ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดเผยว่า กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ได้ดำเนินการร่วมมือกับ Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์ม อาทิ ช้อปปี้ (Shopee) และเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติ จัดกิจกรรมให้โอกาสเป็นของขวัญ
โดยได้สานต่อจากแนวคิดของตลาดวาดฝันที่นำผลิตภัณฑ์ของนักเรียนทุนเสมอภาคมาเพิ่มมูลค่าทางการตลาด ซึ่งในช่วงเดือนธันวาคม 2565 จนถึงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกจากนักเรียนทุนเสมอภาค กสศ. 12 โรงเรียน
และนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติ 7 โรงเรียน ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาความยั่งยืนของนวัตกรรมเครือข่ายสถานศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Equity Partnership’s School Network 4) ที่สานต่อภูมิปัญญาชุมชน โดยได้ร่วมกันพัฒนางานหัตถกรรมต่างๆ ออกเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ
“กสศ. มีความตั้งใจสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ เสริมทักษะชีวิตให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาคที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะเด็กทุกคนมีศักยภาพที่จะพัฒนาตนเอง หากด้วยข้อจำกัดต่างๆ ทำให้ไม่สามารถต่อยอดและพัฒนาพรสวรรค์ในตัวเองได้ ซึ่งโครงการนี้ได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นในสามปีแรก ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคเอกชนและภาคประชาชน และยังสร้างรายได้กลับคืนสู่โรงเรียนเครือข่าย กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น”
ดร.ไกรยส กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวคือตัวอย่างของการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่ลงมือทำได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่อาศัยความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน ในการระดมความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ เติมเต็มความรู้ ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพให้กับเด็กๆ เป็นคุณค่าของ ALL FOR EDUCATION เพื่อการศึกษา ที่สำคัญยังช่วยเสริมทักษะที่สำคัญต่อโลกยุคปัจจุบันใน 3 ด้าน ได้แก่
ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา จากการสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่ายที่มีเป้าหมายร่วมกัน และภายใต้แนวคิดที่มุ่งสร้างสรรค์พื้นที่สังคมแห่งความร่วมมือและมิตรภาพวันนี้ ทาง กสศ. และภาคีเครือข่าย ได้เล็งเห็นความสำคัญส่วนนี้
สำหรับโครงการพัฒนาความยั่งยืนของนวัตกรรมเครือข่ายสถานศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Equity Partnership’s School Network ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี หลายผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาออกมามีการตอบรับจากผู้ในการสนับสนุนเป็นอย่างดี บางผลิตภัณฑ์สามารถสร้างรายได้นับแสนบาท
อย่างไรก็ดีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ในอนาคตต่อไปโครงการความร่วมมือกับเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติและเครือข่ายโรงเรียนไทย จะสามารถพัฒนาในมิติอื่น ๆ ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้อีกมาก อาทิในเรื่องของห้องเรียน ครู ห้องแล็ปวิทยาศาสตร์ การทัศนศึกษา หรือการการมีเน็ตเวิร์คออนไลน์ร่วมกัน ซึ่งทาง กสศ.จะมีการหารือกับทางโรงเรียนนานาชาติว่าจะมีโครงการอะไรที่จะสามารถลดความเลื่อมล้ำทางการศึกษาได้อีก
“จากความสำเร็จของโครการดังกล่าว ขณะนี้มีโรงเรียนนานาชาติในอาเซียน จากสิงคโปร์สนใจที่จะเข้าร่วม รวมถึงบริษัทแม่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรีประเทศอังกฤษก็สนใจที่จะส่งทีมเข้าร่วมโครงการนี้เช่นกัน เพราะเห็นว่าเป็นโครงการดีที่จะช่วยเหลือให้เยาวชนลดความเลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ ซึ่งเป็นความหวังของหลาย ๆ ฝ่ายที่ต้องการบรรลุความสำเร็จร่วมกัน"
สำหรับโครงการนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 มีโรงเรียนในเครือข่าย กสศ. เข้าร่วมจำนวน 12 โรงเรียน ได้แก่ 1.โรงเรียนเพียงหลวง 16 อ.เทิง จ.เชียงราย 2.โรงเรียนชุมชนดอยช้าง จ. เชียงราย 3.โรงเรียนบ้านขุนกลาง จ. เชียงใหม่ 4. โรงเรียนบ้านแม่โต๋ จ. เชียงใหม่ 5.โรงเรียนบ้านทับเบิกร่วมใจ จ. เพชรบูรณ์ 6.โรงเรียนศรีโพนทองวิทยา จ. นครพนม 7.โรงเรียนบ้านสามขามิตรภาพที่ 3 จ. มุกดาหาร 8.โรงเรียนบ้านแกใหญ่ จ. สุรินทร์ 9.โรงเรียนบ้านตะเคียนกูยวิทยา จ. สุรินทร์ 10.โรงเรียนบ้านโนนกุ่มมิตรภาพที่ 2 10.จ. นครราชสีมา 11. โรงเรียนวัดหุบกระทิง จ. ราชบุรี 12. โรงเรียนบ้านหนองธง จ. พัทลุง
พร้อมด้วยเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติที่เข้าร่วมโครงการ 7 โรงเรียน ได้แก่ 1 โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี 2. โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า 3. โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์กรุงเทพ 4. โรงเรียนสาธิตประสานมิตร หลักสูตรนานาชาติ 5. โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ 6. โรงเรียนนานาชาติรักบี้ 7. โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพ