รอบด้านตลาดหุ้น by  Bualuang Securities  

12 ก.ค. 2559 | 04:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

 

ซื้อหุ้น Value play (หุ้นถูก และ หุ้นที่ยังอยู่ข้างล่าง)

วันนี้คาดดัชนีฯหุ้นไทย Sideways up แนวรับ 1,460 จุด แนวต้าน 1,475 จุด

สัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,480 จุด หลังจากพักฐานไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แนวรับ 1,440/1,445 จุด ปัจจัยหนุน จะมาจากแรงซื้อคืนของนักลงทุนต่างชาติ คาดเพิ่มขึ้นก่อนการประชุมเฟด หลังตลาดมีการเปลี่ยนมุมมอง เลื่อนขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ (+หุ้น และ หน่วยลงทุนปันผลสูง), ความคืบหน้าออกกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ภายในเดือนนี้ หนุนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย (+แบงก์ รับเหมา วัสดุก่อสร้าง) และ เมื่อวานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเผยดัชนีฯเชื่อมั่นลงทุน ยังอยู่โซน Neutral สะท้อนนักลงทุนส่วนใหญ่ยังถือเงินสด และพร้อมช้อนซื้อเมื่อราคาปรับลง คาดช่วยจำกัดความเสี่ยงด้านล่างของตลาด

สำหรับแนวโน้มเดือน กค. คาดขึ้นก่อนในช่วงครึ่งแรกของเดือน รับกระแส แนวโน้มเฟดเลื่อนขึ้นดอกเบี้ย หลังเศรษฐกิจโลกเสี่ยงเพิ่มจากกรณี BREXIT บวกกับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ จะขายภายใน 2 เดือนนี้ (หนุนเศรษฐกิจไทย) และ ผันผวนในช่วงครึ่งเดือนหลัง โดยอาจพักฐานเพื่อรอดู Earning preview ผลการดำเนินงาน บจ. 2Q16 และ รอผลประชามติ ร่าง รธน.ไทย 7 สค.นี้ คาดกรอบ 1,440-1,480 จุด (ขยับขึ้นจาก 1,430-1,470 จุด)

หุ้นแนะนำวันนี้ BJC แนวรับ 38 แนวต้าน 41 บาท / TPCH ดูรายงานวันนี้

รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้

(+) TPCH เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะให้ผลตอบแทน ที่ดีกว่าตลาด ตามแนวโน้มผลการดำเนินงานที่เติบโตก้าวกระโดดโดยกำไรปี 2016-17 คาด 270 และ 500 ล้านบาท นอกจากนี้คาดว่า หุ้น TPCH ที่ตลาดยัง Under-own มีโอกาสที่จะถูกซื้อเพิ่มได้อีกมาก จากจุดเด่นที่เหนือกว่าโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอื่น พิจารณาจาก Equity IRR ที่สูงถึง 30% และ ROE ที่สูงถึง 23% (ค่าเฉลี่ยกลุ่มเพียง 10-15%) ส่งผลให้ราคาหุ้นมีโอกาสที่จะถูกซื้อได้ในราคา Premium กว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม โดยราคาหุ้นอาจขึ้นไปได้ถึง 28 บาท หากอิงวิธีประเมินจาก PBV/ROE ที่ 0.21 เท่า เทียบค่าเฉลี่ยกลุ่ม

สำหรับ Upside gain ของราคาหุ้นในระยะยาว คาดจะถูกหนุนจาก (1) กำไรบริษัทจากนี้ไปจะสูงขึ้นเรื่อยๆทุกไตรมาสไปจนถึงปี 2018 บนสมมุติฐานแค่ PPA ณ.ปัจจุบัน (2) โรงไฟฟ้าชีวมวลคือหัวใจสำคัญที่ทำให้วงจรรีไซเคิลกากขยะภาคการเกษตรของประเทศจำนวนมหาศาลถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นธุรกิจของ TPCH จึงเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นโครงการที่ภาครัฐฯให้การสนับสนุน ดูได้จากการเตรียมความพร้อมจะประมูล PPA โรงไฟฟ้าชีวมวลก่อน อีกราว 500MW ใน 3Q16 (3) ความเสี่ยงเรื่อง Operational risk แทบไม่มี จากวัตถุดิบกากขยะภาคการเกษตรที่มีจำนวนมาก และบริษัทมีประกันภัยโรงไฟฟ้าครอบคลุมทุกด้าน (4) โรงไฟฟ้า SPP ปัตตานีเฟส 1 กำลังการผลิต 23MW อยู่ระหว่างรอเปลียน LOI เป็น PPA โดยเราจะรวมเข้ามาในประมาณการเมื่อได้รับ PPA แล้ว คาดจะเพิ่มมูลค่าเหมาะสมอีก 6 บาท/หุ้น และคาดจะส่งผลให้กำไรในปี 2018 เติบโตก้าวกระโดดเป็น 700 ล้านบาท

(0) TISCO รายงานกำไรไตรมาส 2/59 ออกมาที่ 1.21 พันล้าน เพิ่มขึ้น 20% YoY แต่ลดลง 4% QoQ ซึ่งกำไรที่ออกมาต่ำกว่าประมาณการของเราเล็กน้อยที่ 4% และต่ำกว่า Bloomberg consensus 6% เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายทางการดำเนินงานที่สูงกว่าคาดจากการลงทุนขยายสาขาและเพิ่มระบบ IT สำหรับมุมมองในไตรมาส 3/59 เรามองว่ากำไรจะสามารถปรับตัวได้ทั้ง YoY และ QoQ จากการตั้งสำรองที่ลดลง, NIM ที่ค่อนข้างรักษาระดับได้ดี และการเติบโตของการปล่อยสินเชื่อ แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาถึงราคาเป้าหมายของเราที่ 51 บาท แต่เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ไว้ก่อนจากภาพในครึ่งปีหลังที่ยังสดใส และขอเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ในวันพรุ่งนี้ก่อนที่จะกลับมาทบทวนประมาณการอีกครั้ง

(+) M เราปรับคำแนะนำจาก ถือ เป็น  ซื้อเก็งกำไร ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปีนี้ ที่ 55 บาท จากความคาดหวังของการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSS) ที่น่าจะออกมาเป็นบวกในไตรมาส 2/59 ซึ่งเราคาดว่าตัวเลข SSS ของร้าน MK จะเติบโตได้ 3% และ ยาโยอิจะเติบโตได้ถึง 5%  เราประมาณการกำไรหลักในไตรมาส 2/59 ไว้ที่ 570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% QoQ และ 11% YoY และเรายังคาดการณ์ถึงการฟื้นตัวของกำไรอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3/59 และ 4/59 เนื่องจากฐานของปีที่แล้วที่ต่ำและไตรมาส 4 ยังมีปัจจัยทางด้านฤดูกาลมาหนุน

หุ้นมีประเด็น

(*) STAR ปลด SP หลังแจ้งตลาด TFEH เข้า Backdoor หุ้น โดยจะเข้ามาถือหุ้นใหญ่ 91.18% และต้องทำเทนเดอร์ (ที่มา ตลท.)

(*) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาฯ 54.7 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์สูง 64.8 รายกลาง-เล็กต่ำกว่าปกติติดต่อ 5 ไตรมาส ขณะที่ดัชนีความคาดหวัง 6 เดือนข้างหน้ายังดี หวังเศรษฐกิจ การเมือง ฟื้นตลาด (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(+) สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเผยดัชนีฯเชื่อมั่นลงทุนใน 3 เดือนข้างหน้า ปรับเพิ่มขึ้น 11.75% ยังอยู่โซน Neutral 104.46 สะท้อนมุมมองนักลงทุนยังระมัดระวัง เราเห็นว่าเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุนเพราะ สะท้อนนักลงทุนส่วนใหญ่ยังถือเงินสด และพร้อมช้อนซื้อเมื่อราคาปรับลง ทำให้ช่วยจำกัดความเสี่ยงด้านล่างของตลาด

(+) MS ออกรายงาน แนะนำ ผู้จัดการกองทุนลดพอร์ตพันธบัตร คาด Upside gain จากการลงทุนในพันธบัตรไม่จูงใจ และ ไม่เหมาะสำหรับใช้เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตอีกต่อไป แนะให้เปลี่ยนเข้าลงทุนในหุ้นปันผล และ กลุ่ม Utilities แทน / กลุ่มหุ้นที่เชื่อมโยง เราแนะนำ สะสมหุ้นโรงไฟฟ้าทั้ง Renewable และ Conventional EGCO BTSGIF JASIF (ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จาก Bond yield ขึ้น หากเกิดกระแสการลดน้ำหนักพันธบัตรออกจริง ได้แก่ ประกันชีวิต BLA THREL)

(0) อังคาร เยอรมนี CPI (Jun) +0.3% y-y, ประชุม รมว.คลัง ยุโรป, ฟิลิปปินส์ ส่งออก (พค.) +2.6%, -4.1% y-y, มาเลเซีย Industrial production, (พค.) +2.6% จาก 3% y-y, India industrial production, คาด -0.4% จาก -0.8% y-y

(-) พุธ จีนรายงาน Trade balance (Jun) คาด US$bn46 จาก US$bn50 และส่งออก -5% จาก        -4.1% y-y, ธ.กลางมาเลเซีย คาดคงดอกเบี้ย 3.25%, US Fed Beige Book และ US import prices

(+) พฤหัส US Initial jobless claims, BOE MPC meeting คาดคงดอกเบี้ย 0.50% และคง QE วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์, ธ.กลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25%, สิงคโปร์ GDP 2Q16 คาด +2.3% จาก 1.8% y-y

(-) ศุกร์ US Core CPI มิย. คาด +0.2% m-m, US Industrial production (Jun) คาด +0.2% จาก -0.4% m-m, US Retail sale มิย. +0.5% จาก 0.4% Euro area HICP inflation เงินเฟ้อคาด +0.1%, อินโดนีเซีย ส่งออกเดือน มิย. คาด -14.4% จาก -9.8% y-y, จีน GDP 2Q16 คาด +6.6% จาก +6.7% y-y และ Industrial production (มิย.) คาด 5.9% จาก 6% y-y

ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง