ทายาท‘นพดล ธรรมวัฒนะ’ มือปั้น‘เลอ ทาโอะ’ชีสเค้กดังบนโลกออนไลน์
"ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น" ถือเป็นคำที่แทนความเป็นตัวตนของนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงมากความสามารถอย่าง "ดลนภา ธรรมวัฒนะ" ได้เป็นอย่างดี เพราะเธอมีดีกรีเป็นถึงทายาทนักธุรกิจชื่อดังดร.นพดล ธรรมวัฒนะ นักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย กับบทบาทใหม่ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีบี กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย "เลอ ทาโอะ" ชีสเค้กชื่อดังจากเมืองโอตารุ ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังนั่งแท่นบริหารงานในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสายงานบริหารการตลาด บริษัท บอดี้ โกล์ฟ หรือ บีจีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจทั้งนับจากนี้
"เลอ ทาโอะ" ชีสเค้กชื่อดังญีปุ่น
"ดลนภา" เล่าให้ "ฐานเศรษฐกิจ" ฟังว่า ได้ร่วมกับหุ้นส่วนในการจัดตั้งบริษัท บริษัท ดีบี กรุ๊ป จำกัด ขึ้นเพื่อนำเข้าและจัดจำหน่าย "เลอ ทาโอะ"ชีสเค้กชื่อดังจากเมืองโอตารุ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากมองเห็นศักยภาพทางการเติบโตของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในเมืองไทย หลังจากพบว่าชีสเค้ก เลอ ทาโอะ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไทยที่นิยมซื้อกลับมาเป็นของฝาก ประกอบกับรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์จึงได้นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
โดยปัจจุบันบริษัทมีจำนวนสาขาร้าน เลอ ทาโอะทั้งสิ้น 2 สาขา ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนและศูนย์การค้าดิ เอ็มควาเทียร์ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาในรูปแบบของสุแตนอะโลน เทคโฮม โดยมีแผนขยายสาขาที่ 3 ที่ศูนญ์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าวในช่วงเดือนกันยายนนี้ เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์และขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
"ไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ที่ทางแบรนด์เข้ามาทำตลาดต่อจากไต้หวันและเกาหลี ซึ่งทางบริษัทแม่เล็งเห็นศักยภาพทางการเติบโต ประกอบกับ"เลอ ทาโอะ" เป็นที่รู้จักของกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยที่นิยมซื้อกลับมาเป็นของฝากจากประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้วทำให้มองโอกาสทางการเติบโต โดยมีราคาจำหน่ายที่ต่างจากที่ประเทศญี่ปุ่นเพียง 100-200 บาทเท่านั้น"
ขณะที่การทำตลาดนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้ยั่งยืนในระยะยาว ทั้งในช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กที่มีจำนวนแฟนเพจกว่า 2 หมื่นราย และอินสตาร์แกรมที่มียอดฟอลโลวอยู่ที่ 6,000-7,000 พันราย ซึ่งถือว่าเป็นกระแสตอบรับที่ดีหลังจากที่มีการทำตลาดมาไม่นาน โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มวัยรุ่น วันทำงานและกลุ่มคนเมืองที่รู้จักแบรดน์เป็นอย่างดี ขณะที่แผนงานต่อจากนี้คือการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆในช่องทางอื่นเพิ่มเติมผ่านการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆเพื่อขยายฐานไปยังลูกค้าอย่างให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
"เราสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ไปในวงกว้างขึ้น ด้วยการเปิดให้บริการในรูปแบบเดลิเวอรี่ทั่วประเทศในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยมีรูปแบบการส่งทั้งทางเครื่องบิน รถประจำทาง ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี"
จ่อผุดโรงงาน แตกไลน์ขนมเจาะตลาดแมส
นอกจากนี้ยังในการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องภายใต้แบรนด์ เลอ ทาโอะ โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างการเจรจานำสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด ซึ่งเป็นกลุ่มขนมของหวานที่เจาะตลาดแมสมากกว่า โดยได้มีการเตรียมก่อสร้างโรงงานในย่าน สะพานใหม่ เพื่อใช้ในการผลิตไลน์ขนมใหม่ของ "เลอ ทาโอะ" ในครั้งนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดตัวในราวไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ไปจนถึงไตรมาส 1 ของปีหน้า
"เรายังตอบไม่ได้ว่าโรงงานแห่งใหม่จะใช้งบประมาณในการก่อสร้างมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากธุรกิจของเราเพิ่งเริ่มต้นจึงเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นไป และเป็นช่วงของการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากกว่า หลังจากช่วงปีทีผ่านมาเราเน้นการทำตลาดผ่านช่องทางโซเลี่ยลมีเดียเป็นหลัก ขณะที่เป้าหมายของบริษัทและแบรนด์ของเรานับจากนี้จะให้คามสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในตลาดระยะยาวมากกว่าการเป็นกระแสที่ไปไวมาไว เหมือนอย่างแบรนด์ขนมอื่นในท้องตลาด"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559