ไทย- ลาว MOU เน้นความร่วมมือแก้ปัญหาด้านแรงงานตามหลักสากล
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ ดร. คำแพง ไซสมแพง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนาม
สาระสำคัญในบันทึกฯนี้ เน้นความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ ก้าวไปด้วยกันเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองฝ่ายโดยจะส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกันให้มีการพัฒนาที่ดีขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการแรงงานในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เพิ่มพูนการปกป้องสิทธิ และผลประโยชน์ของแรงงานให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบของแต่ละประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับความร่วมมือด้านแรงงาน ได้แก่ การพัฒนาฝีมือแรงงาน การจ้างงาน การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม การป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ความร่วมมือด้านวิชาการ และความร่วมมือด้านอื่นๆ โดยมีกรอบความร่วมมือสรุปได้ ดังนี้ 1.ความร่วมมือทางวิชาการ โดยจะ แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับระบบต่างๆ อาทิ การศึกษา งานวิจัย ความเชี่ยวชาญ และข้อมูลในด้านต่างๆ รวมถึงกฎหมายการจ้างงานและแรงงาน รวมทั้งสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อป้องกันการจ้างงานผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน
2. ความร่วมมือด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยจะ ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้บริหารด้านการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ทั้งครูฝึก และเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อยกระดับทักษะฝีมือแรงงานตลอดจนการเพิ่มผลิตภาพแรงงานด้วย 3.ความร่วมมือด้านการจ้างงาน ส่งเสริมให้มีการจ้างงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะได้กำหนดไว้ใน “ข้อตกลงด้านการจ้างแรงงาน” ” ระหว่างคู่ภาคี ต่อไป 4.ความร่วมมือด้านการคุ้มครองแรงงาน โดยแรงงานจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของประเทศผู้รับ และ 5.ความร่วมมือด้านการประกันสังคม จะร่วมมือกันในการพัฒนางานด้านการประกันสังคม การแลกเปลี่ยนด้านวิชาการ ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงการผลักดันให้แรงงานที่เข้าไปทำงานในประเทศคู่ภาคีได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศผู้รับ
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานและติดตามการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจฯนี้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์จะได้มีการจัดประชุมร่วมสองฝ่าย ทั้งระดับรัฐมนตรีและระดับเจ้าหน้าที่ทุกระยะ
นายธีรพลฯ กล่าวในท้ายที่สุดว่า ประโยชน์ที่จะได้รับในการลงนามครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวซึ่งทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันในการพัฒนาและขยายความร่วมมือด้านแรงงานให้ครอบคลุมในหลายมิติดังกล่าวข้างต้น และเป็นการส่งเสริมบทบาทของไทยในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติร่วมกัน ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเป็นการสร้างพันธมิตรในเวทีระหว่างประเทศของภูมิภาค จะนำไปสู่การกำหนดทิศทางนโยบายด้านแรงงานระหว่างประเทศร่วมกันในระดับทวิภาคี และระดับภูมิภาคต่อไปในอนาคตด้วย