เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 welfare.mof.go.th ผ่าน-ไม่ผ่านดูเลย

31 ต.ค. 2566 | 16:17 น.

เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 welfare.mof.go.th ผ่าน-ไม่ผ่าน เปิดให้เช็คสิทธิ์ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ 31 มกราคม ขณะที่ กรมบัญชีกลาง อัปเดตบัตรคนจนจ่ายอะไรบ้า'ง

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2565  กระทรวงการคลัง ระทรวงการคลัง เปิดให้ผู้ลงทะเบียนเช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 65   สำหรับผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 65 รอบที่ 8 สำหรับกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนช่วงวันที่ 21-27 ตุลาคม 2565   สามารถเช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 65 ผ่านสองช่องทางดังนี้

เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 ผ่าน ไม่ผ่าน ทางออนไลน์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 65

 

 

 

ตารางบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565

ขั้นตอนที่ 2 เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 ที่หน่วยลงทะเบียน

  • สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)
  • สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง
  •  ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย
  • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต
  •  และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา

ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 17 ตุลาคม 2565 ณ เวลา 12.00 น.

มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 21,526,830 ราย

  • โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,853,518 ราย
  • ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 11,673,312 ราย
  • ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั่วประเทศ

สำหรับ วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2565 เป็นการประกาศผล “สถานะการลงทะเบียน” ของโครงการฯ โดยเป็นข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 5 กันยายน – 6 ตุลาคม 2565 พบว่าผู้ที่ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว”

  • มีจำนวนทั้งสิ้น 18,337,463 ราย และเมื่อตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครองแล้ว
  • พบว่า มีผู้ผ่านการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง จำนวนทั้งสิ้น 16,766,528 ราย โดยผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวเมื่อตรวจสอบสถานการณ์ลงทะเบียนจะพบข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” ซึ่งผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ในช่วงนี้ โดยขอให้รอผลการตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง ซึ่งจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนในช่วงเดือนมกราคม 2566
  • และผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลของกรมการปกครองมีจำนวนทั้งสิ้น 1,570,935 ราย

สำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ล่าสุด กระทรวงการคลัง รายงานความคืบหน้าว่า

  •  โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 13.15 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 5,117.47 ล้านบาท
  • โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 1.07 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 384.54 ล้านบาท

ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565   ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 25 ตุลาคม 2565 ณ เวลา 09.00 น.

  • มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 21,997,577 ราย
  • โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,763,514 ราย
  • และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 12,234,063 ราย

กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าล่าสุดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนี้

  • ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 27 ตุลาคม 2565 ณ เวลา 15.00 น.
  • มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 22,100,594 ราย
  • โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,719,819 ราย
  • และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 12,380,775 ราย
  • ซึ่งจำนวนผู้ลงทะเบียนข้างต้นเป็นเพียงจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น โดยการเป็นผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ อีกครั้งหนึ่ง
  • นอกจากนี้ การลงทะเบียนตามโครงการฯ เป็นการลงทะเบียนรายบุคคล(ผู้ลงทะเบียน) แต่การตรวจสอบจะตรวจสอบทั้งรายบุคคลและสมาชิกในครอบครัว โดยขั้นตอนแรกจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ (เกณฑ์บุคคล) หากผู้ลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์บุคคล

ล่าสุด ณ วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2565 เวลา 23.00 น. กระทรวงการคลัง รายงานยอดใช้จ่ายสะสม

  • บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 13.15 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 5,146.60 ล้านบาท
  • โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 1.07 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 388.34 ล้านบาท

วันสุดท้ายการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 เป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) โดยประชาชนที่ต้องการได้รับสวัสดิการภายใต้โครงการฯ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว หรือยังไม่มีบัตรสวัสดิการจะต้องลงทะเบียนใหม่ทุกคนโดยสามารถลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนได้ทั่วประเทศ ได้แก่

  • สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)
  • สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ
  • สังกัดกรมบัญชีกลาง
  • ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ
  • ภายใต้กระทรวงมหาดไทย
  • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต
  • และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา
  • ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของวันนี้

ล่าสุดวันนี้ 1 พฤศจิกายน 2565 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยถึงผลการดำเนินมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศปี 2565 ระยะที่ 2 ณ วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการ  ซึ่งประกอบด้วย

  • โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 13.17 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 5,185.6 ล้านบาท
  •  โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 1.08 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม 394.5 ล้านบาท

ปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ลงทะเบียนทั้งหมดกว่า 22 ล้านราย

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 เป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ซึ่งมีการเปิดรับลงทะเบียนโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565 มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 22,293,473 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,702,494 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 12,590,979 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15.00 น.)

ทั้งนี้ จำนวนผู้ลงทะเบียนข้างต้นเป็นเพียงจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น โดยการเป็นผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ การลงทะเบียนตามโครงการฯ เป็นการลงทะเบียนรายบุคคล (ผู้ลงทะเบียน) แต่การตรวจสอบจะตรวจสอบทั้งรายบุคคลและสมาชิกในครอบครัว โดยขั้นตอนแรกจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ (เกณฑ์บุคคล) หากผู้ลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์บุคคลโดยมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของเกณฑ์ครอบครัว (ในกรณีที่มีคู่สมรสหรือบุตร) ซึ่งหากพบว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ครอบครัวจะถือว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านคุณสมบัติและผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ

การประกาศผลสถานะการลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565 มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ทั้งสิ้น 22,294,282 ราย

  • โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,693,353 ราย
  • และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 12,600,929 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เวลา 12.00 น.)
  • โดยจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา อุบลราชธานี กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น และศรีสะเกษ
  • ทั้งนี้ พบว่าสัดส่วนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ
  • เป็นเพศหญิงร้อยละ 55.15
  • เพศชายร้อยละ 44.85 และส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 36 – 69 ปี คิดเป็นร้อยละ 62.78 ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมด

โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เป็นการประกาศผล “สถานะการลงทะเบียน” ของโครงการฯ โดยเป็นข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 5 กันยายน – 27 ตุลาคม 2565 พบว่า ผู้ที่ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว”

  • มีจำนวนทั้งสิ้น 20,708,258 ราย และเมื่อตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครองแล้ว
  • พบว่า มีผู้ผ่านการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง จำนวนทั้งสิ้น 19,162,254 ราย (คิดเป็นร้อยละ 92.53 ของผู้ที่ลงทะเบียนที่กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว)
  • โดยผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวเมื่อตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนจะพบข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” ซึ่งผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ในช่วงนี้ โดยขอให้รอผลการตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง ซึ่งจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนในช่วงเดือนมกราคม 2566 และผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลของกรมการปกครองมีจำนวนทั้งสิ้น 1,546,004 ราย (คิดเป็นร้อยละ 7.47 ของผู้ที่ลงทะเบียนที่กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว)

สำหรับผู้ลงทะเบียนที่มี “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขต หากพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้องขอให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง หรือหากพบว่าข้อมูลที่ลงทะเบียนไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เช่น จำนวนบุตรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีจำนวนมากกว่าข้อมูลบุตรที่ลงทะเบียนไว้ เป็นต้น ให้ติดต่อแก้ไข โดยหากเป็นผู้ที่ลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนจะต้องติดต่อขอแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้แล้วเท่านั้น และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ โดยจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2565

  • สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 094-858-9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือโทร. 08-5842-7102 , 08-5842-7103, 08-5842-7104 ,08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
  • ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)

วันนี้ 6 พ.ย. .65 นางสาว ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ปิดรับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565แล้ว โดยมีพี่น้องประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน-31 ตุลาคม 2565 จำนวน 22,293,473 ราย  (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15.00 น.)

ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วและผ่านขั้นตอนตรวจสอบสถานะแล้ว พบว่า “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” ไม่ต้องดำเนินการใดๆ ขอให้รอการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติในช่วงเดือนมกราคม 2566   ซึ่งการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ ที่เข้าเงื่อนไข ซึ่งจะทำให้การใช้งบประมาณในการให้ความช่วยเหลือได้อย่างประสิทธิภาพ  แก้ปัญหาตรงจุดและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

วันนี้ 14 พฤศจิกายน 2565  กระทรวงการคลัง ย้ำอีกครั้งหากผู้ลงทะเบียนไม่สำเร็จหากพบลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ให้รีบแก้ไขภายในวันที่ 17 พฤศิจกายน 2565 นี้

วันที่ 6 ธันวาคม 2565  สำนักงานเขตดอนเมือง ได้แจ้งว่าเปิดรอบแก้ไขข้อมูลที่คงค้างในระบบและการอัพโหลดเอกสารโครงการรับลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ระหว่างวันที่ 6-15 ธันวาคม 2565 ในกรณีต่าง ๆ ดังนี้

1. กรณีรับแบบฟอร์มแต่ยังไม่ได้บันทึก

2. กรณีลงทะเบียนสมบูรณ์แล้วแต่ยังไม่อัพโหลดเอกสาร (สามารถอัพโหลดเอกสารได้ถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2565)

3. กรณีการไม่ยืนยันข้อมูล

3.1 รับแบบฟอร์มลงทะเบียนแล้วยังไม่บันทึกข้อมูล หรือกรณีคีย์ข้อมูลไม่เข้า

3.2 ลงทะเบียนสมบูรณ์แล้วแต่ยังไม่อัพโหลดเอกสาร

3.3 การไม่ยืนยันข้อมูลผู้ลงทะเบียน

4. กรณีบันทึกข้อมูลจากแบบฟอร์มที่ตกค้าง และกรณีกดยืนยันข้อมูล จะประกาศผล Dopa ในวันที่ 20 ธันวาคม 2565

วันนี้  19 ธันวาคม 2565 ความคืบหน้าลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ที่มีสถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้อีกครั้งในวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั่วประเทศหรือตรวจสอบได้ด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th

วันนี้ 22 ธันวาคม 2565 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ประกาศผลสถานะการลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565  เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลของกรมการปกครอง จำนวนทั้งสิ้น 1,386,423 ราย ให้รีบเร่งแก้ไขภายในวันที่ 23 ธันวาคม 2565

วันนี้ 5 มกราคม 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน 2565 กระทรวงการคลัง เตรียมประกาศผลลงทะเบียนภายในสิ้นเดือนมกราคม 2566 เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบสิทธิหากผ่านตรวจสอบแล้วผ่านให้ยืนยันตัวตนผ่านทางธนาคาร หากไม่ผ่านให้ยื่นอุทธรณ์

ล่าสุดวันนี้ 9 มกราคม 2566 โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน 2566  มีความคืบหน้าเพิ่มเติมเป็นลำดับที่จะเติมเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนรอบใหม่ โดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  ในฐานะประธานกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะประกาศให้การใช้สิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2566 นี้ โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติจากผู้ที่เข้ามาลงทะเบียน และจะทยอยประกาศรายชื่อในเดือนม.ค.นี้

ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้  นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าบัตรคนจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ว่า กระทรวงการคลัง จะทยอยประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติให้ทราบภายในเดือนมกราคมนี้ และเริ่มใช้สิทธิโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2566

วันนี้ 16 มกราคม 2566  ความคืบหน้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนรอบใหม่ มีรายงานว่ารัฐบาลจะเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 500-700 บาท โดยแหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ในการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลัง ไปพิจารณาหาแนวทางเพิ่มเงินอุดหนุนค่าครองชีพแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ที่จะเริ่มเดือนมี.ค.นี้ โดยอยากให้เพิ่มเป็น 500-700 บาทต่อเดือน จากปัจจุบันที่ได้รับคนละ 200-300 บาทต่อเดือน

ความคืบหน้าตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ 66 ผ่าน-ไม่ผ่าน กระทรวงการคลัง เปิดให้ตรวจสอบสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 รอบที่สองในวันที่ 31 มกราคมนี้

ล่าสุดวันนี้ 27 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนเช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 ในวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2566 โดยประชาชนที่ลงทะเบียนและผ่านคุณสมบัติสามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้

1.เว็บไซต์ https:// บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือเว็บไซต์ https://welfare.mof.go.th

2.หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน  ดังนี้้ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย สำนักงานคลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และ ศาลาว่าการเมืองพัทยา

3.ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02 109 2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)

ล่าสุดวันนี้ 31 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ความคืบหน้าการประกาศผลพิจารณาคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 กระทรวงการคลัง แจ้งว่า เนื่องจากข้อมูลการตรวจสอบคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ต้องมีการตรวจสอบจากหน่วยตรวจสอบสิทธิหลายหน่วยงาน  เพื่อให้การตรวจสอบมีความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ ดังนั้น การประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติโครงการฯ ปี 2565 จะเลื่อนออกไปก่อน

ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ ธกส. สาขาขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ แจ้ง ความคืบหน้า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565

1. ให้รอประกาศจากกระทรวงการคลัง ซึ่งจะประกาศผลผู้ลงทะเบียนฯ ที่ผ่านการตรวจสอบเกณฑ์คุณสมบัติ และให้มายืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิต่อไป

2. ประชาชน สามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติที่หน่วยรับลงทะเบียน ที่ใดก็ได้ หรือตรวจสอบผลได้ผ่านเว็บไซต์ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th

3. การยืนยันตัวตนของผู้ได้รับสิทธิต้องใช้บัตรประชาชนแบบ smartcard เท่านั้น

4. กรณีได้รับสิทธิ ผู้ได้รับสิทธิต้องมีพร้อมเพย์ (บัญชีธนาคารและผูกกับบัตรประชาชน) เพื่อรับเงินโอนจากรัฐ

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ใช้ไม่ทัน 1 มี.ค.66

ชัดเจนแล้วว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ที่เปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ โดยรัฐบาลวางไทม์ไลน์ใช้บัตรใหม่ได้ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2566  อาจจะต้องรอไปก่อน

ล่าสุด นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ เนื่องจากธนาคารกรุงไทย ยังไม่ได้นำส่งรายชื่อมาให้กระทรวงการคลังประกาศแต่อย่างใด จากเดิมจะต้องประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติภายในเดือนม.ค.2566 ที่ผ่านมา

วันนี้ 21 มีนาคม 2565 กรมบัญชีกลาง  ชี้แจงว่า สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผ่านบัตรประจำตัวประชาชน มีดังนี้

วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น

  • 300 บ./คน/เดือน

มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า

  • 315 บ./ครัวเรือน/เดือน

วงเงินส่วนลดคาซื้อก๊าซหุงต้ม

  • 80 บ./คน/3 เดือน ล่าสุด ครม.อนุมัติวงเงินเพิ่มเป็น 100 บาท (เม.ย.-มิ.ย.66)

มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา

  • 100 บ./ครัวเรือน/เดือน (กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บ.แต่ไม่เกิน 315 บ.)

วงเงินค่าเดินทาง

ผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บ./คน/เดือน

  • รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
  • รถไฟฟ้า BTS
  • รถไฟฟ้า MRT
  • รถไฟฟ้า Airport Rail Link
  • บริษัท ขนส่ง จำกัดบขส.
  • การรถไฟแห่งประเทศไทย

การยืนยันตัวตน

วันที่เริ่มใช้สิทธิและการทบสิทธิ

ยืนยันตัวตน (e-KYC) เริ่มใช้สิทธิ

  • วันที่ 1-26 มีนาคม 2566   เริ่มใช้สิทธิ 1 เมษายน 2566
  • วันที่ 27 มีนาคม - 26 เมษายน 2566 เริ่มใช้สิทธิ 1 พฤษภาคม 2566   การทบสิทธิ จำนวน 1 เดือน (เมษายน)
  • วันที่ 27 เมษายน - 26 พฤษภาคม 256 6 เริ่มใช้สิทธิ  1 มิถุนายน 2566 จำนวน 2 เดือน (เมษายนและพฤษภาคม)
  • วันที่ 27 พฤษภาคม - 26 มิถุนายน 2566 เริ่มใช้สิทธิ 1 กรกฎาคม 2566  การทบสิทธิ จำนวน 3 เดือน (เมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน)

สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ  66

วันนี้ 1 เม.ย. 66 กระทรวงการคลัง เปิดให้ผู้ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จสามารถใช้จ่ายบัตรคนจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยใช้บัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดรูดซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าทั่วประเทศ โดย ผู้ผ่านเกณฑ์และยืนยันตัวตนสำเร็จ จำนวนทั้งสิ้น 12,565,862 ราย มูลค่าการใช้สิทธิในวันแรก ณ เวลา 12.00 น. กว่า 519.52 ล้านบาท จากผู้ใช้สิทธิกว่า 1.9 ล้านราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ)

ล่าสุดวันที่ 3 เมษายน 2566  นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้สรุปตัวเลขการใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน  ณ วันที่ 3 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. มีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมจำนวนกว่า 1,990.17 ล้านบาท จากผู้มีสิทธิฯ จำนวนกว่า 6.64 ล้านราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ)

วันที่ 6 กรกฎาคม 2566  นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า สำหรับเดือนมิถุนายน 2566 กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1- 30 มิถุนายน 2566 ดังนี้

สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประจำตัวประชาชน)

  • วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 4,107.34 ล้านบาท
  •  วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 36.87 ล้านบาท
  • วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 37.02 ล้านบาท
  • วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด 11.13 ล้านบาท
  • วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 31.60 ล้านบาท

รวมจำนวนเงิน 4,223.96 ล้านบาท

สวัสดิการที่จ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน/บัญชีเงินฝากธนาคาร

  • มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 (โอนเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66) รวมจำนวนเงิน 233.82 ล้านบาท

 สวัสดิการที่จ่ายตรงให้กับผู้ให้บริการ

  • มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 143.14 ล้านบาท
  • มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 16.85 ล้านบาท
  • รวมจำนวนเงิน 160.00 ล้านบาท

รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,617.78 ล้านบาท.

 

ภาพรวมการใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน

ล่าสุดกรมบัญชีกลางอัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกรกฎาคม 2566 จ่ายอะไรบ้าง

วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน

สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 พฤษภาคม - 26 มิถุนายน 2566 และเริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 จะได้รับการทบสิทธิวงเงินซื้อสินค้า 3 เดือน (ของเดือนเมษายน - มิถุนายน) จำนวนเงิน 900 บาท

- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (กรกฎาคม - กันยายน 2566)

- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL)

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจ่ายอะไรบ้าง

 

 

วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 (โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน

สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 พฤษภาคม - 26 มิถุนายน 2566 จะได้รับการทบสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (ของเดือนเมษายน - มิถุนายน) ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

ล่าสุดวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคลังจังหวัดแพร่ ได้ประชาสัมพันธ์การประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 รอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ดังนี้ 

ผลการตรวจสอบคุณสมบัติรอบอุทรรณ์ (เพิ่มเต็ม)

  • ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามโครงการฯ เกณฑ์อสังหาริมทรัพย์ (กรมที่ดิน) และบุคคลที่เข้าข่ายไม่ได้รับสิทธิ (กรมราชทัณฑ์) สามารถยืนยันตัวตน (e-KYC) ได้ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
  • ข้อความแจ้งเตือนจาก บมจ. ธนาคารกรุงไทย

"โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ขอแจ้งว่าท่านผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ สามารถตรวจสอบผลได้ที่เว็บไซต์โครงการและยืนยันตัวต้นภายในวันที่ 26 ก.ค. 66 เพื่อเริ่มใช้สิทธิตั้งแต่ 1 ส.ค. 66"

"ผู้ที่ยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. - 26 ก.ค. 66 เมื่อเริ่มใช้สิทธิครั้งแรกในเดือนใดจะได้รับการทบสิทธวงเงินค่าซื้อสินค้าร้านรงฟ้าฯ ย้อนหลังตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 กรณีมีวงเงินคงเหลือจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป"

การได้รับสิทธิย้อนหลังรอบอุทรรณ์ (เพิ่มเติม)

วันที่ยืนยันตัวตน

  • 17 ก.ค. - 26 ก.ค. 66  วันที่เริ่มใช้สิทธิได้ วันที่ 1 ส.ค. 2566  สิทธิที่ได้ย้อนหลัง เม.ย. - ก.ค. 66 (4 เดือน)

วันที่ยืนยันตัวตน

  • 27 ก.ค. - 26 ส.ค. 66 วันที่เริ่มใช้สิทธิได้   1 ก.ย. 2566 สิทธิที่ได้รับย้อนหลัง เม.ย. - ส.ค. 66 (5 เดือน)

วันที่ยืนยันตัวตน

  • 27 ส.ค. - 26 ก.ย. 66 วันที่เริ่มใช้สิทธิได้   1 ต.ค. 2566  สิทธิที่ได้รับย้อนหลัง  เม.ย. - ก.ย. 66 (6 เดือน)

วันที่ยืนยันตัวตน

  • 27 ก.ย. - 26 ต.ค. 66 วันที่เริ่มใช้สิทธิได้   1 พ.ย. 2566 สิทธิที่ได้รับย้อนหลัง เม.ย. - ต.ค. 66 (7 เดือน)
  • 27 ต.ค. 66 เป็นต้นไป วันที่ 1 ของเดือนถัดไป ไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง

***ผู้พิการที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ไม่สามารถดำเนินการยืนยันตัวตนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นยืนยันตัวตนแทนได้

ประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติ ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 รอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม)

ทั้งนี้ ผู้พิการที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) จะได้รับสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการเดือนละ 200 บาท ในดือนที่เริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ เดือนละ 800 บาท) และผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนแล้วเท่านั้น

วันที่ 24 กรกฏาคม 2566 กระทรวงการคลัง เปิดรับสมัคร “ขนส่ง-สองแถว” ให้บริการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566  โดยมีรายละเอียดการสมัคร ดังนี้

1. ผู้ประกอบการรถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน และรถสองแถวรับจ้าง (ลำดับที่ (5) – (7)) สามารถสมัครเพื่อเข้าร่วมเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิตามโครงการฯ ได้ที่สำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก โทร. 02 271 8522 ต่อ 3508 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด (วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.)

2. ผู้ประกอบการเรือโดยสารสาธารณะ (ลำดับที่ (8)) สามารถสมัครเพื่อเข้าร่วมเป็นผู้ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิตามโครงการฯ ได้ที่สำนักมาตรฐานทะเบียนเรือ กรมเจ้าท่า โทร. 02 233 1311 ต่อ 288 หรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา (วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.)

เริ่มรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป โดยยังไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดในการรับสมัคร หากผู้ประกอบการมีความประสงค์และมีความพร้อมสามารถสมัครผ่านหน่วยงานกำกับดูแลได้อย่างต่อเนื่อง และหากผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะดำเนินการแล้วเสร็จตามขั้นตอนผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะจะสามารถเปิดให้บริการรับชำระเงินจากผู้มีสิทธิตามโครงการฯ ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป (ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด)

ล่าสุดเมื่อเร็ว ๆนี้  นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังขอให้ผู้มีสิทธิตามโครงการฯ ที่ยังไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตนหรือยังยันยืนตัวตนไม่สำเร็จกว่า 1.2 ล้านรายรีบดำเนินการยืนยันตัวตนที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธนาคารออมสิน ภายในวันที่ 27 สิงหาคม 2566 หรือ ธนาคารกรุงไทยฯ ซึ่งยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการยืนยันตัวตน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิสวัสดิการได้

ล่าสุดวันนี้ 7 สิงหาคม 2566 สำนักงานคลังจังหวัดแพร่ ได้ทำการประชาสัมพันธ์ กา่รใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชน ประจำเดือนสิงหาคม 2566

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำนัำงานคลังจังหวัดแพร่

 

ล่าสุดวันนี้ 8 สิงหาคม 2566 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจังหวัดแพร่ รายงานผลการยืนยันตัวตนและอุทธรณ์ ข้อมูลสะสมตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม - 6 สิงหาคม 2566  จำนนวนผู้ลงทะเบียนสมบูรณ์ 120, 967 คน ผ่านคุณสมบัติ 90,623 คน  (74.92%) ไม่ผ่านคุณสมบัติ 30,344 คน (25.08%)

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน

วันนี้ 21 สิงหาคม 2566 สำนักงานคลัง จังหวัดแพร่ ได้โพสต์ข้อความล่าสุด รายงานผลการยืนยันตัวตนและอุทธรณ์ ข้อมูลสะสมตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม - 20 สิงหาคม 2566

ผลการยืนยันตัวตนและอุทธรณ์ ข้อมูลสะสมตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม - 20 สิงหาคม 2566

 

วันนี้ 29 สิงหาคม 2566 สำนักงานคลังจังหวัดแพร่ รายงานผลการยืนยันตัวตนและอุทธรณ์ ข้อมูลสะสมตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม - 28 สิงหาคม 2566 จำนวนผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน 66 จำนวนทั้งสิ้น 136,070 คน ผ่านคุณสมบัติ 90,623 คน (74.92%) ไม่ผ่านคุณสมบัติ 30,344 คน (25.08%)  ผู้มายืนยันตัวตน 136,070 คน อุทธุรณ์ 2,200 คน

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

 

ล่าสุดวันที่ 5 สิงหาคม 2565  สำนักงานคลังจังหวัดแพร่ ได้รายงานผลการยืนยันตัวตนและอุทธรณ์ โครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน 2565 ข้อมูลสะสมตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม - 3 กันยายน 2566 มีผู้ลงทะเบียนสมบูรณ์ 120,967 คน ผ่านคุณสมบัติ 90,623 คน คิดเป็นสัดส่วน 74.92% ไม่ผ่นคุณสม่บัติ  30,344 คน คิดเป็นสัดส่วน 25.08%  ผู้มายืนยันตัวตน 136,106 คน และ อุทธรณ์ 2,200 คน  สถานะการยืนยันตัวตน ผ่านธนาคารกรุงไทย สำเร็จจำนวน  29,242 คน ไม่สำเร็จ 30 คน รวม 29,272 คน, ธ.ก.ส. จำนวน 60,813 คน ไม่สำเร็จ 42 คน รวม 60.855 คน และ ออมสิน 45,956 คน ไม่สำเร็จ 23 คน รวม 45,979 คน.

โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 จังหวัดแพร่

นอกจากนี้สำนักงานคลังจังหวัดแพร่ โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้ ประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติ (รอบอุทธรณ์ เพิ่มเติม ครั้งที่ 2 ) ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565

ผลการตรวจสอบคุณสมบัติรอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 ยืนยันตัวตน (e-KYC)

ที่ผ่านคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ได้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2566 เกณฑ์อสังหาริมทรัพย์ (กรมที่ดิน) จำนวน 114 ราย

ผู้ได้รับสิทธิได้รับวงเงินสิทธิสวัสดิการย้อนหลัง

เฉพาะวงเงินในส่วนของการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าฯ ผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการย้อนหลัง(จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน) เท่านั้น กรณีมีวงเงินคงเหลือ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2566จะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป

ผู้ผ่านสิทธิที่ได้รับเบี้ยคนพิการ เดือนละ 800 บาท และเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ เดือนละ 200 บาทธนาคารกรุงไทย จะส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ผ่านคุณสมบัติให้ทราบ ดังนี้

1."โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ได้ที่เว็บไซต์ https:/บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th และต้องยืนยันตัวตน ย้อนหลังตั้งแต่ ภายในวันที่ 26 ก.ย. 66 เพื่อเริ่มใช้สิทธิตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 "

2."ผู้ที่ยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. - 26 ก.ย. 66 เมื่อเริ่มใช้สิทธิครั้งแรก ในเดือนใดจะได้รับการทบสิทธิวงเงิน ค่าซื้อสินค้าร้านธงฟ้าฯ ย้อนหลังตั้งแต่เดือนเม.ย.66 กรณีมีวงเงินคงเหลือจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป

สรุปการยืนยันตัวตน วันที่เริ่มใช้สิทธิได้ และการได้รับสิทธิย้อนหลังรอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2

วันที่ยืนยันตัวตน  (รอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2)

