อธิบดีกรมการข้าว ยันโปร่งใส ถูกกล่าวหาทุจริต-ทึ้งเงินชาวนา 1.5 หมื่นล้าน

14 ก.พ. 2566 | 09:10 น.

อธิบดีกรมการข้าวก้นร้อน แจงบัตรสนเท่ห์กล่าวหาทุจริต-ทึ้งงบช่วยชาวนา 1.5 หมื่นล้าน ยันทำถูกต้อง ตรวจสอบได้ ขณะโฆษกฯ โดนหางเลขถูกโยงอยู่เบื้องหลัง ลั่นไม่เกี่ยว หากใครพาดพิงจะใช้สิทธิดำเนินการทางกฎหมายถึงที่สุด

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 มีบัตรสนเท่ห์ เขียนถึง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สอบสวน นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว โดยอ้างว่าเป็นคนของกรมการข้าว อยู่มาตั้งแต่ก่อตั้งกรมการข้าว มีความตั้งใจ ในการทำงานตามภารกิจของกรมเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในการปลูกข้าว ช่วยเหลือชาวนาให้อยู่ดีกินดี นับถึงวันนี้ผ่านอธิบดีมา 10 คน และวันนี้มีอธิบดีคนที่ 11 ที่โยกย้ายมาจากกรมส่งเสริมการเกษตร

สาระสำคัญในบัตรสนเท่ห์อ้างอธิบดีฯมีพฤติกรรมไม่โปร่งใส แสวงหาผลประโยชน์อื่น รวมถึงเงินช่วยเหลือชาวนา 1.5 หมื่นล้านบาท ที่อธิบดีสั่งจ่ายเช็คไปที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) น่าจะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และตามระเบียบ ขั้นตอนด้านการเงินการคลัง ขอให้ช่วยตรวจสอบด้วย 

 

อธิบดีกรมการข้าว ยันโปร่งใส ถูกกล่าวหาทุจริต-ทึ้งเงินชาวนา 1.5 หมื่นล้าน

 

กรณีดังกล่าว  นายณัฏฐกิตติ์  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่ ดร.เฉลิมชัย   ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นว่าเรื่องข้าวเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศและระดับโลก จึงต้องเลือกคนที่มีความรู้ ความสามารถ กล้าได้กล้าเสีย เข้ามาพัฒนาข้าวไทยให้เป็นที่ยอมรับ ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวนา จึงได้เลือกเฟ้นให้ตนมาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าว เพื่อกำกับดูแลและดำเนินภารกิจงานด้านข้าวของประเทศให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

อธิบดีกรมการข้าว ยันโปร่งใส ถูกกล่าวหาทุจริต-ทึ้งเงินชาวนา 1.5 หมื่นล้าน

หลังจากที่ได้เข้ามารับตำแหน่ง ได้บริหารจัดการงานภายในของกรมการข้าวอย่างตรงไปตรงมา โดยรัฐมนตรีว่าการฯ มีนโยบายชัดเจนในเรื่องของการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งหลังจากที่ได้ปฏิบัติหน้าที่มาในระยะหนึ่ง ก็ได้พบเจอกับปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นภายในกรมการข้าว  จึงได้สั่งการเร่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงบนพื้นฐานความถูกต้องอย่างแท้จริง ซึ่งภายหลังการตรวจสอบก็ได้พบเจอเหตุทุจริตต่าง ๆ

 

 

อาทิ การทุจริตการซื้อขายเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและศูนย์วิจัยข้าว การทุจริตในโครงการจัดซื้อเครื่องทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ข้าว 200 ชุด ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2563 ซึ่งในขณะนี้ได้มีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังได้พบว่ามีการทุจริตยักยอกเงินค่ารักษาพยาบาลและค่าเล่าเรียนบุตรหลายแห่ง ตั้งแต่ปี 2557 มีมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

อธิบดีกรมการข้าว ยันโปร่งใส ถูกกล่าวหาทุจริต-ทึ้งเงินชาวนา 1.5 หมื่นล้าน

จากการตรวจสอบเหตุทุจริตดังกล่าวอย่างจริงจัง ทำให้มีผู้เสียผลประโยชน์ โดยพยายามสร้างเรื่องโจมตีให้ร้ายเพื่อให้หยุดการตรวจสอบและได้มีการกลั่นแกล้งกล่าวหาว่ามีการทุจริตในโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการเพิ่มศักยภาพและปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว ซึ่งในข้อเท็จจริง โครงการดังกล่าวได้มีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอนโดยได้มีคณะกรรมการคุณธรรมซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดทำ TOR (การกำหนดคุณลักษณะและเงื่อนไข) จนถึงขั้นตอนการตรวจรับให้เป็นไปตามระเบียบ โปร่งใส เที่ยงธรรม นอกจากนี้ยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรมร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ด้วย

