"สสว."รุกจับคู่ธุรกิจกว่า 2,100 ราย ดันมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 370 ล้านบาท

22 ม.ค. 2566 | 10:16 น.

สสว.รุกจับคู่ธุรกิจกว่า 2,100 ราย ดันมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 370 ล้านบาท ผ่านกิจกรรม BDS Matching Day มุ่งให้ได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงบริการต่างๆ

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ดำเนินการส่งเสริมผู้ประกอบการแบบมุ่งเป้าในระยะที่ 2 ต่อยอดโครงการ “SME ปัง ตังได้คืน” หรือ BDS ต่อเนื่องจากปี 2565 

ทั้งนี้ จะเป็นการดำเนินการผ่านกิจกรรม BDS Matching Day เพื่อให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) ได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงบริการต่างๆ เช่น มาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน(มผช.) องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน(ISO) หลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตสินค้าเป็นข้อกำหนดต่างๆ ที่มีความจำเป็นในการผลิตและควบคุมคุณภาพ(GMP) เป็นต้น

อย่างไรก็ดี คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2,100 ราย โดยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากกว่า 370 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการภาคการผลิต (ขนาดกลาง) ที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท และภาคธุรกิจอื่นๆ รายได้ไม่เกิน 200 ล้านบาท สามารถรับบริการได้และเงินอุดหนุนจากสสว. 50% แต่ไม่เกิน 200,000 บาท 

ส่วนผู้ประกอบการภาคการผลิต (ขนาดเล็ก) ที่มีรายได้ไม่เกิน 40 ล้านบาท และภาคธุรกิจอื่นรายได้ไม่เกิน 20 ล้านบาท สสว.สนับสนุนไม่เกิน 100,000 บาท และผู้ประกอบการภาคการผลิต (ขนาดย่อม) ที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท สสว.สนับสนุนไม่เกิน 50,000 บาท

สสว.รุกจับคู่ธุรกิจกว่า 2,100 ราย ดันมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 370 ล้านบาท นายวีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ปีนี้ สสว.จะเน้นส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจเพิ่มเติม 2 ด้าน คือ การเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพธุรกิจ กับการพัฒนาและบริการจัดการธุรกิจ รวมกับหมวดการให้บริการที่เปิดอยู่แล้ว 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ ด้านการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายและการตลาด และด้านการพัฒนาตลาดต่างประเทศรวมเป็น 5 หมวดการให้บริการ

โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับประโยชน์โดยตรง เป็นเอสเอ็มอีที่เป็นนิติบุคคลหรือจดทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐ เน้นสาขาธุรกิจของระบบเศรษฐกิจของประเทศและมีความเร่งด่วนในการส่งเสริม

สสว.รุกจับคู่ธุรกิจกว่า 2,100 ราย ดันมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 370 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายพื้นที่การจัดกิจกรรมทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 30 ก.ย.2566 ซึ่งเชื่อว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการพัฒนาที่ตรงตามความต้องการ ทำให้มีความพร้อมในด้านมาตรฐาน ช่วยเพิ่มโอกาสและศักยภาพในการประกอบธุรกิจ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ หรือลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เป็นการสร้างโอกาสทางการค้าการลงทุน สร้างรายได้เพิ่มขึ้น และมีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนา MSME ระหว่างกัน

อย่างไรก็ตาม กิจกรรม BDS Matching Day เป็นการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีถึงความต้องการใช้บริการต่างๆ และเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการทางธุรกิจ (SME Service Provider) เสนอบริการเพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับความต้องการ ระหว่างผู้ประกอบการและผู้ให้บริการทางธุรกิจ ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเลือกรับบริการ 

หรือพัฒนาธุรกิจกับผู้ให้บริการทางธุรกิจในด้านที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม bds.sme.go.th ที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกรับการพัฒนาในหมวดต่างๆ ที่ตรงตามความต้องการและตรงธุรกิจตนอย่างแท้จริง