รอบด้านตลาดหุ้น by  Bualuang Securities

18 พ.ค. 2559 | 03:35 น.
วันนี้คาดดัชนีฯพักหลังจากซึมขึ้นมา 4 วันติด แนวต้าน 1,410 จุด แนวรับ 1,395 จุด ข่าวลบคาดกดดันหุ้นไทยระยะสั้น จะมาจาก วิตกพอร์ตมาร์จิ้นรายใหญ่กระเทือนหลังหุ้น TPIPL ลงแรงเมื่อวาน, โกลด์แมนแซค เตือนหุ้นสหรัฐฯจ่อปรับฐาน / ส่วนคืนนี้รอดูถ้อยแถลงประธานเฟด จากรายงานการประชุม FOMC Minute อาจพลิกให้ดัชนีฯหุ้นไทยกลับมาฟื้นตัวหลังย่อลงในช่วงสั้นๆนี้

สัปดาห์นี้ เราคาดดัชนีฯผันผวนกรอบ 1,370 ต้าน 1,404/1,416 จุด (ปรากฎว่าสัปดาห์นี้ ดัชนีฯวิ่งขึ้นนำโดยหุ้นบูลชิพใหญ่ ทั้งพลังงาน มือถือ สวนปัจจัยพื้นฐาน และผิดจากที่กลยุทธ์ ระยะสั้นคาด)

รายเดือน การปรับฐานในเดือน พค. คาดแนวรับ  1,380/1,370 จุด (หลุด 1,365 จุด เลิก) แนะนำ เลือกเก็งกำไรรายตัว หุ้นกลาง-เล็ก ที่มีประเด็นบวกหนุน

หุ้นแนะนำวันนี้ BWG (ดูรายงานวันนี้), เก็งกำไรทางเทคนิค RML แนวรับ 1.3 บ. ต้าน 1.41 บ.

รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้

(+) รายงาน Morgan Stanley คาดเศรษฐกิจตลาดหุ้นพัฒนามีความเสี่ยงค่อนไปทางลบ จากบริบททางการเมืองที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น การเลือกตั้งสหรัฐฯ, อังกฤษจะเปิดโหวตความต้องการประชาชน ว่าจะอยู่เป็นสมาชิกภาพ EU ต่อไปหรือไม่ ส่วนตลาดหุ้นกำลังพัฒนารวมไทย คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อเนื่อง ในครึ่งหลังปีนี้ หลังจากผ่านจุดต่ำสุดจากสัญญาณตลอด 1-2 ไตรมาสที่ผ่านมา และ เชื่อว่า นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายของชาติมหาอำนาจจะเป็นบวกต่อ ทิศทางการลงทุนตลาดเกิดใหม่มากกว่า

(+) BWG เราแนะนำ ซื้อ BWG ด้วยราคาเป้าหมาย ที่ 2.50 บาท (ด้วยวิธี Sum of the part ธุรกิจกำจัดกากฯ 1.80 บาท, โรงไฟฟ้า 2 โรง 0.70 บาท) โดยมีปัจจัยพื้นฐานหนุนแนวโน้มกำไรให้เติบโตสูง จาก 1) กำไรจากการรับกำจัดกากฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 20%/ปี จากมาตรการภาครัฐฯที่บังคับให้โรงงานต้องมีการกำจัดกากอย่างถูกต้อง 2) กำไรจากการนำขยะมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง หนุนให้กำไรปี 2016 เติบโต 36% 3) การรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าขยะ 2 โรง (บริษัทมีใบอนุญาติฯแล้ว) ที่จะขายไฟฟ้าในช่วงปลายปีนี้ 1 โรง และปลายปีหน้าอีก 1 โรง จะหนุนให้บริษัทมีกำไรที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งหมดส่งผลให้กำไรปีนี้เติบโตสูง ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดบน P/E เพียง 18 เท่า ซึ่งเรามองว่ายังไม่ได้สะท้อนศักยภาพในการเติบโตของกำไรที่สูง เฉลี่ยต่อปีถึง 36% CAGR 2016-18

(+) เราออกรายงานกลยุทธ์การวิเคราะห์เชิงปริมาณ เรามองกรณี base case เป้าดัชนีฯรอบนี้มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,430-1,460 จุด ภายใน 2 สัปดาห์ อิงจากเครื่องมือตรวจวัดความผันผวน แนะนำเลือกลงทุนรายหลักทรัพย์ Top pick แนะ KTB KBANK INTUCH TASCO

