ตลาดดอกไม้คึกคัก พ่อค้าแม่ค้า รวมไปถึงประชาชนทั่วไปมาหาซื้อดอกไม้อย่างคึกคักโดยเฉพาะวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ “วันวาเลนไทน์” ที่มีพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมาหาซื้อดอกไม้กันจำนวนมากรวมไปถึงประชาชนที่มาซื้อในตลาดดอกไม้
เจ้าของร้านดอกไม้ที่ตลาดยอดพิมาน-ปากคลองตลาด บอกว่า ธุรกิจดอกไม้ปีนี้ถือว่าคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา เพราะสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ ทั้งงานอีเวนต์ งานแต่งงาน ต่างๆ ได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังมีเทศกาลต่างๆ ทำให้ความต้องการใช้ดอกไม้เพิ่มขึ้น
ด้านนางลัคณา จันทร์หม่อน แม่ค้าคนนี้ บอกว่า แนวโน้มธุรกิจดอกไม้ขณะนี้มีการแข่งขันสูงขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ค้าชาวจีนที่มาเช่าอาคารพาณิชย์เปิดร้านขายดอกไม้ ทำให้ผู้ค้าคนไทยได้รับผลกระทบ เพราะมีการขายตัดราคาทำให้แข่งขันยาก ขณะนี้มีร้านดอกไม้ที่เจ้าของเป็นคนจีนแต่มีลูกจ้างเป็นคนไทยราว 20 ร้านจากเมื่อก่อนมีราว 10 ร้าน ทำให้ผู้ค้าไทยต้องปรับตัว เช่น ขายออนไลน์ การหาลูกค้าประจำเพิ่ม
โดยดอกกุหลาบจีน เข้าตีตลาดดอกกุหลาบไทย ครองส่วนแบ่งมากกว่า 60% ส่งผลกระทบร้านคนไทยอย่างหนักแม่ค้าย่านปากคลองตลาด บอกว่า ตั้งแต่จีนเปิดประเทศ ทำให้ดอกกุหลาบจากจีนทะลักเข้าไทยจำนวนมาก แถมกำลังได้รับความนิยมจากผู้ซื้ออย่างมาก เนื่องจากกุหลาบจีนดอกจะใหญ่ และทนทานกว่าดอกกุหลาบไทย แถมราคาก็ไม่ต่างกันมาก
โดยกุหลาบจีน กำละ 20 ดอก ขายอยู่ที่ 600 บาท ส่วนกุหลาบเชียงใหม่ กำละ 500-600 บาท ซึ่งจะเห็นว่าราคาไม่ต่างกันมาก ทำให้ดอกกุหลาบจีนได้รับความนิยมอย่างมาก ครองส่วนแบ่งในตลาดวาเลนไทน์ปีนี้ถึง 60%
ส่วนบรรยากาศการซื้อขายดอกไม้ พบว่า วาเลนไทน์ปีนี้คึกคักอย่างมาก ร้านค้ามียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 30% ส่วนดอกไม้ยอดฮิตยังคงเป็นดอกกุหลาบสีแดง ช่อดอกเดียว ราคา 200 บาท รวมถึงช่อ 5 ดอก ราคา 1,000 บาท ก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ส่งผลพ่อค้าแม่ค้ากระเป๋าตุงไปตามๆ กัน โดยมั่นใจว่าวาเลนไทน์ปีนี้ จะทำยอดขายทะลุ 100,000 บาทต่อวันแน่นอน ส่วนใหญ่ 80% มาจากยอดขายผ่านช่องทางเดลิเวอรี ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าแอบกังวลว่า ในวันพรุ่งนี้(14กุมภาพันธ์)ที่เป็นวันวาเลนไทน์ แพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ต่าง ๆ จะ เตรียมไรเดอร์ รองรับการเรียกรับ-ส่งดอกไม้เพียงพอหรือไม่ ซึ่งนอกจากดอกไม้แล้ว พบว่า ช่อธนบัตร ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมากเช่นกัน