Dragonfly Summit 2025 พลิกโฉมผู้นำแบบองค์รวมแห่งอนาคต

งาน Dragonfly Summit 2025 ไม่ได้เป็นเพียงงานสัมมนา แต่เป็นปรากฏการณ์ที่มุ่งมั่นจะยกระดับการพัฒนาผู้นำในระดับเอเชียให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ด้วยแนวคิด "LEAD WELL" ที่เน้นการเป็นผู้นำอย่างเข้าใจ ลึกซึ้ง และยั่งยืน

ซึ่งสวนทางกับกระแสโลกที่เร่งรีบและมุ่งเน้นแต่ความสำเร็จทางวัตถุ งานนี้ชวนให้ผู้นำหันกลับมาเติมเต็มพลังจากภายใน ทั้งทางกาย ใจ และจิตวิญญาณ เพื่อสร้างภาวะผู้นำที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

ธีม "FLOW" ในปีนี้เป็นหัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน การเข้าสู่ภาวะ Flow คือการที่จิตใจอยู่ในสภาวะที่สมดุลและมีสมาธิจดจ่อกับการกระทำอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้นำในยุคดิจิทัลที่ต้องรับมือกับข้อมูลข่าวสารและแรงกดดันตลอดเวลา การที่ผู้นำสามารถเข้าถึงภาวะนี้ได้ จะช่วยให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยให้สามารถฟื้นฟูพลังงานได้อย่างรวดเร็ว

นางสาวประนัปดา พรประภา ผู้ก่อตั้ง Dragonfly 360 กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 และประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยมีผู้เข้าร่วมชาวต่างชาติถึง 30% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการยอมรับในเวทีระดับนานาชาติ คุณประนัปดายังได้วางเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน คือการทำให้ Dragonfly Summit เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพคุณภาพสูงและนักธุรกิจในระดับเอเชีย ให้เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศไทย นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะพัฒนาหลักสูตรสำหรับ “ผู้นำ” เพื่อส่งต่อองค์ความรู้สู่ภาคองค์กรต่างๆ ในอนาคต

นาย วุฒิธร มิลินทจินดา ผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวว่า การจะเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความรู้ แต่ต้องอาศัยพลังจากภายใน เช่น ความเข้าใจ ความเห็นใจ และความรัก คุณวู้ดดี้มองว่างานนี้เป็นพื้นที่แห่งการปลดปล่อยและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตในทางที่ดีขึ้น และเป้าหมายสำคัญคือการส่งต่อแนวคิดเหล่านี้จากผู้เข้าร่วมงานไปสู่คนในครอบครัวและคนรอบข้าง เพื่อสร้างการตระหนักรู้และแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง

นางสาว สิรินยา บิชอพ ผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวว่า Dragonfly Summit คือปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้นำรุ่นใหม่ เป็นการเฉลิมฉลองความเป็นมนุษย์และแก่นแท้ของการเป็นผู้นำที่ดีในทุกๆ ด้าน งานนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนได้ค้นพบตัวเอง และนำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ให้ชีวิตดีขึ้นในทุกมิติ

นอกจากเวทีหลักที่รวมวิทยากรชั้นนำแล้ว งานนี้ยังออกแบบให้มีโซนกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ลงมือปฏิบัติจริงและสัมผัสประสบการณ์การพัฒนาแบบองค์รวม

• CHIVA-SOM SANCTUARY: โซนนี้เป็นเหมือนโอเอซิสแห่งความสงบที่นำเสนอศาสตร์โบราณเพื่อการดูแลสุขภาพ เช่น การฝึก Pranayama หรือการควบคุมลมหายใจ ซึ่งเป็นศาสตร์โยคะเพื่อสร้างความสมดุลให้ร่างกายและจิตใจ รวมถึงการบำบัดด้วยคลื่นเสียงแบบอายุรเวทเพื่อปรับสมดุลอารมณ์และเติมพลังงานชีวิต
• WELL-NEST DRAGONFLY POD: โซนนี้เน้นการค้นหาตัวตนที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านกิจกรรมส่วนตัวแบบ 1:1 เช่น Blueprint of The Soul Human Design Readings ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจพลังงานภายในและทิศทางชีวิตที่เหมาะสม หรือการวิเคราะห์ธาตุประจำตัวแบบ Ayurveda Dosha Test เพื่อออกแบบไลฟ์สไตล์ส่วนตัว นอกจากนี้ยังมี Destiny Matrix ที่ใช้ศาสตร์หลากหลายเพื่อเปิดรหัสวิญญาณของคุณ

• BAZAAR POWERED BY TRI VANANDA: โซนนี้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สำรวจรูปแบบการเป็นผู้นำของตัวเองผ่านนิทรรศการ Bee Maze ที่ใช้ศิลปะ เทคโนโลยี และการเล่นมาผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับเคล็ดลับเพื่อชีวิตที่ยืนยาว และวิสัยทัศน์ของชุมชนยั่งยืน
• เวิร์กชอป DIY จาก อินโดรามา เวนเจอร์ส: กิจกรรมสร้างสรรค์ที่สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผู้เข้าร่วมสามารถนำขวดพลาสติก PET มาสร้างสรรค์เป็นของที่ระลึกได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องราวการเดินทางของขวดหนึ่งใบที่สามารถกลับมาเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และยังจัดแสดงต้นไม้ศิลปะขนาดใหญ่ที่ทำจากขวด PET เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการรีไซเคิลอย่างยั่งยืน

การสนับสนุนจากพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ชีวาศรม หัวหิน, สยามพารากอน, การบินไทย, ธนาคารยูโอบี, ธนาคารกรุงเทพ, และธนาคารกสิกรไทย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น และเป็นเครื่องยืนยันว่างานนี้มีความสำคัญและมีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง