เตือน! มิจฉาชีพอ้างชื่อ "อมตะ" หลอกลวงซ้ำระบาด

08 มี.ค. 2566 | 12:17 น.

เตือน! มิจฉาชีพอ้างชื่อ "อมตะ" หลอกลวงซ้ำระบาด หลังมีการแอบอ้างใช้ชื่อ ตราสัญลักษณ์ ภาพผู้บริหาร รวมถึงมีการปลอมแปลงเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ในรอบที่ 2

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) “AMATA” เปิดเผยว่า จากกรณีความเสียหายของ กลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างใช้ชื่อ “บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)” บริษัทในกลุ่มบริษัทอมตะ ตราสัญลักษณ์ (โลโก้) ภาพผู้บริหาร รวมถึงมีการปลอมแปลงเอกสารสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ในรอบที่ 2 

โดยการชักชวนประชาชนให้เข้าร่วมลงทุนในกองทุนเทรดหุ้นระยะสั้น ที่จูงใจด้วยการรับผลตอบแทนในระดับที่สูงผ่านช่องทาง Line Official เพจ Facebook  ซึ่งบริษัท ได้ดำเนินทางกฎหมายเช่นกัน 

อย่างไรก็ดี จากการดำเนินการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า กลุ่มมิจฉาชีพไปตั้งสำนักงานในต่างประเทศ พร้อมมีระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าหลอกลวงคนไทย ซึ่งบริษัทมีความกังวลและเป็นห่วงประชาชนที่จะตกเป็นเหยื่อกับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว
 

ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนสามารถสังเกตได้สำหรับกรณีของอมตะ จะใช้กลไกของตลาดหลักทรัพย์โดยตรงในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และความเคลื่อนไหวของบริษัท ทั้งด้านการลงทุน ประกาศที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุน ซึ่งจะไม่มีการติดต่อโดยตรงไปยังประชาชน 

ใช้วิธีระดมเงินแบบสะสม ทีละ 800 -1000 บาท ที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้เป็นวิธีการหลอกลวง  นอกจากนี้บริษัท ยังได้ตั้งรางวัลสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแส หากใครพบเห็น ผู้ที่กระทำผิดและผู้ที่เกี่ยวข้อง 

สำหรับความคืบหน้าในการจับกุมของผู้กระทำผิดในครั้งแรก ที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้เป็นจำนวนมากได้แล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ซ้ำ ที่ผ่านมาสร้างผลกระทบให้กับประชาชน โดนหลอกลวงหลายสิบราย บางรายสูญเสียเงินถึงหลักแสน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนเงินที่มาก สำหรับประชาชนทั่วไปที่สะสมเงิน เพื่อดูแลตัวเองในอนาคต 

อย่างไรก็ตาม อมตะ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์การดำเนินการใด ๆ ต้องสร้างความเชื่อถือและความมั่นใจให้กับนักลงทุน ปฏิบัติตามกฎและระเบียบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อย่างเคร่งครัด 
 

ผู้สนใจลงทุนควรมีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบและอมตะขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเชิญชวนลงทุนผ่านระบบออนไลน์ต่างๆ และไม่มีการให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคลโดยเด็ดขาด 

"ประชาชนอย่างหลงเชื่อหากท่านใดได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงขอให้เร่งดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ  พร้อมเตรียมหลักฐานการสนทนาและการโอนเงินมาประกอบการแจ้งความ เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ"