88 แคนนาเทค สบช่อง “ Wellness”บูม ผุดคลินิกกัญชา

12 ต.ค. 2565 | 11:59 น.

88 แคนนาเทค ปล่อยมัดเด็ดรุกตลาดกัญชาท้ายปี เปิดตัวCannaHealth คลินิกกัญชาและกัญชงเพื่อสุขภาพในรูปแบบ wellness center รองรับดีมานด์ทั้งคนไทยและต่างชาติ เล็งปล่อย 3โพรดักซ์เขย่าตลาดกัญชงส่งท้ายปี

บริษัท 88 แคนนาเทค จำกัด รองรับตลาด Wellness และเมดิคัลทัวริสซึ่ม ประเดิมเปิดตัวCannaHealth คลินิกกัญชาและกัญชงเพื่อสุขภาพทั้งด้านสุขภาพและความงาม ก่อนทยอยส่งผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสกัด CBD จากช่อดอกกัญชง ภายใต้แบรนด์ CannBE ลงตลาดภายในสิ้นปีนี้และส่งออกภายในไตรมาสแรกปี2566 

นายพรประสิทธิ์ สีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท 88 แคนนาเทค จำกัด

นายพรประสิทธิ์ สีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท 88 แคนนาเทค จำกัด เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดกัญชา กัญชงโลกปัจจุบันอยู่ที่ 8 แสนล้านบาทและคาดว่าไม่เกิน 5 ปีมูลค่าจะเติบโตขึ้นแตะ1.33 ล้านบาท ขณะที่ตลาดในประเทศไทยปัจจุบันมีมูลค่าตลาดราวๆ600-1000 ล้านบาทและคาดว่าภายใน5ปี มูลค่าจะเพิ่มถึง 5 หมื่นล้านบาท 

 

88 แคนนาเทค เป็นบริษัทแรกๆที่กระโดดเข้ามาในอุตสาหกรรมกัญชงตั้งแต่เริ่มมีการปลดล็อคกฏหมาย ปัจจุบันมีกำลังการปลูกทั้งในส่วนของฟาร์มกรีนเฮาส์ 2000 ตารางเมตร กำลังการปลูก 2.5หมื่นตัน/ปี และคาดว่าในปี2566นี้กำลังการปลูกจะเพิ่มขึ้นจากคอนแทรคฟาร์มมิ่งรวม 2.5หมื่นตารางเมตร กำลังการปลูก 3 แสนต้นและสามารถสกัดเป็น CBD ได้ราวๆ1.5-1.8 ตัน โดยผลผลิตทั้งหมดจะใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทที่ออกสู่ตลาดในอนาคต

88 แคนนาเทค สบช่อง “ Wellness” บูมผุดคลินิกกัญชา

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจกัญชา ที่สามารถเปิดให้บริการได้แล้วโดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้คือ คลินิกกัญชาและกัญชงเพื่อสุขภาพในรูปแบบ wellness center ในชื่อของ CannaHealth ซึ่งจะแบ่งออกเป็น2ส่วนหนึ่งคือคลินิกความงาม beauty and spa และคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์โดยใช้กัญชาและกัญชงเป็นตัวนำในการรักษา

 

ในส่วนของคลินิกความงาม beauty and spa ได้พัฒนาสูตรในการนำผลิตภัณฑ์CBD วิธีการนวด การใช้น้ำมันหอมระเหยของCBD ผสมเข้าไป ทำให้โพรดักซ์และบริการแตกต่างจากเจ้าอื่นในตลาดและจะกลายเป็นจุดขายที่โดดเด่น  และในส่วนของกัญชาทางการแพทย์หรือ medical cannabis ส่วนนี้จะเป็นคลินิกแพทย์แผนไทยประยุกต์โดยเฉพาะ โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านกัญชากัญชงทางการแพทย์เข้ามาเป็นที่ปรึกษา มีหมอแพทย์แผนไทยซึ่งได้รับประกาศนียบัตรให้การตรวจคัดกรองโดยการดูธาตุเจ้าเรือน และจ่ายผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นกัญชาและกัญชงขององค์การเภสัชกรรมและองค์การแพทย์แผนไทย รวมทั้งยาบางส่วนที่ปรุงขึ้นเฉพาะบุคคลโดยแพทย์แผนไทยในคลินิก เป็นผู้ปรุงและสั่งจ่ายตามปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งจะเป็นรูปแบบใหม่ของการ treatment ที่มีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

CannaHealth

“ในส่วนของผลิตภัณฑ์และยาที่จะใช้ในคลินิกนอกจากยาจากองค์การเภสัชกรรมและองค์การแพทย์แผนไทย แล้วบางส่วนเราอาจจะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่ม บางส่วนอาจจะต้องจำหน่ายช่อดอกกัญชงโดยมีคุณหมอเป็นผู้สั่งจ่าย และบางส่วนจะเป็นผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรของเราเช่นมาร์กหน้าCBD 

 

กลุ่มลูกค้าส่วนหนึ่งจะเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย โดยมีลูกค้ากลุ่มที่นอนไม่หลับเป็นลูกค้าหลัก รองลงมาเป็นกลุ่มออฟฟิศซินโดรม ไมเกรน และข้อเข่า ตอนนี้เริ่มมีลูกค้าต่างชาติจำนวนมากทั้งจากญี่ปุ่นและมาเลเซีย ติดต่อเข้ามาในลักษณะเมดิคัลทัวริสซึ่ม แต่ด้วยคลินิกของเราเพิ่งเปิดบริการ 1 สาขาคือสาขาศรีนครินทร์ พื้นที่ 240 ตารางเมตร ทำให้มีลิมิตในการรองรับลูกค้าได้ประมาณ 15 คนต่อวันเท่านั้น 

 

ในแผนต่อไปของเราจะขยายในรูปแบบของแฟรนไชส์ ซึ่งเราคาดว่าในไตรมาสแรกของปีหน้าน่าจะมีสาขาแฟรนไชส์ประมาณ 10 แห่งทั้งในรูปของ stand alone  200 ตารางเมตรขึ้นไป รูปแบบของคีออสและร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมาย อีกส่วนหนึ่งเรากำลังเจรจากับเชนโรงแรมหลายเชนเช่น renaissance และmarriott เพราะโรงแรมมีความพร้อมอยู่แล้ว ส่วนลูกค้าเรามั่นใจว่ามีแน่นอนโดยเฉพาะต่างชาติที่จะเข้ามาในรูปแบบเมดิคัลทัวริสซึ่ม”

  ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ภายใต้แบรนด์ CannBE  (1)

นอกจากคลินิกเปิดให้บริการได้ก่อนแล้ว ในไตรมาสที่ 4 นี้บริษัทยังมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสกัด CBD จากช่อดอกกัญชง ภายใต้แบรนด์ CannBE 3 ชนิด ประกอบด้วย CBD anti acne serum ,CBD anti acne cream และCBD anti aging serum เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าเพื่อป้องกันและลดเลือนริ้วรอยที่มาก่อนวัย โดยจะปูพรมทางออนไลน์และผ่านตัวแทนจำหน่ายวางแผนการตลาดไว้สำหรับในประเทศในสัดส่วน 40% และตลาดส่งออกในสัดส่วน 60% ทั้งในรูปของวัตถุดิบ น้ำมัน CBD Oil จากช่อดอกกัญชง และผลิตภัณฑ์ทั้งเครื่องสำอาง สมุนไพร อาหารเสริม 

 

“ในส่วนของการส่งออกคาดว่าจะสามารถส่งออกล็อตแรกได้ภายในต้นปีหน้า ซึ่งตอนนี้ได้รับการติดต่อซื้อจากลูกค้าใน 7-8 ประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ อังกฤษ เยอรมัน เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และตุรกี เป็นต้น และจะเริ่มรับรู้รายได้จากช่อดอกกัญชง และการขายเมล็ดพันธุ์บางส่วนให้กับ Contract Farming  รวมทั้งบริษัทกำลังมีการระดมทุนเพื่อขยายเฟส 2 ผ่านบริษัท สินวัฒนา คราวด์ฟันดิง จำกัด โดยประมาณการว่าภายใน ปี 2566 บริษัทจะมีรายได้ 1,000ล้านบาท จากผลิตภัณฑ์กว่า 1.2 ล้านยูนิต ที่จะทยอยออกสู่ตลาดในไตรมาส 4 นี้ 

 

ส่วนปี2566 จะมีการออกสินค้าเพิ่มเติมเช่น  health supplement หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ,CBD oil dopper ช่วยเรื่องการนอนหลับ และตัว hemp tea หรือชากัญชงช่วงต้นไตรมาสแรกของปีหน้า และสเต็ปต่อไปที่เราจะทำคือการปลูกกัญชงเพื่อนำเมล็ดมาทำแพลนต์เบสโปรตีนและโปรตีนทางเลือก ส่วนใบกิ่งก้านรากจะนำไปทำเส้นใย”