บางจาก ประกาศอัพสเกล วิชั่น-มิชชั่น 7 ปีโต 10 เท่า ธุรกิจยั่งยืนทุกมิติ

23 พ.ย. 2565 | 11:36 น.

บางจาก อัพสเกลวิชั่น -มิชชั่น คงอัตลักษณ์ธุรกิจพลังงานยั่งยืน ที่เติบโตด้วยนวัตกรรมโซลูชั่นสีเขียว ตั้งเป้าเติบโต 10 เท่า ภายใน 7 ปี ในทุกมิติธุรกิจ

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าบริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มบริษัทบางจากได้ปรับองค์กรเพื่อความยั่งยืน ด้วยแนวคิด 3Rs – Refocus: เร่งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่กันกับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด Restructure: การปรับองค์กรเพื่อสร้างช่องทางในการเข้าถึงตลาดและลูกค้า และ Reimagine: การใช้โอกาสและเครื่องมือในการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท 

บางจาก ประกาศอัพสเกล วิชั่น-มิชชั่น 7 ปีโต 10 เท่า ธุรกิจยั่งยืนทุกมิติ

กลุ่มบริษัทบางจากเดินหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) โดยมีเป้าหมายแรกคือความ เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) บริษัทฯ จึงได้มีการปรับวิสัยทัศน์และ พันธกิจองค์กร สู่วิสัยทัศน์ใหม่ ‘รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว’ และกำหนดยุทธศาสตร์การเติบโตจนถึงปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) สำหรับทั้ง 5 กลุ่มธุรกิจ ที่สอดรับกับแนวทางของแผนงาน BCP 316 NET เพื่อรองรับเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

  • กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน

เริ่มจากกลุ่มโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บางจากมีการปรับตัวมาพอสมควร แล้วก็จะปรับต่อไป จากการที่เป็นโรงกลั่นขนาดไม่ใหญ่มาก จึงปรับตัวได้ไว ทำให้ทุกวันนี้โรงกลั่นของบางจากแข็งแกร่ง

บางจาก ประกาศอัพสเกล วิชั่น-มิชชั่น 7 ปีโต 10 เท่า ธุรกิจยั่งยืนทุกมิติ

  • ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วน EBITDA ของกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิงที่เป็น extended core businesses เป็นกว่า 60% ภายในค.ศ. 2030
  • มุ่งเน้นในส่วนของการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดหรือลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
  • เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตของธุรกิจหลัก
  • BCP Trading เติบโตจนเป็นผู้ค้าน้ำมันอิสระอันดับ 1 ที่ตลาดสิงคโปร์ 
  • กลุ่มธุรกิจการตลาด

ส่วนกลุ่มธุรกิจตลาดเติบโตทุกปีต่อเนื่อง โดยคาดว่าเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2565 จะเป็นเดือนที่ยอดขายสูงสุดของปี

• ตั้งเป้าขยายเครือข่ายสถานีบริการบางจากเป็น 1,900 แห่งและร้านกาแฟอินทนิล 3,000 แห่งทั่วประเทศในปี ค.ศ. 2030

o Unique Design Service Station เพื่อให้เป็นมากกว่าสถานที่เติมน้ำมัน โดยมุ่งมั่นเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค

• นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง

• สร้างการเติบโตธุรกิจ Non-Oil (ร่วมมือกับคู่ค้าและจากแฟรนไชส์) 

• สร้างความผูกพันกับลูกค้าด้วยดิจิทัล

 

  • กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า

กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า นอกจากธุรกิจหลักที่เป็นโรงไฟฟ้า คอยติดตามความคืบหน้าด้านการลงทุนจากบีซีพีจี (ด้านการจัดการ Supply Chain ของธุรกิจแบตเตอรี่) 

  • ตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 6,800 GWh จากการเติบโตของธุรกิจพลังงานสีเขียว ทั้งจากโครงการในประเทศและต่างประเทศ
  • ขยายธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต เช่น ธุรกิจแบตเตอรี่และการกักเก็บพลังงาน การให้บริการด้านเทคโนโลยีพลังงาน พลังงานรูปแบบใหม่และธุรกิจคาร์บอนต่ำอื่น ๆ 
  • ธุรกิจคาร์บอน เครดิต
  • กลุ่มธุรกิจชีวภาพ

ธุรกิจหลักผ่านจุดต่ำสุดช่วงไตรมาส 2-3 ไปแล้ว แนวโน้มธุรกิจจะดีขึ้น จะต่อยอดธุรกิจชีวภาพมูลค่าสูง (HVP)

  • เป้าหมายเพิ่มสัดส่วนธุรกิจหลักกว่า 70% ของ EBITDA ให้มาจากผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง 
  • รุกขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลสุขภาพและความงามของผู้บริโภค
  • จะตั้งโรงงานพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง (CDMO) 
  • ต่อยอดการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อเพลิงอากาศชีวภาพแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel -SAF) 

 

  • กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่

กำลังการผลิตของ OKEA จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้จากทั้ง Organic growth และ Inorganic growth ในอนาคต

• ตั้งเป้าหมายการผลิตมากกว่า 100,000 boepd (บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน) ภายในปี ค.ศ. 2030 จากการดำเนินการแหล่งปิโตรเลียมในประเทศของนอร์เวย์ผ่านบริษัทฯ OKEA ASA  และพิจารณาการเติบโตในธุรกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติในแหล่งอื่นๆ ที่มีศักยภาพในอนาคต

• ตั้งเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วน EBITDA กว่า 7,000 ล้านบาทภายในปีค.ศ. 2030 

- Winnonie – Battery as a Service ต่อยอด หาพันธมิตรใหม่ๆ และรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ 

- ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) 

- ธุรกิจ New S-Curve ใหม่ๆ 

จากการวางแผนเติบโตอย่างครอบคลุมในทุกธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว จะทำให้ EBITDA ในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) เติบโตถึง 10 เท่า จากระดับเฉลี่ยประมาณ 10,000 ล้านบาท ในช่วงปี พ.ศ. 2558-2563 (ค.ศ. 2015-2020) ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืนของโลก ตอกย้ำแนวทางการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังค มที่บางจากฯ ให้ความสำคัญมาตลอดเกือบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจ “นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) เป็นต้นมา

 

กลุ่มบริษัทบางจากในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ได้ขยายสู่ธุรกิจใหม่ ๆ อย่างกลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ สถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) นอกเหนือไปจากธุรกิจที่เป็นรากฐานสำคัญอย่างกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้า น้ำมันและกลุ่มธุรกิจการตลาด และมีความเป็นบริษัทสากลจากการดำเนินธุรกิจในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก เปรียบเสมือนการเดินทางสู่บทใหม่ ๆ ที่มีโอกาสแห่งการเติบโตมากมายรออยู่ นำมาสู่การปรับอัตลักษณ์องค์กรและการเริ่มใช้ตราสัญลักษณ์องค์กร ‘ใบไม้ใบใหม่’ สื่อความหมายแทนด้วยนวัตกรรมพลังงานที่ขับเคลื่อนไปสู่อนาคตอย่างไม่สิ้นสุด เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ‘รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว’ พันธกิจ ‘เรามุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืน โดยคงไว้ซึ่งสมดุลแห่งความมั่นคงทางพลังงาน เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี

ด้วยนวัตกรรมโซลูชั่นสีเขียว ดำเนินธุรกิจด้วยความคำนึงถึงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) อย่างมีความรับผิดชอบต่อทุกภาคส่วน’ และกลยุทธ์องค์กรในการเติบโตและการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจาก

บางจาก ประกาศอัพสเกล วิชั่น-มิชชั่น 7 ปีโต 10 เท่า ธุรกิจยั่งยืนทุกมิติ

สำหรับตราสัญลักษณ์ ‘ใบไม้ใบใหม่’ เริ่มต้นใช้ทดแทนตราสัญลักษณ์รูปใบไม้เดิมอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 นี้เป็นต้นไป โดยการเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์องค์กรใหม่นี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและบริการทางธุรกิจใด ๆ ของบริษัท ส่วนตราสัญลักษณ์ที่สถานีบริการบางจาก จะมีการวางแผนเรื่องการปรับเปลี่ยนต่อไป