(0) กลุ่มบ้าน ผลสำรวจของ AREA แสดงถึงปัจจัยบวกในอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยที่อัตราการจองซื้อ ปรับตัวดีขึ้น และดีที่สุดในรอบ 8 เดือน และคาดการเปิดตัวโครงการใหม่จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย.  คาดจะช่วยหนุนยอดจองซื้อและ backlog ในกลุ่มอุตสาหกรรมให้เพิ่มขึ้น แม้ราคาหุ้นจะลงมาต่ำมาก แต่เราแนะนำให้รอดูจนกว่าอัตรากำไรจะผ่านจุดต่ำสุด (คาดปลายไตรมาส 2)

(+) MAJOR ประเด็นจากการประชุมนักวิเคคระห์ 1) คาดกำไร 2Q16 จะสูงสุดในปีนี้ จากยอดขายตั๋วที่สูง เพราะมีหนังทำเงินหลายเรื่อง เช่น หลวงพี่แจ๊ส 4G และ Captain America (3): Civil War, X-Men: Apocalypse and Independence Day: Resurgence 2) สำหรับ 2H16 คาดกำไรยังคงแข็งแกร่งจากหนังเข้าฉายที่น่าจะทำเงินสูง ทั้งหนังไทยและต่างประเทศ 3) ล่าสุดบริษัทเซ็น MOU การเปิดโรงหนังในลาวเพิ่มขึ้น ซึ่งการขยายตัวในประเทศเพื่อนบ้านยังคงเป็นไปตามแผน 5 ปีของบริษัท เราคงแนะนะ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 36 บาท

หุ้นมีข่าว

(-) TPIPL แรงขายหลังรายงานงบ 1Q16 พลิกขาดทุน เป็นผลจากการเปลี่ยนเกณฑ์บัญชีส่งผลให้รายการ กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรม ที่เคยรับรู้ก่อนหน้านี้ต้องทยอยตัดออก ส่งผลให้จะเกิดรายการ ค่าใช้จ่ายทยอยตัดนี้ รบกวนงบไปอีกหลายไตรมาส / ส่งผลลบต่อหุ้นกลาง-เล็ก เมื่อวานนี้ลงตามไปด้วย เพราะ คาดราคาหุ้น TPIPL ที่ลงแรงเหนือความคาดหมาย กระทบต่อ พอร์ตมาร์จิ้น ของนักลงทุนรายใหญ่ที่มีการเก็งกำไรในหุ้นขนาดใกล้ๆกัน

(-) กลุ่มมือถือ กทค.เล็งออกประกาศคิดค่าโทร-เน็ต ราคาเดียวกันทุกคลื่น “เพดานค่าโทรแบบเดียว” คาดมีผลบังคับใช้ 3Q16 ให้สิทธิผู้ใช้บริการขอเงินคืนได้หากโดนเก็บเงินเกินเพดาน

Source: ASPEN

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(-) โกล์ดแมนแซค แนะขายหุ้นสหรัฐฯ มองจะปรับฐาน 5-10% (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)

(+) ทางการไนจีเรียเผยว่า เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายเข้าโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันดิบในเขตไนเจอร์ เดลตา ส่งผลให้ท่อส่งน้ำมันได้รับความเสียหาย และการผลิตน้ำมันต้องชะลอตัวลง นายอิเบะ คาชิควู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรปิโตรเลียม ระบุว่า การโจมตีท่อส่งน้ำมันในครั้งนี้ ทำให้การผลิตน้ำมันดิบปรับตัวลงจากระดับ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เหลือเพียง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน

(*) พุธ รายงานการประชุมเฟด มีผลต่อคาดการณ์แนวโน้มการประชุมในเดือน มิย., เงินเฟ้อยุโรป HICP inflation คาด -0.2% y-y, ญี่ปุ่น รายงาน GDP 1Q16 1st คาด +0.3% จาก -1.1%

(+) พฤหัส การประชุมธนาคารกลางยุโรป, การประชุมธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดคงดอกเบี้ย 6.75%, ฟิลิปปินส์ GDP 1Q16 คาด +6.7% จาก +6.3%, ธนาคารกลางมาเลเซีย คาดคงดอกเบี้ย 3.25%

(0)ศุกร์ US ยอดขายบ้านเก่า เมย. คาด +1.1% จาก +5.1% m-m, ไต้หวัน ส่งออก เดือน เมย.คาด -4.3% จาก -4.7% y-y

ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง