svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

“ไทยยูเนี่ยน”ร่วมลงทุนใน “เจลลาเจน” สตาร์ทอัพชั้นนำในอังกฤษ

08 ธันวาคม 2565

ไทยยูเนี่ยน ประกาศเข้าลงทุนใน “เจลลาเจน” บริษัทสตาร์ทอัพชั้นนำ ผลิตคอลลาเจนจากแมงกระพรุนในอังกฤษ รอบการระดม 8.7 ล้านปอนด์เสริมทัพธุรกิจด้านเทคโนโลยีชีวภาพ

รายงานข่าวจาก บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  หรือ TU เผยว่า ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้เข้าลงทุนใน บริษัท เจลลาเจน หนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพชั้นนำด้านคอลลาเจนชีวภาพ มีสำนักใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองคาร์ดิฟฟ์ สหราชอาณาจักร ในรอบการระดมทุนซีรีย์เอที่ทางเจลลาเจนได้ระดมเงินทั้งสิ้น 8.7 ล้านปอนด์(ประมาณ 365 ล้านบาท คำนวณที่ 42 บาทต่อปอนด์)โดยการลงทุนของไทยยูเนี่ยนครั้งนี้เป็นการลงทุนผ่านกองทุน Venture Fund ของบริษัท

 

สำหรับบริษัท เจลลาเจน ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 โดยเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ ที่พัฒนาคอลลาเจน ในรูปแบบของวัสดุชีวภาพ จากแมงกระพรุน  เพื่อใช้ทางเวชศาสตร์ในการฟื้นสภาพ หรือ ศาสตร์การรักษาโรคต่าง ๆ ผ่านการเข้าไปฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายโดยลงลึกไปถึงระดับเซลล์ ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์และวิธีการเพาะเลี้ยง 

คอลลาเจนชนิด 0 ของบริษัท เจลลาเจน (เครดิตภาพ: เจลลาเจน)

 

ทั้งนี้การลงทุนของไทยยูเนี่ยนในเจลลาเจนในครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือทั้งในด้านการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต และการนำไปใช้ในสินค้าที่ไทยยูเนี่ยนมีอยู่และสินค้าที่พัฒนาขึ้นในอนาคต

 

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยนฯในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเล ได้พยายามอย่างยิ่งในการยกระดับนวัตกรรมในธุรกิจและสินค้าของบริษัทฯ  โดยเจลลาเจน เป็นผู้นำในการวิจัยคอลลาเจนจากแมงกระพรุนและกำลังพัฒนารูปแบบคอลลาเจนจากทะเล ซึ่งจะได้นำมาใช้ในการแพทย์ เครื่องสำอาง อาหารและโภชนาการ ซึ่งไทยยูเนี่ยนหวังที่จะได้ร่วมงานกับเจลลาเจนทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงโรงงานผลิตทั่วโลก

นายโธมัส-พอล เดสแคมปส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจลลาเจน

 

ด้าน นายโธมัส-พอล เดสแคมปส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจลลาเจน กล่าวว่า นับเป็นความสำเร็จและก้าวที่สำคัญสำหรับการลงทุนที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าธุรกิจในครั้งนี้จากไทยยูเนี่ยนได้เข้ามาร่วมลงทุน  โดยการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเจลลาเจนในฐานะผู้นำด้านวัสดุชีวภาพและเครื่องมือแพทย์ระดับโลกในอนาคต   และยังจะช่วยในการจัดการวัตถุดิบของเจลลาเจนและการขยายกำลังการผลิตในอนาคต  เพื่อเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้เทคโนโลยีของเจลลาเจนเติบโตได้อีกมาก