น้ำมัน WTI ร่วง 2.05% ปิด 80.83 ดอลล์ กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดดีมานด์

17 เม.ย. 2566 | 23:52 น.
อัปเดตล่าสุด :17 เม.ย. 2566 | 23:58 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันจันทร์ (17 เม.ย.) ตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลที่ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จะกระทบเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 80.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 84.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.48% แตะที่ 102.1082 เมื่อคืนนี้ โดยการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงจากรายงานข่าวที่ว่า อิรักอาจจะกลับมาส่งออกน้ำมันจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานผ่านทางตุรกีอีกครั้ง หลังจากที่ประกาศระงับการส่งออกน้ำมันราว 450,000 บาร์เรล/วันจากเคอร์ดิสถานผ่านทางตุรกีเมื่อไม่นานมานี้

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย