สรุปข่าว มติครม. วันที่ 4 เมษายน 2566 แบบเข้าใจง่าย รวมไว้ครบ

04 เม.ย. 2566 | 12:35 น.

สรุปข่าว มติครม. วันที่ 4 เมษายน 2566 แบบเข้าใจง่าย มีเรื่องที่น่าสนใจ ทั้งการยกเว้นค่าทางด่วน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ความร่วมมือ EEC-เกาหลีใต้ แผนพัฒนาการสหกรณ์ และหนี้สินครัวเรือน

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 4 เมษายน 2566 ที่ประชุมได้มีการพิจารณาวาระต่าง ๆ โดยมีมติเห็นชอบและรับทราบหลายเรื่อง ฐานเศรษฐกิจ สรุปไว้ให้ครบทุกวาระ ที่ผ่าน มติครม. แบบเข้าใจง่าย ดังนี้

ยกเว้นค่าทางด่วน 7 วัน ช่วงสงกรานต์ 

ครม.มีมติทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคม สำหรับทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี-สุขสวัสดิ์) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566  ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. 66 เวลา 0.01 น.  ถึงวันที่ 18 เม.ย. 66 เวลา 24.00 น. รวม  7 วัน

ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กระทรวงคมนาคม ประเมินว่า ตลอด 7 วัน จะมีปริมาณการใช้ทางพิเศษรวม 2,578,394 คัน เฉลี่ย 368,342 คันต่อวัน รวมเป็นรายได้ที่ กทพ.ไม่ได้เรียกเก็บ รวม 105 ล้านบาท

 

ทีมโฆษกรัฐบาล แถลงข่าว มติครม. วันที่ 4 เมษายน 2566

ร่างความร่วมมือ EEC-เกาหลี ฉบับใหม่ 

ครม. มีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือสำนักงาน EEC และสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุน ของเกาหลีใต้ ฉบับใหม่  เพื่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านธุรกิจ และอุตสาหกรรมระหว่างไทยและเกาหลีใต้ ที่มุ่งสนับสนุนให้เกิดการลงทุน ในพื้นที่ EEC ของไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีผลบังคับใช้ 3 ปี

มีสาระสำคัญ คือ ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมภาคเอกชนของทั้ง 2 ประเทศ เข้ามาแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน และจะมีการแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์และมีความเป็นปัจจุบัน รวมถึง ให้การสนับสนุนโดยตรงแก่บริษัทและโครงการต่าง ๆ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เกษตรกรรมขั้นสูง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ดิจิทัล การพัฒนา เมืองอัจฉริยะ

 

ทีมโฆษกรัฐบาล แถลงข่าว มติครม. วันที่ 4 เมษายน 2566

ผ่านแผนพัฒนาการสหกรณ์ ระยะ 5 ปี 

ครม.มีมติรับทราบนโยบายและแนวทางในการพัฒนาการสหกรณ์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566- 2570 ) มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งและเป็นองค์กรสมรรถนะสูงด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนา เศรษฐกิจฐานราก 

ปัจจุบันสหกรณ์ของไทยมีจำนวน 7,520 แห่ง และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมในการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์พบว่ามีปริมาณธุรกิจด้านการให้เงินกู้มากที่สุด ส่วนชุมนุมสหกรณ์มีจำนวน 135 แห่ง ซึ่งมีแนวโน้มแนวโน้มลดลงเช่นกัน โดยมีสัดส่วนปริมาณธุรกิจในการให้บริการรับฝากสูงสุด ทั้งนี้นายกฯ ย้ำถึงความสำคัญในการพัฒนาสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง และขอให้เร่งแก้ปัญหาในกรณีที่พบการไม่สุจริต ต้องมีมาตรการลงโทษด้วย

สถานการณ์แรงงาน-หนี้สินครัวเรือน

ครม. มีมติรับทราบภาวะสังคมไตรมาสที่ 4/2565 และภาพรวมปี 2565 โดย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) รายงานสถานการณ์ด้านแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้น โดย ณ สิ้นไตรมาสสุดท้ายมีการจ้างงาน 39.6 ล้านคนนั้น เพิ่มขึ้น 1.5% ขณะที่การว่างงานก็ดีขึ้นโดยมีผู้ว่างงานทั้งหมด 4.6 แสนคน คิดเป็น 1.15% ของแรงงานที่อยู่ในกำลังแรงงาน 

ส่วนหนี้สินครัวเรือน ข้อมูล ณ เดือนก.ย. 65 พบว่า หนี้สินครัวเรือนทั้งระบบอยู่ที่ 14.90 ล้านล้านบาท คิดเป็น 86.9% ต่อGDP ลดลงเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนมิ.ย. 65 ที่อยู่ที่ 88.1% ขณะที่หนี้ด้อยคุณภาพหรือ NPL ยังคงทรงตัวที่ 2.62% ของสินเชื่อรวม

เคาะผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน

ครม.มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... เป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลร่อนทอง ตำบลกำเนิดนพคุณ ตำบลแม่รำพึง และตำบลพงศ์ประศาสน์ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน 

รวมถึงการคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยได้มีการกำหนดแผนผังและการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในเขตผังเมืองรวมจำแนกออกเป็น 13 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะกำหนดลักษณะกิจการที่ให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ประโยชน์ที่ดินแต่ละประเภทนั้น ๆ