เด็กเกิดลดเหลือ 5.3 แสนคนต่อปี สังคมเปลี่ยนทิศ 'LingoAce' มองภาษาเป็นทุนรอด Gen Alpha

03 พ.ย. 2568 | 06:48 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ย. 2568 | 07:29 น.

เด็กเกิดใหม่ไทยลดเหลือ 5.3 แสนคนต่อปี LingoAce เผยสัญญาณโครงสร้างประชากรเปลี่ยนแรง ครอบครัวเร่งเตรียมทักษะภาษาให้ลูก Gen Alpha รับการแข่งขันเศรษฐกิจระดับโลก

KEY

POINTS

  • ประเทศไทยเผชิญวิกฤตเด็กเกิดใหม่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เพียง 5.3 แสนคนต่อปี ทำให้ผู้ปกครองคาดหวังให้บุตรหลานมีความสามารถในการแข่งขันระดับโลกมากขึ้น
  • LingoAce ชูแนวคิดว่าทักษะด้านภาษาคือ "ทุนชีวิต" ที่สำคัญสำหรับเด็ก Gen Alpha เพื่อสร้างความพร้อมในการแข่งขันบนเวทีโลก
  • LingoAce เสนอแนวทางแก้ปัญหาผู้ปกครองที่กังวลว่าลูกเรียนภาษามานานแต่ไม่กล้าพูด ด้วยหลักสูตรที่เน้นสร้างความมั่นใจ (Confidence) ความสม่ำเสมอ (Consistency) และความเหมาะสมกับเด็กไทย (Curriculum Fit)

ปัจจุบันจำนวนเด็กเกิดในประเทศไทยลดลงเหลือเพียงประมาณ 530,000 คนต่อปี ต่ำสุดตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลอย่างเป็นทางการ ประเทศกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยเร็วขึ้น ขณะที่โครงสร้างครอบครัวไทยเปลี่ยนเป็นแบบลูกคนน้อย มีบุตรเฉลี่ยเพียง 1.1 คนต่อครอบครัว

เมื่อจำนวนเด็กน้อยลง แต่การแข่งขันในเศรษฐกิจโลกกลับสูงขึ้น ผู้ปกครองไทยเผชิญโจทย์ใหม่ ลูกหนึ่งคนต้องพร้อมแข่งขันกับโลก ไม่ใช่แค่แข่งขันในประเทศ

ภายใต้บริบทนี้ “ทักษะภาษาอังกฤษ” กลายเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ แต่งานวิจัยและตัวชี้วัดสากลยังสะท้อนปัญหาเรื้อรัง EF EPI จัดอันดับไทยอยู่ในกลุ่ม ความสามารถต่ำของเอเชีย แม้เด็กไทยจำนวนมากเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ปฐมวัย

ภาพนี้ตรงกับข้อมูลจากแพลตฟอร์มสอนภาษา LingoAce ที่เผยว่า กว่า 70% ของผู้ปกครองไทยกังวลว่า ‘ลูกเรียนมานานแต่ยังไม่กล้าพูดจริง’ และนั่นคือเหตุผลที่ตลาดการศึกษากำลังเดินเรื่องใหม่ หลักสูตรสั้น ราคาเข้าถึงง่าย วัดผลได้จริง

ตัวอย่างล่าสุดคือการเปิดตัวแพ็กเกจภาษาอังกฤษรายเดือนจากแพลตฟอร์ม LingoAce ซึ่งให้บริการด้านภาษามากว่า 6 ปีในไทย และดำเนินธุรกิจใน กว่า 10 ประเทศ ในเอเชีย

ณัฐนิช ทองไกรแสน

นางสาว ณัฐนิช ทองไกรแสน ที่ปรึกษาประจำสำนักงานประเทศไทยของ LingoAce ให้เหตุผลบนเวทีเปิดตัวในงาน Amarin Baby & Kids Fair Carnival 2025 ว่า ภาพใหญ่ไม่ได้อยู่ที่หลักสูตรใหม่ แต่อยู่ที่ความคาดหวังของครอบครัวไทยยุคประชากรลดลง

 

“เมื่อเด็กมีน้อยลง แต่การแข่งขันสูงขึ้น เด็กหนึ่งคนต้องมีเครื่องมือที่ช่วยให้ยืนบนเวทีโลกได้ ภาษาเป็นหนึ่งในนั้น”

จากผลสำรวจของ LingoAce พบว่ากว่า 70% ของผู้ปกครองไทยกังวลว่าลูกเรียนภาษาอังกฤษมานานแต่ยังไม่กล้าพูดจริงในชีวิตประจำวัน เพื่อแก้ปัญหานี้ LingoAce ได้ออกแบบแนวทาง Framework 3C ขึ้นมาโดยเฉพาะ ประกอบด้วย

  1. Confidence (ความมั่นใจ) – สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กกล้าแสดงออกและใช้ภาษาอย่างมั่นใจ
  2. Consistency (ความสม่ำเสมอ) – ออกแบบการเรียนรู้ให้ต่อเนื่องและเป็นระบบ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
  3. Curriculum Fit (หลักสูตรที่เหมาะสม) – หลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อเด็กไทยโดยเฉพาะ แต่ยังคงยึดมาตรฐานสากล

เด็กเกิดลดเหลือ 5.3 แสนคนต่อปี สังคมเปลี่ยนทิศ 'LingoAce' มองภาษาเป็นทุนรอด Gen Alpha

เด็กยุคนี้เป็นเจนอัลฟ่า (เกิดปี 2010–2025) โตมากับสมาร์ทโฟนและ AI สมาธิเฉลี่ยต่อช่วงการเรียนอยู่ที่ 20–30 นาที ทำให้โมเดลเรียนตัวต่อตัวแบบสั้น 25 นาที ตอบจริตการเรียนรู้ของเด็กยุคดิจิทัลมากกว่า “เด็กเจนนี้เปิดรับวัฒนธรรมจากทั่วโลกตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้พวกเขาเป็น ‘Global Native’ ที่โลกทั้งใบคือห้องเรียนของพวกเขา” 

สำหรับหลักสูตร LingoAce English Program ได้รับการพัฒนาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษานานาชาติ โดยอ้างอิงตามมาตรฐาน CEFR, University of Cambridge และ TESOL International Association มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะครบทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ผ่านคลาสเรียนสดตัวต่อตัว (1:1) 

นางสาว ณัฐนิช  กล่าวต่อว่า การเริ่มต้นเรียนรู้ตั้งแต่ยังเล็กคือข้อได้เปรียบมหาศาล หากใช้เทคโนโลยีและ Gamification ที่เหมาะสม จะทำให้ภาษาเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว และด้วยวิสัยทัศน์ของ LingoAce ว่า ภาษาไม่ใช่วิชาในห้องเรียน แต่คือ Skill for Life ของเด็กเจนอัลฟ่า ของขวัญที่ดีที่สุดที่พ่อแม่มอบให้ลูก ไม่ใช่เงินทอง แต่คือความมั่นใจที่จะสื่อสารกับคนทั้งโลก