‘พิกกิโปะ’สุดยอดแอพสัญชาติไทย ตั้งเป้าเป็นที่1 ในเซาธ์อีสต์ เอเชีย

07 มิ.ย. 2559 | 02:00 น.
เป็น 1 ใน 7 ทีมที่ได้รับเงินลงทุนในระยะเริ่มต้น หรือ Seed Funding จาก VC หรือ Venture Capital ทั้งในประเทศและจากเงินทุนต่างชาติ นำโดยกองทุน 500 ตุ๊กตุ๊ก, Golden Gate Venture , KK Fund, Galaxy Venture , อุ๊คบี และเถ้าแก่น้อย รวมเงินทุน 70 ล้านบาท

ทั้ง 7 ทีมที่ได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สร้างมูลค่าให้บริษัทฯที่ร่วมในโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท รวมแล้วกว่า 400 ล้านบาท สามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้ 7 ทีมจาก 11 ทีมมีอัตราความสำเร็จหรือ Success rate คิดเป็น 70% โดย 1 ใน 7ทีมที่ติดอันดับอยู่ในนั้น คือ Piggipo (พิกกิโปะ) หรือ แอพพลิเคชันบริหารจัดการบัตรเครดิต

[caption id="attachment_59786" align="aligncenter" width="365"] สุพิชญา สูรพันธุ์ สุพิชญา สูรพันธุ์[/caption]

"ฐานเศรษฐกิจ" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ นางสาวสุพิชญา สูรพันธุ์ (กั๊ก) สาวน้อยวัย 26 ปีรูปร่างเล็กกะทัดรัด ปราดเปรียว จบการศึกษาปริญญาตรี B.B.A. (Integrative Management) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ปริญญาโท M.S of Marketing จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะซีอีโอ บริษัท เนเวอร์ซิทอัพ จำกัด เกี่ยวกับที่มาที่ไปที่พัฒนาแอพ FinTech ภายใต้ชื่อ "Piggipo" เธอฉายมุมคิดแต่ละคำถามน่าสนใจยิ่ง

 ที่มาการพัฒนาแอพ "Piggipo"

"เธอ" เล่าถึงที่มาที่ไปในการพัฒนาแอพพลิเคชัน "Piggipo" ว่า เกิดจากตัว "เธอ"เองที่ใช้บัตรเครดิตแล้วเพลิน เพราะใช้แล้วรู้สึกว่าเงินสดไม่ได้ออกจากกระเป๋า รู้ตัวอีกทีตอนบิลมา ต้องเอาเงินเดือนของเดือนหน้ามาจ่าย ก็เลยอยากหาแอพที่จะมาช่วยจัดการการใช้บัตรเครดิตของตัวเอง แต่ลองหาดูก็ยังไม่มีแอพไหนตอบโจทย์ เลยลอง research (ค้นหา) ดู พบว่าคนไทยมากกว่า 4 ล้านคน เป็นหนี้บัตรเครดิต จึงคิดว่าปัญหานี้มันเป็นปัญหาใหญ่พอสมควร น่าจะทำอะไรขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิต

อยากช่วยให้คนใช้บัตรเครดิตมีความสุข

ถาม "เธอ" ต่อว่าอะไรคือแรงบันดาลใจ "เธอ" ตอบว่าแรงบันดาลใจมาจากอยากทำแอพที่ช่วยให้คนใช้บัตรเครดิตได้อย่างมีความสุข เพราะรู้สึกว่าจริงๆแล้วบัตรเครดิตถ้าเราใช้เป็นมันจะมีประโยชน์มาก แต่คนไทยส่วนใหญ่ขาดระเบียบวินัย บางคนใช้เกินตัว ไม่รู้ว่าตัวเองใช้ไปแล้วเท่าไหร่ สุดท้ายก็กลายเป็นหนี้ จึงอยากทำแอพนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยในการจัดการการใช้บัตรเครดิต

ยอดดาวน์โหลด 2 แสน

"เธอ" บอกว่าพัฒนาแอพ มาตลอดระยะเวลา 2 ปี จนถึงปัจจุบันนี้มียอดดาวน์โหลดแอพอยู่เกือบ 2 แสนดาวน์โหลด และเมื่อปีที่แล้ว เราได้ประกาศความร่วมมือกับ Maybank ธนาคารอันดับ 1 ของมาเลเซียเพื่อเปิดตัวแอพพลิเคชันแบบเดียวกับ Piggipoในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แบรนด์ Credit Mavin ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแล้วถึง 5 พันราย โดยในปีหน้านอกจากตลาดมาเลเซีย เรามีแผนจะขยายไปตลาดสิงคโปร์และอินโดนีเซีย

เป็นรายแรกที่ให้บริการ

ในส่วนของการแข่งขันนั้น "เธอ" บอกว่ายังไม่มีคู่แข่งถือว่าเป็นจังหวะและโอกาสที่ดี ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่เข้ามาพัฒนาแอพดังกล่าว เพราะ แอพ ทางด้านการเงินนั้นเมื่อลูกค้าลงทะเบียนใช้บริการก็ไม่อยากใช้บริการที่ไหนเพราะมีฐานข้อมูลไว้อยู่แล้ว

"ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังไม่มีคู่แข่งทางตรง แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีแอพที่ใช้ชื่อว่า mint.com มีคนใช้บริการถึง 20 ล้านคน เลยทีเดียว"

รายได้จากการให้บริการ

สำหรับรายได้จากการให้บริการนั้น มาจาก In App Purchase (คือชื่อเรียกวิธีการจ่ายเงินจริงเพื่อซื้อความสามารถหรือคุณสมบัติพิเศษของตัวแอพพลิเคชัน เช่น จ่ายเงินเพื่อปิดหน้าจอแสดงโฆษณา หรืออัพเกรดความสามารถของแอพพลิเคชันให้ทำงานได้มากกว่าเวอร์ชันฟรี เป็นต้น) ขายฟีเจอร์ที่ไม่ได้กระทบกับการใช้งาน เช่น Custom Category, Theme , Subscription ขายฟีเจอร์การใช้งานเป็นรายเดือน/รายปี ได้แก่ ฟีเจอร์อัพเดตรายการใช้จ่ายอัตโนมัติ และ Targeted Advertising ขายโฆษณาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

กองทุนไทย-เทศ สนับสนุน

ขณะที่ "Piggipo" เองมีกองทุนหรือ VC ให้ความสนใจมาลงทุนทั้งจากในและต่างประเทศ โดยนายทุน Piggipo จะมี 500 TukTuks, Golden Gate Ventures, Ookbee, dtac Accelerate และ SeedersClub
ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นฝั่งพวกเราผู้ก่อตั้ง (Founder) ถือหุ้นมากกว่า 60% ค่ะ ส่วนนายทุนรายอื่นไม่สามารถเปิดเผยสัดส่วนได้

ปี 57 ชนะเลิศ"ดีแทค แอคเซอเลอเรท"

ชนะเลิศโครงการ dtac Accelerateปี 2014 หรือ ปี 2557 ได้รับรางวัลไปเข้าร่วมโครงการBlackbox ที่ Silicon Valley ประเทศสหรัฐอเมริกา ,รางวัล People Choice Awards จากงาน Echelon Thailand 2014 และ รางวัล Top3 FinTech of the year จาก Rice bowl Startup Awards ของประเทศมาเลเซีย

ตั้งเป้าที่1ของเซาธ์ อีสต์ เอเชีย

สุดท้าย "กั๊ก" บอกว่า สำหรับเป้าหมายของ Piggipo คือ จะเป็น PFM (Personal Finance Management ; เลขาส่วนตัว) อันดับ 1 ของ SEA South East Asia (เซาธ์ อีสต์ เอเชีย) ค่ะ ไม่ใช่แค่จัดการบัตรเครดิต แต่เราจะช่วยในการวางแผนทางด้านการใช้เงินให้กับคนทั่วไปได้ใช้ด้วย

ส่วนแบรนด์ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์รูป "หมู" นั้นเพราะ หมู มาจากกระปุกออมสินหมู เพราะชื่อ Piggipo มาจากคำว่า Piggy Bank ที่แปลว่า กระปุกออมสิน ค่ะ

วอนภาครัฐตระหนักการสนับสนุนทุน

ส่วนกรณีที่รัฐบาลได้เข้ามาสนับสนุนสตาร์ตอัพ สำหรับในความคิดเห็นส่วนตัวของ "เธอ" รู้สึกกังวลเมื่อ พี่กระทิง (เรืองโรจน์ พูนผล ผู้จัดการกองทุน 500 ตุ๊ก ตุ๊ก) กลัวรัฐจะสนับสนุนให้เปล่ากับสตาร์ตอัพรุ่นใหม่ ที่เซตอัพบริษัทขึ้นมาเพื่อหวังผลจากภาครัฐ โดยเฉพาะการทำงานรวมตัวแบบ Part Time และ ไม่จริงจัง เมื่อรัฐบาลเกิดสนับสนุนสตาร์ตอัพรุ่นใหม่ ที่ทำงานแบบไม่จริงจัง และ จะส่งผลต่อภาพรวมอุตสาหกรรม กลายเป็นฟองสบู่ ส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติขาดความน่าเชื่อถือ อยากให้ภาครัฐบาลตระหนักเรื่องนี้อย่างจริงจัง

สำหรับจุดเด่นของแอพ "Piggipo" ประกอบด้วย 1. สามารถเห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายของบัตรเครดิตทุกใบภายในหน้าแรกของแอพโดยยอดรวมค่าใช้จ่ายนั้นจะแยกตามรอบบิลของแต่ละบัตรจริงๆ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สถานะการใช้จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตแบบ real time ได้ว่าตอนนี้ยังใช้ได้อีกเท่าไรหรือใช้ไปแล้วเท่าไร 2. ช่วยให้การตัดสินใจใช้บัตรของคุณเป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพด้วยความน่ารักของ Emotion Piggipo ที่แสดงอารมณ์ตามการใช้จ่ายบัตร เช่น ตั้ง Limit ไว้ที่ 50,000 บาท เมื่อใช้จ่ายใกล้ถึง หรือเกิน Limit ที่ตั้งไว้ หมูก็จะเปลี่ยน Emotion ไปตามการใช้จ่าย 3. มีระบบผ่อนชำระ ที่เปรียบเสมือนเลขาฯส่วนตัวที่จะช่วยคุณจัดการการบริหารการเงินผ่านการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต และการช่วยวางแผนการจ่ายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และ เรื่องความปลอดภัยนั้นเนื่องจากการใช้ Piggipo ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลบัตรเครดิตใดๆ และเป็นแอพพลิเคชันที่มีการเข้าระบบ 128 bit ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับเดียวกับธนาคารทั่วโลก เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,163 วันที่ 5 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559