กรุงศรีรายงานกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 59  ที่ 10.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.1%

21 ก.ค. 2559 | 08:58 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) รายงานผลกำไรสุทธิสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2559 จำนวน 10.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 20.1% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 สะท้อนอัตราการขยายตัวสินเชื่อที่น่าพอใจและครอบคลุมในทุกกลุ่มธุรกิจที่ 4.2%    สำหรับผลการดำเนินงานเฉพาะไตรมาส 2 ของปี 2559 กรุงศรีมีกำไรสุทธิ 5.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากไตรมาส 2/2558  และเพิ่มขึ้น 2.3% จากไตรมาส 1/2559

สรุปผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) และฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2559

•การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มสูงขึ้น 4.2% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 54.9 พันล้านบาท

เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558

•การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 1.5% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 15.8 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ

ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558

•กำไรสุทธิ: เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ 20.1% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2558

•ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.78% สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2559

•รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 11.0% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2558

•อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 46.1% ปรับตัวดีขึ้นจาก 46.7% ในครึ่งปีแรกของปี 2558

•สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ที่ 2.2% นับเป็นระดับต่ำสุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย

•อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 146.4%

•อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 13.8% เมื่อเทียบกับ 13.6% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 สินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น 4.2% โดยมียอดรวมอยู่ที่ 1.36 ล้านล้านบาท คิดเป็นจำนวน 54.9 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 ทั้งนี้ สินเชื่อเพื่อรายย่อยเพิ่มสูงขึ้น 5.5% จากความต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้น 3.5% และ 2.5% ตามลำดับ

เงินรับฝากมีจำนวนทั้งสิ้น 1.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 15.8 พันล้านบาท หรือ 1.5% จากเดือนธันวาคม 2558 การเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากส่วนใหญ่เป็นผลจากเงินรับฝากออมทรัพย์และผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ “กรุงศรีมีแต่ได้” ทั้งนี้ สัดส่วนของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์และจ่ายเงินคืนเมื่อทวงถามต่อสัดส่วนเงินรับฝากทั้งหมดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53.9%  ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3.78%

อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 2.2% นับเป็นระดับต่ำที่สุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 146.4% จากการขยายตัวของพอร์ตเงินให้สินเชื่อด้วยความรอบคอบระมัดระวัง

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ ความสำเร็จด้านการขยายตัวของสินทรัพย์และผลการดำเนินงานที่น่าพอใจของกรุงศรี สะท้อนศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของธนาคาร โดยเงินให้สินเชื่อเติบโตสูงถึง 4.2% ครอบคลุมในทุกกลุ่มธุรกิจ ส่งผลให้ธนาคารมีโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อที่สมดุล ด้วยสัดส่วนสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่ 57% และสินเชื่อเพื่อรายย่อยที่ 43%”

นายโกโตะ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจโดยรวมว่า “สำหรับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2559 กรุงศรีคาดว่า เศรษฐกิจจะยังคงขับเคลื่อนสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตแข็งแกร่ง การเร่งเบิกจ่ายของภาครัฐและการลงทุน ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ กอปรกับการฟื้นตัวของภาคเกษตร ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว กรุงศรีจึงยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อของทั้งปี 2559 ที่ 5-6%”

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับห้าในไทยมีสินเชื่อรวม 1.36 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.06 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.78 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 174.6 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 13.8% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 12.1%