 

 

บัตรสนเทห์

 

นายณัฏฐกิตติ์   กล่าวอีกว่า  บัตรสนเท่ห์ มีการกล่าวหาถึงโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66  ไร่ละ 1,000 บาท มีการสั่งจ่ายเช็คโดยมิชอบ ซึ่งโดยแท้จริงแล้วนั้น โครงการดังกล่าวได้มีการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 และได้มีการร่วมหารือถึงเรื่องการเบิกจ่ายและโอนเงินกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

 

อาทิ สำนักงบประมาณ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น จึงถือเป็นการดำเนินการอย่างถูกต้องเป็นไปตามระเบียบ

 

อธิบดีกรมการข้าว ยันโปร่งใส ถูกกล่าวหาทุจริต-ทึ้งเงินชาวนา 1.5 หมื่นล้าน

 

“วันนี้ชาวบ้านตอบสนองดีมาก ทางเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ก็จะทำแต่งานวิจัย ทั้งที่มีกลุ่มถ่ายทอดเทคโนโลยี ผมก็ถามไปที่ศูนย์วิจัยและศูนย์เมล็ด ถ้าไม่มีศูนย์ข้าวชุมชน จะไปถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับใคร ในส่วนทั้ง ผอ.ทั้ง 2 ศูนย์จะต้องมีความรับผิดชอบ ผลิตงานวิจัยมาเห็นอยู่เต็มหิ้ง จะมีโครงการเปิดบ้านงานวิจัยของกรมการข้าว กำลังเร่งอยู่ และก็ต้องถามกันเองว่าวันนี้ได้ทำอะไรเพื่อเกษตรกรหรือยัง และทำอะไรให้เป็นที่พึงพอใจกับเกษตรกรแล้วหรือยัง ได้เข้าไปช่วยเหลือเต็มที่หรือไม่

 

อธิบดีกรมการข้าว ยันโปร่งใส ถูกกล่าวหาทุจริต-ทึ้งเงินชาวนา 1.5 หมื่นล้าน

 

โดยเฉพาะในขณะนี้มีเทคโนโลยี ระบบซูมออนไลน์ ที่ดึงวิทยากรเก่งทั้งคนไทยและต่างชาติ เข้ามาให้ความรู้ ก็นัดเกษตรกรให้ไปที่ศูนย์ หรือเกษตรกรมีไอที ก็สามารถฟังถ่ายทอดได้ที่บ้านก็ไม่ต้องเสียค่ารถเดินทาง ที่พัก แล้วนำเงินค่าอาหาร ค่าเดินทาง  ที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยง ไปใช้จ่ายช่วยเหลือเครื่องมือให้เกษตรกรดีกว่าไหม อาจจะเป็นเครื่องสีข้าว เครื่องอบความชื้นเมล็ด ให้กับกลุ่มเกษตรกร น่าจะเป็นประโยชน์คุ้มค่ามากกว่า นอกจากจะเป็นการฝึกอบรมบินโดรน  ต้องให้เกษตรกรเข้ามาฝึกบิน และสอนให้เข้าใจ และสามารถไปสอนในพื้นที่ในจังหวัดนั้น ๆ"

 

อธิบดีกรมการข้าว ยันโปร่งใส ถูกกล่าวหาทุจริต-ทึ้งเงินชาวนา 1.5 หมื่นล้าน

นายณัฏฐกิตติ์ เผยอีกว่า กำลังจะขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณ 5 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องตรวจดีเอ็นเอข้าวหอมมะลิแบบอัตโนมัติ  เพราะทุกวันนี้ใช้มือคนทำงาน แต่ถ้าใช้เครื่องอัตโนมัติ จะใช้เวลาตรวจเพียง 3-5 นาทีจะรู้เลยว่าเป็นข้าวหอมมะลิแท้หรือไม่ ซึ่งจะช่วยประหยัดคน และงบประมาณ เพราะแทนที่จะใช้คนในกระบวนการนี้ไม่ต่ำกว่า 15 คน ก็จะใช้เพียง 5 คนเท่านั้น

“ส่วนการรีไวซ์(revises) องค์กร/แบรนด์ ได้มีการจ้างที่ปรึกษามาวิเคราะห์ โครงสร้างใหม่ของกรมการข้าว ถามว่าผิดอะไร ผิดตรงไหน  และความก้าวหน้าของบุคลากรในองค์กร ที่ติดอยู่ที่ตำแหน่งชำนาญการพิเศษ เมื่อไรจะไต่เต้าขึ้นระดับผู้อำนวยการระดับต้น ไประดับสูง แล้วเมื่อไรจะได้ตัวเลือกจากสำนักงานต่าง ๆ กว่า 10 คน  เพื่อเฟ้นขึ้นมาเป็นรองอธิบดี ซึ่งตอนนี้ไม่มีตัวเลือกเลย แล้วถ้าไม่ทำความก้าวหน้าในอนาคตจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ถ้าเราไม่วิเคราะห์โครงสร้างกันก่อน แล้วถ้าไม่จ้างที่ปรึกษา ทำกันเองได้หรือไม่ ประสบความสำเร็จหรือไม่ มีอธิบดีคนไหนที่กล้าทำบ้าง"

 

อธิบดีกรมการข้าว ยันโปร่งใส ถูกกล่าวหาทุจริต-ทึ้งเงินชาวนา 1.5 หมื่นล้าน
 

นายณัฏฐกิตติ์  กล่าวด้วยว่า ทั้งหมดเป็นการทำเพื่อองค์กร ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง และบุคลากรจะต้องได้รับความช่วยเหลือและดูแลอย่างดีเหมือนคนในครอบครัว ส่วนเรื่องที่อาจไม่ถูกใจบางคน มองว่าเป็นเรื่องปกติ คนที่จ้องเลื่อยขาเก้าอี้ก็มีบ้าง เพราะทำขัดใจและขัดผลประโยชน์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับผู้อำนวยการบางคน ที่เอาเครื่องคัดทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ข้าว ที่กลุ่มเกษตรกรฟ้องร้องทั่วประเทศว่านำเครื่องผิดสเปคไปให้ใช้ อย่างนี้ผิดหรือไม่ ซึ่งหากบุคลากรของกรมฯมีความไม่โปร่งใสก็จำเป็นต้องตรวจสอบ และว่ากันตามข้อกฎหมายว่าผิดจริงหรือไม่

 

อธิบดีกรมการข้าว ยันโปร่งใส ถูกกล่าวหาทุจริต-ทึ้งเงินชาวนา 1.5 หมื่นล้าน

 

ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือชาวนา งบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ก็มีมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ออกมา ให้กรมการข้าวโอนเงินส่วนนี้ให้กับ ธ.ก.ส.เพื่อจ่ายเงินชาวนาเพิ่มเติมให้กับเกษตรกร 4.6 ล้านคน ในโครงการไร่ละ 1,000 บาท จ่ายสูงสุด 20,000 บาท ก็เป็นไปตามระเบียบ

"หากไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ตามที่มีข่าวออกไป ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะออกมาชี้แจง เอาเวลาไปลุยทำงานดีกว่า ไม่เกิดประโยชน์ ที่ผ่านมาก็พยายามอโหสิไม่ตอบโต้" นายณัฏฐกิตติ์ กล่าว

กฤษ อุตตมะเวทิน 

ขณะที่ นายกฤษ อุตตมะเวทิน  รองอธิบดีกรมการข้าว และโฆษกกรมการข้าว เผยผ่าน ช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์  ถึงอธิบดีกรมการข้าวและทุกคน ระบุว่า ต้องขออภัยที่อาศัยช่องทางนี้สื่อสารเรื่องนี้ ด้วยปรากฏว่ามีหนังสือบัตรสนเท่ห์เผยแพร่ไปทั่ว เป็นเหตุให้อธิบดีกรมการข้าวเสียหาย ถึงกับกล่าวกับบุคคลในกรมการข้าว และบุคคลทั่วไปว่าเป็นฝีมือตนและพวกร่วมกันทำนั้น

“ผมขอตำหนิผู้ทำหนังสือสนเท่ห์นั้น และปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องเนื่องจากผมมีความเป็นสุภาพบุรุษ พร้อมรับผิดชอบหากจะทำหนังสือร้องเรียนจะใช้ข้อเท็จจริงประกอบหลักฐานและลงชื่อตัวเอง ผมไม่เคยมีข้อมูลหรือรู้เรื่องที่เขียนมาในหนังสือนั้น และไม่มีเหตุผลใดที่จะทำในกรณีนี้ หากผู้ใดกล่าวหาผมว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีก จะขอใช้สิทธิดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด เนื่องจากเห็นว่าทำให้ได้รับความเสียหาย”