“อาคม” แจง น้ำมันดีเซล ลดลงช้า เหตุกองทุนน้ำมัน ยังติดลบ

06 กุมภาพันธ์ 2566

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมต.คลัง แจง เหตุราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงช้า แม้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลง เพราะกองทุนน้ำมันยังติดลบ

แม้ปัจจุบันราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มปรับลดลง จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงกว่า 3% เนื่องจากนักลงทุนเทขายจากความกังวลว่าเฟด มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อ หลังการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือน ม.ค. 66 มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้อัตราการว่างงานปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 3.4% จากเดิม 3.5%ประกอบกับ การที่กลุ่ม G7 ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป (EU) กำหนดเพดานราคาน้ำมันสำเร็จรูปจากรัสเซีย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 5 ก.พ.

สำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร เป็เวลา 4 เดือน เริ่ม 21 มกราคม 2566 ถึง 20 พฤษภาคม 2566 และประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบ ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร และที่ผ่านมาได้เห็นการทยอยลดราคาดีเซลอีก 20 สตางค์ต่อลิตร

ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่ากระกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซล เริ่มทยอยลดลงสอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบตลาดโลก แต่เนื่องจากกองทุนน้ำมันฯ มีฐานะติดลบนับแสนล้านบาท จึงเลือกปรับลดดีเซลตามความเหมาะสม เพื่อดูแลรายย่อย ภาคขนส่ง  และฐานะกองทุนนำ้มันฯ จึงต้องตรึงราคาขายปลีก เพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ บางส่วน โดยปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฯ  29 มกราคม 2566 ติดลบ 113,436 ล้านบาท

นายอาคม ระบุว่า แนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกทรงตัวไม่ผันผวนสูงเหมือนที่ผ่านมาก เนื่องจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงไปอยู่ในกรอบ ร้อยละ 1-3  ในปีนี้ เมื่อราคาน้ำมันลดลงอาจทำให้สินค้าอื่นลดลงด้วย  เช่น ปุ๋ยเคมีอาจลดลงตามไปด้วย  โดยคลังยังหวังว่า การประหยัดพลังงานยังมีความสำคัญ เพื่อหันไปใช้พลังงานทดแทน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อลดต้นทุนภาคเกษตร