เปิดข้อมูลพาณิชย์ "การใช้สิทธิภายใต้ FTA ส่งออก" มูลค่ารวม 7.5 หมื่นล้าน

12 ก.พ. 2567 | 20:00 น.

โฆษกรัฐบาลฯ เผย การใช้สิทธิภายใต้ FTA ส่งออก ม.ค. – พ.ย. ปี66 รวม 75,842.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อยอดจากตลาดเดิม พร้อมเปิดตลาดใหม่ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีแนวทางการทำงานให้ส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับทุกความตกลงให้เต็มความสามารถ รวมทั้งอำนวยความสะดวกการค้าทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เพิ่มศักยภาพในการส่งออก ขยายโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุน สร้างแต้มต่อให้แก่ผู้ส่งออกของไทย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

จากข้อมูลกรมการค้าต่างประเทศ ในด้านภาพรวมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ FTA ช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามีมูลค่าส่งออกสินค้ารวม 75,842.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 82.66% ของการส่งออกสินค้าที่ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA โดยไทยได้ใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) สูงสุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็นมูลค่า 27,584.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่

1.ยานยนต์สำหรับขนส่งของที่น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน

2.น้ำตาลจากอ้อย

3.น้ำมันปิโตรเลียมและน้ำมันจากแร่บิทูมินัส

4.รถยนต์สำหรับขนส่งบุคคล

5.เครื่องจักรอัตโนมัติ

การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรีของไทย มากเป็นอันดับที่ 2 ได้แก่ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน - จีน (ACFTA) ไทยได้ใช้สิทธิประโยชน์ คิดเป็นมูลค่า 22,059.90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยสินค้าส่วนใหญ่ คือ

1.ทุเรียนสด

2.ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ

3.มันสำปะหลัง

4.สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง

5.โพลิเมอร์ของเอทิลีน

นอกจากการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ FTA ข้างต้น ยังมีการใช้สิทธิประโยชน์ในความตกลงฉบับอื่น ๆ เช่น การใช้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) คิดเป็นมูลค่า 6,344.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเน้นสินค้ากลุ่มเนื้อไก่และเครื่องในไก่ปรุงแต่ง

นอกจากนี้ ยังมีการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ ความตกลงการค้าเสรีไทย - ออสเตรเลีย (TAFTA) คิดเป็นมูลค่า 5,802.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าสำคัญที่ ได้แก่ รถยนต์และยานยนต์ที่มีเครื่องดีเซลหรือกึ่งดีเซล รวมถึงการใช้สิทธิประโยชน์จาก ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - อินเดีย (AIFTA) คิดเป็นมูลค่า 4,987.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าที่สำคัญ ได้แก่ ลวดทองแดง เป็นต้น

“นายกรัฐมนตรีต้องการส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA ของไทยที่ได้ทำไว้กับประเทศหรือภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการค้าและการส่งออกของไทยอย่างสูงสุด ใช้ประโยชน์จากทุก FTA ให้เต็มศักยภาพ ซึ่งรวมถึง FTA ที่เพิ่งลงนามไปในรัฐบาลนี้ด้วย ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่ารัฐบาลนี้จะเพิ่มการลงนามในความตกลง FTA เปิดตลาดการค้าใหม่ เพื่อขยายสิทธิประโยชน์ในการส่งออกของผู้ค้าไทย และเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทยอย่างแน่นอน” นายชัย กล่าว