ตลาดสัตว์เลี้ยงบูม "แมว" ครองหัวใจผู้เลี้ยงรุ่นใหม่ สินค้าสุขภาพจิต–ยั่งยืนรับอานิสงส์

11 ส.ค. 2568 | 04:07 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ส.ค. 2568 | 06:54 น.

ตลาดสัตว์เลี้ยงบูม "แมว" ครองหัวใจผู้เลี้ยงรุ่นใหม่ Mintel ชี้ช่องว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมและอาหารเปียก เสริมโอกาสโตสินค้านวัตกรรม–เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

แนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในด้านความนิยมสัตว์เลี้ยงชนิดต่าง ๆ และค่านิยมในการดูแล ที่เน้นเรื่องสุขภาพจิต ความยั่งยืน และการยืดอายุของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น งานวิจัยล่าสุดจาก Mintel ระบุว่า ปัจจัยเหล่านี้กำลังมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค และผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง

แมวมาแรง–เจ้าของให้ความสำคัญสุขภาพจิตมากขึ้น

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนเจ้าของสุนัขในไทยลดลงจาก 68% เหลือ 62% ขณะที่การเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 60% เป็น 61% ปรากฏการณ์นี้เปิดโอกาสให้แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงขยายตลาด โดยเฉพาะกลุ่มแมวที่เจ้าของให้ความสำคัญต่อสุขภาพจิตของสัตว์เลี้ยงถึง 68% สูงกว่าเจ้าของสุนัขที่ 61%

ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การเปิดตัวอาหารแมวที่มีการกล่าวอ้างด้านการบำรุงสมองและระบบประสาทเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 11% ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 แต่ในไทยยังมีผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ไม่มาก โดยเฉพาะในกลุ่มขนมและอาหารเปียก ซึ่ง Mintel มองว่าเป็น “ช่องว่าง” ให้ผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์และเสริมสุขภาพจิตของสัตว์เลี้ยง

เจ้าของรุ่นใหม่เน้นการดูแลให้สัตว์เลี้ยงอายุยืน

เจ้าของสัตว์เลี้ยงในไทยเริ่มให้ความสำคัญกับการยืดอายุและคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงตั้งแต่อายุยังน้อย โดย Gen Z (ต่ำกว่า 28 ปี) มักเลี้ยงสัตว์วัยเด็ก ขณะที่ Gen X (45–79 ปี) มักเลี้ยงสัตว์สูงวัย และกลุ่ม Millennial (29–44 ปี) เลี้ยงทั้งวัยผู้ใหญ่และสูงวัย

 

สุนัขในไทยมีสัดส่วนสัตว์สูงวัยมากที่สุด (78%) เทียบกับแมว (60%) ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเฉพาะจุด เช่น ข้อต่อ ดวงตา สะโพก และสุขภาพช่องปาก มีโอกาสเติบโตสูง “นี่คือโอกาสทองในการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุและเพิ่มคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยง” 

สุขภาพแบบองค์รวมและความยั่งยืนมาแรง

รายงาน Global Consumer Report (กันยายน พ.ศ. 2567) ของ Mintel เผยว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงชาวไทยกว่า 58% ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3–4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ดูแลสัตว์เลี้ยงของตน แม้อาหารแห้งบรรจุแพ็กยังเป็นที่นิยมสูงสุด แต่ตลาดยังเปิดกว้างสำหรับสินค้าประเภทเสริม เช่น ท็อปเปอร์ หรืออาหารเสริม เพื่อบำรุงสุขภาพรอบด้าน

ด้านความยั่งยืน หนึ่งในสามของเจ้าของสัตว์เลี้ยงชาวไทยตั้งใจให้อาหารสัตว์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แนวโน้มนี้สะท้อนจากค่านิยมการบริโภคของเจ้าของที่เริ่มใส่ใจสิ่งแวดล้อม และขยายมาสู่การเลือกสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น อาหารจากพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในตลาดไทยในอนาคตอันใกล้