KEY
POINTS
นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและที่ปรึกษากิติมศักดิ์สมาคมโฮสเทลประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลกับ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ว่า ผลกระทบเรื่องบัญชีม้าที่เกิดขึ้นกับธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านที่อยู่ในระบบซึ่งเป็นนิติบุคคล ส่วนใหญ่ร้านอาหารจะใช้การชำระเงินผ่านการสแกนจ่ายผ่าน QR Code แทนการใช้เงินสด ในกลุ่มร้านอาหารและธุรกิจอื่นๆ เช่น แกร็บ หรือแท็กซี่ที่ใช้ระบบนี้เช่นกัน
ซึ่งการใช้ระบบนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค แม้ว่าในบางช่วงร้านอาหารหลายแห่งได้งดรับการชำระเงินผ่านการสแกนจ่ายและจำเป็นต้องรับเงินสดแทนเพราะความไม่แน่นอนของการโอนเงินเข้าบัญชี แต่เมื่อไม่รับการสแกนจ่าย ลูกค้าจำนวนมากก็ไม่สามารถซื้อสินค้าได้เนื่องจากไม่พกเงินสด ทำให้ร้านอาหารต้องยอมรับการสแกนจ่ายเพื่อให้สามารถขายสินค้าได้ตามปกติ
ในส่วนของร้านอาหารที่มีการโอนเงินผ่านบัตรเครดิตและการสแกนจ่ายนั้น เจ้าของร้านมักจะต้องรอเงินเข้าบัญชีหลังเที่ยงคืนหรือช่วงตีหนึ่ง ซึ่งบางครั้งทำให้เจ้าของร้านตื่นขึ้นมาตรวจสอบยอดเงินที่ได้รับในแอปพลิเคชัน หากเงินไม่เข้าหรือเกิดปัญหาก็ต้องทำการตรวจสอบบัญชีอย่างละเอียด ความกังวลเกี่ยวกับบัญชีที่อาจถูกอายัดในช่วงที่เกิดปัญหานี้ทำให้เจ้าของร้านนอนไม่หลับเป็นเวลาหลายคืน
ในกรณีที่ร้านจำเป็นต้องใช้เงินสดเพื่อหมุนเวียนในธุรกิจ เช่น การซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ทุกวัน หากบัญชีถูกล็อคหรืออายัดและต้องรอการปลดล็อกบัญชี การทำธุรกิจในวันนั้นก็จะหยุดชะงักลงทันที และอาจจะทำให้ร้านต้องปิดตัวลงหากไม่สามารถเข้าถึงเงินได้ทันที
ปัญหานี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบกับร้านที่ใช้ระบบสแกนจ่าย แต่ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ขายออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ไลน์แอด ที่ลูกค้าสั่งซื้ออาหารโดยตรงกับร้าน หากบัญชีร้านถูกล็อคหรือไม่สามารถโอนเงินได้
ร้านจะต้องจัดการกับปัญหานี้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักไปและสามารถดำเนินการต่อได้ตามปกติ ข้อกังวลที่สำคัญที่สุดคือการที่ร้านต้องอาศัยการหมุนเวียนเงินสดในทุกๆ วันเพื่อซื้อของจากซัพพลายเออร์ ซึ่งหากเงินไม่สามารถหมุนเวียนได้ในช่วงเวลาที่ต้องการ ร้านอาจต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจต่อไป
อันนี้ดูจากข่าว มองว่าความเป็นธรรมมันไม่สมบูรณ์ มันง่ายมากที่จะทำการปลดอายัด แต่มันยากมากที่จะปลดบัญชีอายัดออก ธนาคารเองไม่ได้รับผิดชอบเต็มที่ ซึ่งพยายามโยนปัญหาไปให้ตำรวจรับผิดชอบแทน เข้าใจว่าตำรวจเองก็ต้องรับเรื่องพวกนี้แล้วรวบรวมเอกสารทั้งหมด แต่การดำเนินการในลักษณะนี้มันผิด และก็ไม่มีการเตรียมการรองรับไว้เลย
เมื่อวานทางแบงก์ชาติเองก็ฝากบอกว่าให้ผู้ที่ประสบปัญหานี้โทรไปที่หมายเลข 1441 เพื่อแจ้งปัญหา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีขั้นตอนอะไรต่อไปหลังจากโทรไปแล้ว จะเร็วกว่าการแจ้งความลงบันทึกประจำวันหรือการไปขอเอกสารเพื่อปลดล็อคบัญชีหรือไม่
สุดท้ายแล้วมองในมุม วิธีการปลดล็อคบัญชีมันเหมือนกับทางธนาคารใช้วิธีที่จะป้องกันบัญชีม้า หรือบัญชีที่มีการใช้ในทางที่ผิด แต่มันไม่ได้คิดถึงผลกระทบต่อผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยครับ พวกเขายังไม่ได้วางแผนหรือเตรียมการเพื่อแก้ไขปัญหานี้ล่วงหน้า ไม่มีการจัดการที่เหมาะสมสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการแบบนี้
ฝากไว้สำหรับกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ถ้าสมมติว่าคุณทำธุรกิจร้านอาหาร เช่น สตรีทฟู้ด หรือร้านอาหารห้องแถวเล็ก ๆ พวกนี้ ที่เป็นบุคคลธรรมดา ถ้ามีลูกค้าสแกนจ่าย ไม่ต้องกลัว ให้เค้าสแกนเลย แต่คุณควรถ่ายสลิปเก็บไว้ทุกครั้ง เพราะที่ผ่านมามีร้านบางร้านที่ไม่ค่อยถ่ายสลิป พอเกิดปัญหาขึ้นมันตามยาก เช่นบางร้านใช้บัญชีตัวอย่าง เช่น เอสซีบี เวลาลูกค้าสแกน เงินก็เด้งเข้ามือถือ แต่ร้านจะไม่ถ่ายสลิปเก็บเอาไว้ ปัญหาก็คือถ้าเกิดปัญหาขึ้นจะตามยากครับ
แนะนำว่า ร้านที่เป็นนิติบุคคลไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะมีหลักฐานอยู่แล้ว แต่สำหรับร้านเล็ก ๆ ที่ไม่ได้เป็นนิติบุคคล ควรถ่ายสลิปเก็บทุกครั้ง และรวบรวมไว้ทุกวัน ถ้าขายผ่านแพลตฟอร์มเช่น Line@ หรืออื่น ๆ ก็ต้องเก็บหลักฐานเอาไว้ด้วย เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น
ขอเรียกร้องถ้าธนาคารหรือแบงค์จะออกมาตรการอะไรมา กรุณาคิดเผื่อ ถ้ามีปัญหากับประชาชนหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ควรมีมาตรการรองรับไว้ ไม่ใช่ว่าพอเกิดปัญหาแล้วประชาชนต้องดิ้นรนเองแล้วเจอปัญหา
เราควรจะมีวิธีการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขายรากหญ้า พวกเค้ามีปัญหากับยอดขายอยู่แล้ว พอเกิดปัญหามันยิ่งทำให้เกิดแพนิค ยอดขายสะดุดไปอีก บางคนไม่อยากซื้อเพราะกลัวปัญหาต่าง ๆ หรือบางทีก็ไม่กล้าขาย ทำให้ยอดขายลดลงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา