KBANK ร่วมทุนคาราบาว กรุ๊ป ตั้งบริษัท KBAO ปล่อยเงินกู้ร้านโชห่วย

22 ก.ค. 2565 | 05:50 น.

ธนาคารกสิกรไทย ร่วมลงนามข้อตกลง คาราบาว กรุ๊ป ตั้งบริษัท กสิกร คาราบาว "KBAO"ปล่อยกู้รายย่อย ร้านค้า ในกลุ่มธุรกิจคาราบาว กรุ๊ป

ธนาคารกสิกรไทยและคาราบาว กรุ๊ป แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจคาราบาว โดยกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารจะถือหุ้นมากกว่า 50% และมีอำนาจควบคุมในบริษัทร่วมทุน

 

โดยการร่วมทุนเพื่อจัดตั้งบริษัทดังกล่าว ได้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 และธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุญาตให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565และให้เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย โดยมีรายละเอียดการเข้าร่วมลงทุนดังนี้

 

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง เพื่อให้บริการทางการเงินแก่ผู้บริโภครายย่อย และร้านค้าของบริษัทในกลุ่มธุรกิจคาราบาว ซึ่งจะช่วยพัฒนาบริการทางการเงินให้คนในชุมชนได้เข้าถึง และได้รับบริการทางการเงินที่ครบวงจรรวมถึงช่วยสนับสนุนธุรกิจค้าปลีก และขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนทั่วไทย

 

นอกจากการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแล้ว กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมร่วมลงทุนกับบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจคาราบาวเช่นกัน เพื่อพัฒนาร้านค้าปลีก "ถูกดี มีมาตรฐาน"

 

ทั้งนี้ การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน การร่วมลงทุนกับบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด และการสนับสนุนทางการเงินทั้งหมดให้แก่กลุ่มธุรกิจคาราบาว จะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท

 

ด้านคาราวบาว กรุ๊ป แจ้งว่า อนุมัติ ร่วมกับบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด ("CJ") และบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ("TD")  ซึ่งทั้งสองบริษัทนี้เป็นบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง กล่าวคือ มีผู้ถือหุ้น และ กรรมการหรือผู้บริหารร่วมกัน (รวมเรียกว่า "บุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง" ในการจัตตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ ได้แก่ บริษัท ทีดี เวนเจอร์ จำกัด ("TDV") เพื่อประกอบธุรกิจการลงทุนถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company)

 

และเห็นชอบให้ TDV เข้าทำสัญญาร่วมทุน อีกทั้งข้อตกลง และเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องร่วมกับบริษัท กสิกรวิชั่น จำกัด ("KVISION") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100.0

 

โดยธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ("KBANK") ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ ได้แก่ บริษัท กสิกร คาราบาว จำกัด ("KBAO")เพื่อประกอบธุรกิจตามแผนในระยะแรกเกี่ยวกับการให้บริการด้านการเงินในระบบนิเวศน์ธุรกิจของตนทั้งในปัจจุบัน และที่จะพัฒนาขึ้นตามแผนในอนาคต (Own Ecosystem)

 

ทั้งนี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการใช้ข้อมูลในการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้ยืมแก่ ก.) เจ้าของร้านค้าปลีกที่เป็นลูกค้าผ่านการดำเนินงานหน่วยรถงินสดของบริษัท ข.) พันธมิตรทางธุรกิจและ/ หรือผู้เช่าพื้นที่ในร้านสะดวกซื้อภายใต้เครือข่าย CJ ค.) ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกชุมชนภายใต้เครือข่ายร้านค้าถูกดี มีมาตรฐานและ ง.) กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกภายเครือข่ายทั้งหมดข้างต้น ตลอดจนการให้บริการ ณ จุดขายอื่นที่เกี่ยวข้อง("เงินลงทุนอื่นภายใต้โครงการฯ")

 

 โดยอนุมัติลงทุนร่วมกับ CJ และ TD ในการจัดตั้ง TDV ด้วยทุนจดทะเบียนในจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 2,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.0 บาท เพื่อประกอบธุรกิจการลงทุนถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company)

 

โดยบริษัท มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 15.0 หรือคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 300.0 ล้านบาท ในขณะที่ CJ และ TD มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 15.0 และร้อยละ 70.0 ตามลำดับ; และ

 

2. เห็นชอบให้ TDV เข้าทำสัญญาร่วมทุน อีกทั้งข้อตกลงและเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องร่วมกับ KVISION ในการจัดตั้ง KBAO ด้วยทุนจดทะเบียนในจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.0 บาท

 

เพื่อประกอบธุรกิจตามวัตถุประสงค์ของเงินลงทุนอื่นภายใต้โครงการ โดย KVISION มีการถือครองหุ้นสามัญที่ออก และชำระแล้วในจำนวนมากกว่า 2 หุ้นในบริษัทดังกล่าว