นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าเพื่อแสดงศักยภาพของโลจิสติกส์ไทยในการเป็นศูนย์กลางของโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาของเวทีการค้าโลก ทั้งภาคการผลิต ภาคบริการ และภาคการส่งออก
เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก ท่ามกลางประเด็นท้าทายต่างๆ จากการเปลี่ยนแปลงของบริบททางเศรษฐกิจ และสังคมโลกในปัจจุบันรวมถึง ยังเป็นเวทีในการเผยแพร่ข้อมูล องค์ความรู้ และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทยในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจ และพร้อมแข่งขันในเวทีการค้าเสรีต่อไป กรมฯ จึงได้ร่วมกับ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ และภาคเอกชนจัดงาน TILOG – LOGISTIX 2023 ขึ้น ที่ไบเทคบางนา
โดยปีนี้มาภายใต้แนวคิด “Smart and Green Logistics for Sustainable Tomorrow : ขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่อนาคตสีเขียวด้วยโลจิสติกส์อัจฉริยะรักษ์โลก” มุ่งเน้นการปรับตัวเดินหน้าสู่เทรนด์โลกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีโลจิสติกส์ยุคใหม่เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน พร้อมกระตุ้นให้ผู้ประกอบการตื่นตัว และให้ความสำคัญกับการปรับตัวภายใต้แนวคิดเรื่อง Green โดยงานนี้มีผู้จัดแสดงกว่า 415 แบรนด์ จาก 25 ประเทศ
ในขณะที่นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการบริหารสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าว ผู้ให้บริการโลจิสติกส์หรือ LSP (Logistic Service Provider) ควรปรับการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการพัฒนารูปแบบโซลูชันการให้บริการ การลงทุนในแพลตฟอร์ม การนำเทคโนโลยีมาใช้
โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับลูกค้าได้ดีขึ้น เพื่อช่วยผู้ใช้บริการให้สามารถดำเนินธุรกิจภายใต้มาตรการที่ซับซ้อนขึ้นทุกวันได้ โดยเฉพาะมาตรการทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมของ EU ที่เริ่มจาก 7 กลุ่มสินค้าในปัจจุบัน และจะขยายไปถึงสินค้าประเภทอื่นๆ รวมถึงประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือจีน ก็จะทำตามมาตรการดังกล่าวด้วยเช่นกัน
นายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ กล่าวว่า ธุรกิจขนส่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทำให้เกิดปัญหาก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เป็นอันดับต้นๆ ซึ่งผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทย จำเป็นต้องเรียนรู้และเตรียมความพร้อมในการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อน ช่วยให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ และความคล่องตัว สามารถตอบสนองต่อการให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น ตลอดจนเพิ่มมูลค่าให้กับบริการของตนเอง สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการขนส่งทางรถได้ลงมือทำไปบ้างแล้ว คือการลดการใช้พลังงานในการขนส่งเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการใช้พลังงานทางเลือก
สำหรับไฮไลท์ของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดงในปีนี้ จะเน้นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์โลจิสติกส์ยุคดิจิทัล ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ เช่น ระบบวางแผนและจัดการเส้นทางการขนส่งสินค้า / ระบบการจัดการคลังสินค้า การรักษาความปลอดภัย รวมทั้งระบบคลังสินค้าอัจฉริยะที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ / หุ่นยนต์หยิบสินค้าที่เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระทุกแนวในคลังสินค้า และหุ่นยนต์คัดแยกสินค้าและระบบสายพานลำเลียง / รถโฟล์คลิฟท์ ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรีลิเธียม ภายในงาน