28 ส.ค. - 26 ก.ย.66  วันที่เริ่มใช้สิทธิได้  1 ต.ค. 66   สิทธิที่ได้รับย้อนหลัง เม.ย. - ก.ย. 66 (6 เดือน)

27 ก.ย. -26 ต.ค.66  วันที่เริ่มใช้สิทธิได้ 1 พ.ย.66 สิทธิที่ได้รับย้อนหลัง เม.ย. - ต.ค. 66 (7 เดือน)

27 ต.ค. - 26 พ.ย.66  วันที่เริ่มใช้สิทธิได้ 1ธ.ค.66  สิทธิที่ได้รับย้อนหลังเม.ย. - พ.ย. 66 (8 เดือน)

27 พ.ย. - 26 ธ.ค.66 วันที่เริ่มใช้สิทธิได้  1 ม.ค. 67  สิทธิที่ได้รับย้อนหลัง เม.ย. - ธ.ค. 66 (9 เดือน)

27 ธ.ค.66 เป็นต้นไป วันที่ 1 ของเดือนถัดไป ไม่ได้สิทธิที่ได้ย้อนหลัง

โครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565

ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (คณะกรรมการฯ) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ได้ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติสำหรับรอบอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 แล้วนั้น ต่อมากระทรวงการคลังได้ตรวจสอบพบว่า ผลการพิจารณาคุณสมบัติด้านอสังหาริมทรัพย์สำหรับรอบอุทธรณ์อาจจะยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วน ดังนั้น เพื่อประโยชน์แก่ผู้ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้มีการตรวจสอบความถูกต้องของคุณสมบัติด้านอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง ซึ่งโครงการฯ ได้มีการประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติมแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 และวันที่ 28 สิงหาคม 2566 โดยมีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม จำนวน 1,830 ราย และ 114 ราย ตามลำดับ

ล่าสุดวันที่ 8 กันยายน 2566 กรมบัญชีกลาง ได้ออกมาเปิดเผยรายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1- 31 สิงหาคม 2566 ดังนี้

1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประจำตัวประชาชน) จำนวนเงิน (ล้านบาท)

1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 4,042.45

1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 46.98

1.3 วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 42.90

1.4 วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด 12.00

1.5 วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 31.50

รวมจำนวนเงิน (1) 4,175.84

2. สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ (บัตรประจำตัวประชาชน) จำนวนเงิน (ล้านบาท)

2.1 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 (โอนเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566) 242.16

รวมจำนวนเงิน (2) 242.16

3. สวัสดิการที่จ่ายตรงผู้ให้บริการ จำนวนเงิน (ล้านบาท)

3.1 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 164.53

3.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 21.18

รวมจำนวนเงิน (3) 185.71

รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1) + (2) + (3) 4,603.71

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ

ภาพรวมการใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน 2566

วันที่ 22 กันยายน 2566  สำนักงานคลัง จังหวัดแพร่ ได้แจ้ง ข้อมูลการใช้สิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เดือนสิงหาคม 2566 ภาพรวมการใช้จ่ายจังหวัดแพร่ 40,078,866 บาท

ภาพรวมการใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน

 

วันที่  3 ตุลาคม 2566  สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจังหวัดแพร่ โพสต์ข้อความว่า SMS แจ้งจาก บมจ.ธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 25666 ว่า"ตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 ท่านไม่สามารถใช้สิทธิตามโครงการแห่งรัฐได้เนื่องจากอยู่ระหว่างตรวจสอบสิทธิการถือครองอสังหาริมทรัยพ์และคู่สมรสอีกครั้งหนึ่ง"หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานคลังจังหวัดแพร่ กลุ่มงานนโยบายและเศรษฐกิจจังหวัด เบอร์โทร 054 511 076 ต่อ 303 318 321 หรือ 082 992 3100

โครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

วันที่ 5 ตุลาคม 2566 นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนตุลาคม 2566 จะได้รับสิทธิ ดังนี้

วันที่ 1 ตุลาคม 2566 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน 
  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ตุลาคม - ธันวาคม 2566)
  •  วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL/EBM) และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ

วันที่ 6 ตุลาคม 2566 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ที่ผู้มีสิทธิได้ยื่นหนังสือให้ความยินยอมไว้แล้ว) ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน (ตั้งแต่เดือนเมษายน - กันยายน 2566)

วันที่ 20 ตุลาคม 2566 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

  •  เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน

**สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 สิงหาคม - 26 กันยายน 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ และกลุ่มตกหล่น รวมทั้งผู้ผ่านสิทธิที่ดินเพิ่มเติม จะได้รับการทบสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ (ของเดือนเมษายน - กันยายน 2566) ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

ตารางโอนเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน เดือนตุลาคม 2566

วันนี้ 9 ตุลาคม 2566 สนง.คลัง จังหวัดแพร่  แจ้งรายละเอียด การจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือน ตุลาคม 2566 

วันที่ 1 วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อเดือน

** สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 สิงหาคม - 26 กันยายน 2566และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ตุลาคม 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์และกลุ่มตกหล่น รวมทั้งผู้ผ่านสิทธิที่ดินเพิ่มเติม จะได้รับการทบสิทธิวงเงินค่าซื้อสินค้า

ย้อนหลัง 6 เดือน (เมษายน - กันยายน 2566) จำนวน 1,800 บาท

ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อ 3 เดือน

(ตุลาคม - ธันวาคม 2566) วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อเดือน

ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL/EBM)

และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ

หมายเหตุ : ถอนเป็นเงินสดไม่ได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป

วันที่ 6 เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยฯ 100 บาทต่อเดือน

สำหรับผู้มีสิทธิที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่เกิดก่อนวันที่ 1 กันยายน 2506

หมายเหตุ: - โอนเข้าบัญชีงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือบัญชีเงินฝากร่วมกับบุคคลอื่น/บัญชีบุคคลอื่น ที่ผู้มีสิทธิได้ยื่นหนังสือให้ความยินยอมไว้แล้วที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด

- ผู้มีสิทธิต้องยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายใน 26 กันยายน 2566 และผูกบัญชีพร้อมเพย์ ภายในวันที่ 3 ตุลาคม 2566

วันที่ 20 เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน

สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ย ความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 สิงหาคม - 26 กันยายน 2566จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ และกลุ่มตกหล่น

รวมทั้งผู้ผ่านสิทธิที่ดินเพิ่มเติม ได้รับการทบสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการย้อนหลัง (เมษายน - กันยายน 2566) ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

การจ่ายเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

หมายเหตุ : โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

ล่าสุดวันนที่ 18 ตุลาคม 2566  สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จังหวัดแพร่ ออกมาโพสต์ข้อความ ข้อมูลการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจังหวัดแพร่ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำเดือน กันยายน 2566 ภาพรวมการใช้สิทธิ 39,447,149 บาท

ข้อมูลการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจังหวัดแพร่

 

กรมบัญชีกลางอัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนพฤศจิกายน 2566 จ่ายอะไรบ้าง

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
  • **สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 กันยายน - 26 ตุลาคม 2566 และเริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิกลุ่มตกหล่นรอบอุทธรณ์ และผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 จะได้รับการทบสิทธิวงเงินค่าซื้อสินค้า 7 เดือน (ของเดือนเมษายน - ตุลาคม 2566) รวมจำนวน 2,100 บาท
  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ตุลาคม - ธันวาคม 2566)
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL/EBM) และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน เดือนพฤศจิกายน 2566

 

 

ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จังหวัดแพร่ ได้แจ้งถึงการ การจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2566 ดังนี้

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน

**สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 กันยายน - 26 ตุลาคม 2566 และเริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิกลุ่มตกหล่นรอบอุทธรณ์ และผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 จะได้รับการทบสิทธิวงเงินค่าซื้อสินค้า 7 เดือน (ของเดือนเมษายน - ตุลาคม 2566) รวมจำนวน 2,100 บาท

- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ตุลาคม - ธันวาคม 2566)

- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL/EBM) และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ที่ผู้มีสิทธิได้ยื่นหนังสือให้ความยินยอมไว้แล้ว) ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด

- เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน (ตั้งแต่เดือนเมษายน - กันยายน 2566) เฉพาะรายการแก้ไขการโอนเงินไม่สำเร็จ และผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนเพิ่มเติม

**สำหรับผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เกิดก่อนวันที่ 1 กันยายน 2506 และยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายในวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน

**สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 กันยายน - 26 ตุลาคม 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิกลุ่มตกหล่นรอบอุทธรณ์ และผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 จะได้รับการทบสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ (ของเดือนเมษายน - ตุลาคม 2566) ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจ่ายอะไรได้บ้าง

 

ล่าสุดวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566  สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจังหวัดแพร่ โพสต์ข้อความว่า ข้อมูลการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจังหวัดแพร่ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำเดือนตุลาคม 2566 ภาพรวมการใช้จ่ายสิทธิ 44.1 ล้านบาท ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2566

สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจังหวัดแพร่

 

 

วันที่  6 ธันวาคม 2566 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจังหวัดแพร่เผยการจ่ายเงินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำเดือนธันวาคม 2566

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนเดือนธันวาคม 2566

 

 

ที่มา: กระทรวงการคลัง, สำนักงานเขตดอนเมือง กองบริหารการรับ-จ่ายเงินภาครัฐ กรมบัญชีกลาง,สำนักงานคลังจังหวัดแพร่