“เงินดิจิทัลหมื่นบาท”นักวิชาการชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจถึง1.5 ล้านล้าน

27 ส.ค. 2566 | 01:26 น.

ม.หอการค้า ชี้ นโยบายเงินดิจิทัลหมื่นบาทใช้งบ 5 แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจสูงถึง 1.5 ล้านล้าน ดันจีดีพีไตรมาส4ฟื้นตัวยาว คาดจีดีพีปี67โต 5-7% แนะรัฐบาลใหม่เร่งโรดโชว์ต่างประเทศดึงความเชื่อมั่นกลับมา

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง นโยบาย เงินดิจิทัล 10,000บาทที่รัฐบาลใหม่จะดำเนินการว่า  เม็ดเงินที่จะใช้ประมาณ 5 แสนล้านบาททำได้แน่นอน และยังสามารถหมุนเวียนเศรษฐกิจ  2-3 รอบ คิดเป็น 1-1.5 ล้านล้านบาท โดยรัฐอาจจะออกแบบการใช้ แบ่งเป็นลอตๆ ลอตละ  3,000 บาท

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

เพื่อกระจายให้เกิดการ กระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นระยะเวลา และกำหนดเงื่อนไขให้ใช้ในการซื้อสินค้าไทย เพื่อให้เม็ดเงินกระจายในประเทศไทยจะทำให้เงินหมุนหลายรอบ หากไม่กำหนดก็เสี่ยงจะรั่วไหลออกไปกับสินค้าต่างประเทศได้

แจกเงินดิจิทัล 10000 บาท สแกนพิกัดใช้เงินรัศมี 4 กิโลเมตร

"เศรษฐา"ลั่นลุย"เงินดิจิทัล" 1 หมื่นบาททันที ยันยังไม่มีแอปฯออกมา

“นโยบายเงินดิจิตอลจะต้องใช้เงิน 5 แสนล้าน แต่เลี่ยงไม่ได้เป็นนโยบายที่ออกจากนายกรัฐมนตรีเอง ขณะนี้สังคมกำลังให้ความสำคัญกับเรื่องของการพูดว่าใครพูดอะไรแล้วต้องทำ

“เงินดิจิทัลหมื่นบาท”นักวิชาการชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจถึง1.5 ล้านล้าน

ซึ่งเชื่อว่านโยบายนี้สามารถทำได้ และมีเงินเพียงพอ เพราะใช้โครงสร้าง งบประมาณ 3 ล้านล้านบาทและใช้การขาดดุลงบประมาณ มาช่วยเสริม แต่อาจจะต้องชะลอ โครงการบางโครงการออกไปได้

“เงินดิจิทัลหมื่นบาท”นักวิชาการชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจถึง1.5 ล้านล้าน

ส่วนเรื่องหนี้สาธารณะนั้นมองว่าไม่น่าจะกระทบ เพราะสำนักงบประมาณ  มีการวางกรอบการขาดดุลไว้ไม่เกิน 4% ซึ่งจากสถานะทางการเงินตอนนี้อาจจะขาดดุลงบ เพิ่มได้อีกเล็กน้อย ไม่สูงเกินไปโดยขณะนี้เพดานหนี้สาธารณะ อยู่ที่ 60% แต่สามารถ ขยายได้ 70% ดังนั้นไม่ต้องกู้เพิ่ม อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการพิจารณาเรื่องการใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต)  7% ซึ่งส่วน นี้ไมาเพียงจะทำให้ได้เงินเพิ่ม 30,000-35,000 ล้านบาท แต่ยังจะได้ภาษีบุคคลและนิติบุคคลเพิ่มในปีถัดไป

“เงินดิจิทัลหมื่นบาท”นักวิชาการชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจถึง1.5 ล้านล้าน

สำหรับแนวโน้มจีดีพี ปี2567 จะสามารถ ขยายตัว 5-7% เพราะงบประมาณจะเริ่มใช้ได้ในเดือน เม.ย และยังมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะแรกตั้งแต่ต้นปี 2567  จาก นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล  ส่วนภาคการส่งออก ปีหน้า จะขยายตัวได้ 3-5% จากปี 2566ที่คาดว่าจะติดลบ 2-3%  จากภาวะ เศรษฐกิจ โลกถดถอย หลายประเทศ ทั้งสหรัฐ และในสหภาพยุโรป และ เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า ซึ่งจะกระทบการส่งออกปีนี้ แต่ปีหน้าจะดีขึ้น

"หลังจากได้รัฐบาลใหม่การเมืองนิ่ง การลงทุนกลับมา และหากรัฐบาลใหม่โรดโชว์ โปรโมทท่องเที่ยวจะช่วยเสริม ซึ่งจะเชื่อมโยงทำให้การบริโภคและการใช้เงินลงทุนดีขึ้น”