยังสูงกว่าเกณฑ์ที่ควรจะเป็น โดยการออมเงินจะเป็นหนึ่งกลไกในการสร้างวินัยและช่วยลดปัญหาหนี้ครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นการออมไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือการออมเพื่อรองรับวัยเกษียณ อย่างไรก็ตาม พบว่า มีคนไทยเพียง 20% ที่มีวินัย แบ่งเงินไว้ออม ส่วนที่เหลือเอาไว้ใช้จ่าย

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจึงเล็งเห็นความสำคัญ จึงได้ดูแลประชาชนผ่านการสนับสนุนให้มีการออมภาคบังคับ และการออมรูปแบบสมัครใจ

โดยล่าสุด มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (มูลนิธิ สวค.) โดยการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF)  นำร่องนวัตกรรมบริการการออมเพื่อการเกษียณอายุให้กับแรงงานนอกระบบ ร่วมกับ  กองทุนการออมแห่งชาติ  (กอช.) และธนาคารกรุงไทย เปิดการใช้บริการ “ออมเพลิน” บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง

โดยโครงการฯ นี้ มุ่งหวังให้เกิดการออมอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะเป็นการเก็บออมในจำนวนเงินเพียงเล็กน้อยต่อครั้งที่มีการชำระซื้อสินค้า โดยกำหนดเงินออมขั้นต่ำเพียง 5 บาท  และเมื่อสะสมครบ 50 บาท จะสามารถนำส่งเงินเข้า กอช. ได้ทันที

สำหรับผู้ที่ออมเงินผ่านบริการออมเพลินตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2567 จะได้รับสิทธิพิเศษ โดยได้รับเงินสมทบสูงสุด 100 บาทต่อเดือน พร้อมรับสิทธิลุ้นรับเงินรางวัล 500 บาท โดยในแต่ละเดือนมีจำนวน 500 รางวัล และพร้อมสิทธิลุ้นรับเงินสมทบเพิ่มเติมสูงสุดถึง 100,000 บาท

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ปัจจุบันงบประมาณในการดูแลผู้สูงอายุ เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 5 แสนล้านบาท คิดเป็น 15% ของวงเงินงบประมาณ ซึ่งในอนาคตตามแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้มีการใช้งบประมาณเพิ่มสูงเรื่อยๆ โดยกระทรวงการคลังเห็นว่าต้องต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับการออมเพื่อรองรับวัยเกษียณเพื่อเข้ามาลดปัญหาดังกล่าว ฉะนั้น จึงได้เกิดบริการออมเพลินขึ้นมา

นางสาวรพีสุภา หวังเจริญรุ่ง รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า จากการสำรวจพฤติกรรมการออมของครัวเรือน ที่จัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเมื่อปี 2563 และการสำรวจโดยธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า สัดส่วนของครัวเรือนไทยมีการออมประมาณ 74.1% โดย 66.4% เป็นการวางแผนการออมเพื่อการเกษียณอายุ แต่มีเพียง 18.2% เท่านั้น ที่ทำได้จริงตามแผน

โดยเหตุผลหลักของการที่ไม่สามารถเก็บเงินออมได้ คือ มีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย  ดังนั้น การพัฒนาบริการ “ออมเพลิน” ในโครงการส่งเสริมการออมเพื่อการเกษียณอายุสำหรับแรงงานนอกระบบด้วยแนวคิด “Automatic Saving for Retirement”  จึงเป็นการปรับพฤติกรรมให้สามารถออมเงินตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้

ขณะที่มีการใช้จ่ายชำระเงินซื้อสินค้าแต่ละครั้ง ไม่ต้องรอให้มีเงินเหลือถึงค่อยเก็บออม  ซึ่งในเฟสแรกของโครงการนี้ เงินออมจะถูกสะสมไว้ใน กอช. และผู้ออมจะได้รับเงินสมทบตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ กอช. กำหนด นอกจากนี้ ในบริการออมเพลินนี้มีการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการออมและแผนการลงทุนควบคู่ไปด้วย