พาณิชย์ มั่นใจส่งออกทั้งปีติดลบไม่เกิน 2% "อิสราเอล" ยังไม่กระทบ

03 พ.ย. 2566 | 08:15 น.

พาณิชย์ มั่นใจส่งออกทั้งปีติดลบไม่เกิน 2% ระบุ สถานการณ์ความขัดแย้ง "อิสราเอล-กลุ่มฮามาส" อยู่ในวงแคบยังไม่กระทบส่งออก กำชับเกาะติดสถานการณ์ต่อเนื่อง เตรียมประเมินสถานการณ์ร่วมกับเอกชน 10 พ.ย.นี้ 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมบูรณาการร่วมพาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ว่า กระทรวงฯได้รับรายงานสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสอย่างต่อเนื่องจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง สำหรับสถานการณ์สงครามในเวลานี้ยังคงจำกัดวงและไม่ได้ขยายพื้นที่ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งเป็นตลาดการค้าหลักของไทย ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการค้าของไทยจึงยังคงอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก

ทั้งนี้ อยากให้มีการพิจารณาถึงสถานการณ์ความปลอดภัยเป็นหลักและหวังว่าเหตุการณ์จะไม่ขยายวงออกไปซึ่งอาจกระทบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ เบื้องต้นทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศจะต้องติดตามและเตรียมความพร้อมตั้งรับกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนไปในทุกรูปแบบ

 

อย่างไรก็ดี สำหรับสถานการณ์การค้าและการส่งออกในภาพรวมนั้นในวันที่ 10 พฤศิจกายนนี้ จะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกร่วมกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง อาทิ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และภาคการท่องเที่ยว ฯลฯ ซึ่งคาดว่า จะได้ตัวเลขการส่งออกรวมถึงประเมินสถานการณ์การส่งออกของปีหน้าได้ชัดเจนขึ้น

พร้อมกันนี้จะได้เตรียมข้อมูลเพื่อร่วมประชุมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในวันที่ 21-23 พฤศจิกายนนี้กับทีมไทยแลนด์เพื่อเร่งรัดการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน ภาคเอกชน บีโอไอ และเอกอัครราชทูตจากประเทศต่าง ๆ พร้อมเพรียงกัน

กระทรวงพาณิชย์ จะมีการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์การค้าและการส่งออกในภาพรวมอีกครั้งในวันที่ 10 พ.ย.นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกร่วมกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง คาดว่าจะได้ตัวเลขการส่งออกปีนี้และประเมินสถานการณ์การส่งออกของปีหน้าด้วย นายภูมิธรรม ระบุ 

ด้านนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การค้าล่าสุดในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้น่าจะดีขึ้นโดยตัวเลขการส่งออกคงไม่ติดลบมากถึงร้อยละ 2 แน่นอน หลังจากการส่งออกเริ่มพลิกกลับมาเป็นบวกได้แล้วในช่วง 2 เดือนล่าสุดนี้ เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีมีสถานการณ์ของการเฉลิมฉลองของต่างประเทศจึงมีการนำเข้าสินค้าเพิ่มมากขึ้น