“กรณ์”นำทีมบุกฉะเชิงเทรา ท่องแลนด์มาร์คเศรษฐกิจสายมู

04 ก.พ. 2566 | 07:43 น.

“กรณ์”นำทีมพรรคชาติพัฒนากล้าบุกจ.ฉะเชิงเทรา ท่องแลนด์มาร์คเศรษฐกิจสายมู สร้างรายได้เข้าจังหวัดปีละ 3,000 ล้านบาท

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือ นายกอุ๊ ที่ปรึกษาพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า เดินทางไปยัง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดูต้นแบบเศรษฐกิจสายมู ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคชาติพัฒนากล้า 

โดย นายกอุ๊ ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวสายมู ของ จ.ฉะเชิงเทรา เชื่อมต่อจากวัดหลวงพ่อโสธร และวัดสมานรัตนาราม โดยได้จัดสร้างพระพิฆเนศ องค์ยืน และ ตลาดชุมชน ขึ้น ณ อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน  

นายกรณ์ กล่าวว่า  ประเทศไทยเรามีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธามากมาย หากมีการฟื้นฟูหรือสร้างสตอรี่เรื่องเล่า จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้มากมาย นโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า คือ 1 จังหวัด 1 พันล้านบาท 

โดยการสร้างแหล่งท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดไหนไม่มีสถานที่ที่ดึงความน่าสนใจได้เพียงพอ ก็สร้างขึ้นใหม่ได้ เช่น ที่ จ.ฉะเชิงเทรานี้ เป็นต้นแบบสำคัญ และสามารถขยายผลต่อไปทั่วประเทศได้ สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนปีละหลายพันล้านบาท 

ด้านนายวัชรพงศ์ หรือ นายกอุ๊ กล่าวว่า วันนี้ทีมงานพรรคชาติพัฒนากล้า ได้มาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวสายมู รวมทั้งสิ้นประมาณ 60 กิโลเมตร โดยเริ่มจากการสักการะ หลวงพ่อโสธร ที่วัดโสธร ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้คนมาท่องเที่ยว เพื่อสักการะหลวงพ่อโสธรเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมง 

จากนั้นไม่ได้ไปไหนต่อ ตนจึงคิดให้สมาคมชาวฉะเชิงเทรา สร้างพระพิฆเนศองค์ยืนขึ้นที่ ต.บางตลาด อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา และต่อมาเจ้าอาวาสวัดสมานรัตนาราม ได้สร้างพระพิฆเนศองค์นอนสีชมพูขึ้น เป็นการเชื่อมต่อการท่องเที่ยวแต่ละจุดได้สั้นและครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น 

“พอการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเกิดขึ้น ก็มีร้านค้าริมทาง และในจุดท่องเที่ยวแต่ละจุด เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น วัดสมานฯ  มีร้านค้ากว่า 500 ร้านค้า และตลอดเส้นทางการท่องเที่ยวมีร้านค้าต่าง ๆ ของชาวบ้าน ทั้งร้านค้าเกษตร ร้านค้าชุมชน ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ เกิดรายได้เข้าสู่ชุมชนปีละ ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท” นายวัชรพงศ์ ระบุ