อธิบดีกรมการขนส่งทางบก บาลานซ์งานบริการ-ความปลอดภัย ตอบโจทย์ประชาชน

11 มิ.ย. 2565 | 01:31 น.

กรมการขนส่งทางบก หน่วยงานสำคัญที่ทำหน้าที่กำกับดูแลและให้บริการ ให้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ และการต่อภาษีรถยนต์

รวมไปถึงการจัดระบบระเบียบการขนส่งทางบกอื่นๆ อีกหลายเรื่อง ซึ่ง No.1 ขององค์กรอย่าง “จิรุตม์ วิศาลจิตร” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก บอกว่า มันคืองานหลายหน้าที่ต้องใช้ทักษะการบริหารจัดการที่แตกต่าง


งานหลายหน้าที่ว่า แยกออกเป็น “งานบริการ และงานด้านความปลอดภัย” โดยงานบริการ คือ งานที่ต้องให้ความสะดวกรวดเร็วกับผู้ใช้บริการ อะไรลดได้ลด อะไรเร็วได้เร็ว เช่น การต่อภาษีรถยนต์ ที่เมื่อก่อนมีถึง 7 ขั้นตอนการทำงาน ผู้มาติดต่อต้องใช้เวลาครึ่งค่อนวัน กว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อย แต่ในวันนี้ ...เสียภาษี ด่วนจี้ 3 นาทีได้ การบริการเป็น One Stop Service เสร็จในคนๆ เดียว 

แถมยังมีบริการชำระภาษีผ่านเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) เชื่อมโยงระบบเครือข่าย การออกใบเสร็จ ออกใบกำกับภาษี ตอนนี้เหลืออยู่ 1.40 นาที หรือจะเลือกช่องทางชำระผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือ เลือกจ่ายที่เซเว่น อีเลฟเว่น ก็ได้หมด อำนวยความสะดวกเต็มที่
 

“การทำงานด้านบริการ เราตั้งเป้าหมายด้วยประชาชนเป็นตัวตั้ง ตรงไหนที่ติด ตรงไหนที่มีปัญหา ก็เข้าไปแก้” อธิบดีกรมการขนส่งทางบกอธิบาย 


 ส่วนงานอีกหน้าหนึ่ง คือ งานด้านความปลอดภัย เรื่องนี้จะต้องเข้มงวด ชัดเจน “จิรุตม์” ยกตัวอย่าง เรื่องใบอนุญาตขับขี่ ผู้ขอใบอนุญาตต้องเรียนครบหลักสูตร สอบก็ต้องสอบจริง...ขับได้ กับขับเป็นมันไม่เหมือนกัน การขับรถที่ดี ต้องมีองค์ความรู้ ขับยังไงไม่ให้เกิดอุุบัติเหตุ กฎระเบียบ มารยาทในการขับรถต้องรู้ในเบื้องต้น ความรู้เหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนน


งานบริการกับเรื่องความปลอดภัยในการขับรถ ต้องแยก 2 ส่วนนี้ออกจากกัน งานบริการคือ ทำอย่างไรให้ออกใบอนุญาตได้เร็วขึ้น แต่กระบวนการปลอดภัย คือ การให้องค์ความรู้ อันนี้ ลดไม่ได้ อบรม 5 ชั่วโมง คือ 5 ชั่วโมง จะบอกขับรถเป็นแล้ว ทำไมต้องอบรมตั้ง 5 ชั่วโมง หรือมาขออบรมน้อยกว่านี้ได้ไหม อันนี้ไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องความปลอดภัย แต่เมื่ออบรมครบแล้ว ถึงเวลาออกใบอนุญาต ตรงนี้เราอำนวยความสะดวกด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์สามารถตรวจสอบย้อนกลับข้อมูลได้ สามารถทำแอปพลิเคชั่นที่ไม่ต้องพกใบอนุญาตได้ 


การปรับเปลี่ยนย่นระยะเวลาการให้บริการที่รวดเร็วด้วยระบบไอที ฟังดูเหมือนง่าย แต่ผู้บริหารท่านนี้บอกว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ง่ายเลย 


ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จะทำงานคนละหน้าที่ คนหนึ่งเป็นนายทะเบียน คนหนึ่งเป็นผู้ออกใบเสียภาษี คนหนึ่งคีย์ข้อมูล แต่เมื่อลดขั้นตอน เจ้าหน้าที่หนึ่งคนต้องทำได้ครบทุกอย่าง ตรงนี้ต้องมีการพัฒนาอบรม โดยเริ่มต้นด้วยนำคนที่มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนงาน ขึ้นมาทำเป็นตัวอย่าง ทำให้เห็น แล้วคนที่เขาต้องการพัฒนา เขาก็จะทำตาม หากใครไม่เปลี่ยน หรือเปลี่ยนไม่ได้ ก็ย้ายหน้าที่ไปอยู่ในจุดที่ตัวเองถนัด 


ความโชคดีของกรมการขนส่งทางบกคือ การวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมด้านบริการ (service mind) โดยในบทบาทผู้นำ “จิรุตม์” จะทำหน้าที่หล่อหลอมการทำงานเป็นทีม มีระบบการทำงานแบบพี่สอนน้อง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 


ขณะเดียวกัน ผู้บริหารท่านนี้ ยังเป็นคนที่เปิดใจพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดกับเรื่องเดิมๆ และรู้เท่าทันการทำงานของโลกยุคใหม่ ที่นำดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาสร้างให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประชาชนได้รับบริการที่รวดเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้า ในยุคที่กำลังคนมีจำกัด บุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถเริ่มเกษียณอายุ ในขณะที่การพัฒนาคนรุ่นใหม่ขึ้นมายังทำได้ไม่ทันต่อความต้องการ


“จิรุตม์” ได้ชื่อว่า มีบทบาทในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของกรมการขนส่งทางบก จากระบบ manual สู่ระบบ Digital ซึ่งจริงๆ เขามีส่วนเกี่ยวข้องมาตั้งแต่ตอนปี 2545 ช่วงที่กรมการขนส่งทางบกเริ่มนำดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาใช้ และมีการขับเคลื่อนเรื่องนี้มาเรื่อยๆ 

 

จนในยุคที่ขึ้นมานั่งทำหน้าที่ผู้บริหารสูงสุด จึงพยายามต่อยอดอย่างเต็มที่ 
 วิธีการทำงานที่พร้อมปรับเปลี่ยน และมีลูกล่อลูกชน วิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งขององค์กรตลอดเวลา ก่อนที่จะดำเนินการปรับปรุงแก้ไขไปที่ละเปาะ ทำให้งานของกรมการขนส่งทางบกเดินหน้ามาเรื่อยๆ และยังคงนำการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาเสริมต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการเร่งสร้างคนรุ่นใหม่เข้ามารับช่วงงานต่อ  


ภายในปีนี้ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยังเตรียมประสานงานกับกรมตำรวจ เกี่ยวกับการทำงานด้านความปลอดภัยการขับขี่ ที่จะมีการตัดแต้มผู้ทำผิดกฎกติกาบนท้องถนน เพื่อกำหนดมาตรการที่จะทำให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างระมัดระวังมากขึ้น และอีกเรื่องคือ การร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการขอใบรับรองแพทย์ผ่านทางแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกเรื่องงานเอกสารให้กับประชาชน และทางกรมฯ มากขึ้นด้วย


อธิบดีกรมการขนส่งทางบก บอกว่า การนั่งบริหารงานที่กรมการขนส่งทางบก มีเป้าหมายที่อยากเห็น คือ เจ้าหน้าที่ของกรมฯ ต้องม่ีจิตใจที่ดีในการให้บริการ และเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ต้องเข้มข้นขึ้น เพื่อให้การขับรถยนต์มีระเบียบ ต้องปรับปรุงกฎหมายให้ตอบสนองกับระบบบริการที่พัฒนาไปแบบคู่ขนาน เพื่อให้คนที่อยู่ในระบบ รู้สึกได้รับความเป็นธรรม ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน

 

หน้า 17  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,790 วันที่ 9 - 11 มิถุนายน พ.ศ. 2565