ทอท. ดีเดย์เม.ย. 66 เก็บค่าสัมปทานร้านค้า รับผู้โดยสารฟื้นตัว

16 พ.ย. 2565 | 06:02 น.

การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารที่ใช้สนามบินของทอท.เริ่มดีดกลับมาอย่างมีนัยสำคัญ ทอท.ต้องรับมือ และมองทิศทางการฟื้นตัวกลับมาเท่ากับก่อนเกิดโควิดเมื่อไหร่ “นิตินัย ศิริสมรรถการ” ทอท.มีคำตอบ

ทอท.คาดผู้โดยสารฟื้น 100%ในปีงบ67

 

นายนิตินัย  ศิริสมรรถการ  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทอท. หรือ AOT กล่าวว่า ก่อนโควิด-19 มีผู้โดยสารใช้บริการสนามบิน 6 แห่งของทอท.รวมกว่า 142 ล้านคนต่อปี แต่เมื่อเกิดโควิด-19 การเดินทางชะงักงัน ส่งผลให้ในปีงบประมาณ 2565 (1 ต.ค. 2564-30 ก.ย. 2565) ทอท.มีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินอยู่ที่ 45.6 ล้านคน คิดเป็นเพียง 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับก่อนเกิดโควิด-19 กระทั่ง ในปี2565 โควิดเริ่มคลี่คลายลง หลายประเทศรวมถึงไทยเปิดประเทศ ส่งผลให้ผู้โดยสารเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-ก.ย.66)

 

ก่อนโควิด ทอท.มีผู้โดยสารใช้บริการใน 6 สนามบิน เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4 แสนคนต่อวัน  เมื่อเข้าสู่ช่วงตารางบินฤดูหนาว เดือน ต.ค. 65 ผู้โดยสารกลับมาอยู่ที่ 1.8-1.9 แสนคนต่อวัน และตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 65 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.3-2.4 แสนคนต่อวัน

ทำให้คาดว่าปีงบประมาณ 2566 ทอท.จะมีผู้โดยสารใช้บริการ 6 สนามบินอยู่ที่ 96 ล้านคน หรือ ฟื้นตัว 68% คิดเป็น 2ใน 3 ก่อนเกิดโควิด และคาดการณ์ว่าปีงบประมาณ 2567 (ต.ค. 66-ก.ย. 67) ผู้โดยสารจะกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติ 142 ล้านคน เท่ากับก่อนโควิด และจะทำให้ทอท.กลับมาทำกำไรได้ในหลักพันล้านบาท

 

AOT คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารหลังโึควิด

 

ดีมานต์ผู้โดยสารพุ่งสวนทางซัพพลาย

 

จากดีมานต์ผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับซัพพลายที่หายไป ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2566 จะเกิดความโกลาหลทั่วโลก รวมถึงไทยด้วย เพราะการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้เกิดการล่มสลายของห่วงโซ่อุปทาน คาดว่าจะยังไม่สามารถกลับมาได้ภายใน 1 ปี ในขณะที่ดีมานต์ผู้โดยสารค่อยๆ เริ่มกลับสู่ปกติ สวนทาง กับฝั่งซัพพลาย ผู้ให้บริการงานต่างๆ ของสนามบินที่ล้มหายจำนวนมาก

 

ที่ผ่านมาทอท.ไม่เคยลดพนักงาน และสนามบินยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้เท่าก่อนเกิดโควิด ที่ 142 ล้านคน แต่ปัญหาคือขณะนี้ผู้โดยสารเริ่มทยอยกลับมา แต่จำนวนพนักงานบริการของบริษัทต่างๆ ในสนามบิน อาทิ พนักงานด้านภาคพื้น หรือแม้แต่แท็กซี่ ก็ยังไม่กลับมาเท่ากับปกติ เช่น แท็กซี่ ก่อนโควิด-19 ที่สนามบินสุวรรณภูมิมีแท็กซี่ลงทะเบียนไว้ 5 พันคัน แต่ปัจจุบันเหลืออยู่แค่ 2.5 พันคัน ส่วนที่สนามบินดอนเมือง เดิมมี 2 พันคัน ขณะนี้เหลืออยู่ 450 คัน

 

ดังนั้นการผลักดันแอปพลิเคชั่น SAWASDEE by AOT ซึ่งสกายไอซีซี จะเป็นผู้นำดำเนินการภายใน 10 ปี โดยทอท.จะได้รับรายได้ 15% จากสกายไอซีที แอปพลิเคชั่นนี้ จะผู้โดยสารสามารถวางแผนการเดินทางทั้งก่อนมาสนามบิน รวมถึงการเดินทางตั้งแต่เช็คอิน ไปจนถึงขึ้นเครื่อง ที่ผู้โดยสารจะทราบข้อมูลของสนามบินแบบเรียลไทม์ บนมือถือ ทำให้สะดวกและง่ายต่อการวางแผนการเดินทาง ช่วยลดความโกลาหลในการให้บริการในสนามบิน เพราะขที่ผ่านมาทอท.มีเทคโนโลยี แต่ไม่มีโซลูชั่น

ขณะที่การเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT 1) สนามบินสุวรรณภูมิ ทอท.จะเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2566 การแออัดของผู้โดยสารที่ใช้บริการอาคารผู้โดยสารในวันนี้ เป็นปัญหาติดขัดบริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ก็ต้องปรับแผนแก้ปัญหาในส่วนนี้ให้สอดคล้องกับดีมานต์ของผู้โดยสาร ไม่ใช่เกิดจากอาคารผู้โดยสารรองรับผู้โดยสารไม่ได้ ทั้งนี้ทอท.ได้แจ้งผู้ประกอบการร้านค้าที่เช่าพื้นที่ภายในอาคาร SAT 1 คิงเพาเวอร์ ให้เตรียมแผนเปิดให้บริการในช่วงดังกล่าวแล้ว

 

เริ่มเก็บค่าสัปทานธุรกิจในสนามบินเม.ย.66

 

อย่างไรก็ตามจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสาร ทำให้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ทอท.ก็เตรียมจะกลับมาจัดเก็บค่าสัมปทานกับบริษัทต่างๆ ที่เป็นคู่สัญญากับทอท. กว่า 1,000 สัญญา ในลักษณะของ Minimum Guarantee  (การรันตรีผลตอบแทนขั้นตํ่า) หลังจากออกมาตรการช่วยเหลือไปในช่วงโควิด สำหรับในส่วนของกลุ่มคิงเพาเวอร์ ทอท.จะเก็บส่วนแบ่งรายได้ในรูปแบบ Sharing per Head ซึ่งจะเก็บในราคา 233 บาทต่อหัวผู้โดยสารสำหรับพื้นที่ดิวตี้ฟรี ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์ 71 บาทต่อหัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ และ 127 บาทต่อหัวสำหรับดิวตี้ฟรี สนามบินภูเก็ต

 

แต่หากปริมาณผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ในระดับที่การันตีไว้ในสัญญา คือ 64-66 ล้านคนต่อปี ทอท. จะเรียกเก็บรายได้จากคิงเพาเวอร์ตามที่เสนอไว้ในสัญญาลักษณะค่าตอบแทนขั้นตํ่า (Minimum Guarantee)ถ้าจำนวนผู้โดยสารกลับมาเท่ากับคาดการณ์ผู้โดยสารตอนประมูล ทอท.ก็จะได้รายได้เท่ากับ ส่วนแบ่งรายได้ขั้นตํ่าตามที่เสนอ และสมมติว่าจำนวนผู้โดยสารกลับมา 80% ของคาดการณ์ผู้โดยสาร ตอนประมูล ทอท.ก็จะได้ส่วนแบ่งรายได้เท่ากับ 80% ของส่วนแบ่งรายได้ขั้นตํ่าตามที่เสนอ ซึ่งถ้าผู้โดยสารมากทอท.ก็จะได้รายได้ตามสัดส่วนที่เป็นธรรม