ทีวีโฮมช้อปปิ้ง จับมือ ซินเนอร์ยี สปริงบอร์ด สร้าง New S curve

29 พ.ค. 2565 | 10:25 น.

เปิดยุทธศาสตร์ “สมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง” ผนึกกำลัง synergy 360 องศา เดินหน้าสร้างการเติบโต แบบ New S Curve ขยายช่องทางทำเงิน ฐานลูกค้าใหม่ ตลาดใหม่ มั่นใจสิ้นปีเติบโต 20% กวาดรายได้กว่า 7,000 ล้าน

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา “ทีวีโฮมช้อปปิ้ง” อีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน แต่ด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งทำให้ธุรกิจที่มีมูลค่าสูงถึง 1.6 หมื่นล้านบาท ยังคงเดินหน้าได้ รวมทั้งมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ขณะที่ผู้ประกอบการเดิมก็ยังแข็งแรงพร้อมเดินหน้ากับแนวคิดและกลยุทธ์ใหม่

 

ล่าสุด “ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “สรโชติ อำพันวงษ์” นายกสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) คนล่าสุด และยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ทีวีโฮมช้อปปิ้งในเครือสหพัฒน์ ที่เพิ่งเปิดตัวและมาพร้อมกับแผนการขับเคลื่อนหลังเริ่มดำเนินการไปบ้างแล้วจนเห็นเป็นรูปธรรม

 

ชู synergy สร้าง New S Curve

“สรโชติ” บอกว่า หลังเข้ารับตำแหน่งได้มีการพูดคุยกับสมาชิกทั้ง 6 บริษัท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทีวีโฮมช้อปปิ้งแบบ 24 ชม. ได้แก่ 1. บริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด 2. บริษัท โอ ช้อปปิ้ง จำกัด 3. บริษัท ทรู จีเอส จำกัด 4. บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน) 5. บริษัท เจเคเอ็น ไฮ ช็อปปิ้ง จำกัด และ 6. บริษัท เอ็มวี ช็อปปิ้ง มอลล์ จำกัด อย่างจริงจัง พร้อมกับเริ่มดำเนินการที่เห็นชัดเจนและเป็นรูปธรรมได้แก่ การเดินหน้า synergy กันแบบ 360 องศา เพื่อสร้างการเติบโตแบบ New S Curve

ทีวีโฮมช้อปปิ้ง

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การจับมือกันระหว่างช้อป แชนแนล กับทรู ช้อปปิ้ง เปิดช่องใหม่ “ช้อป นาว” รวมทั้งการ cross-selling สินค้าระหว่างช่อง เพราะแต่ละช่องต่างมีจุดแข็งของตนเอง และมีฐานลูกค้าประจำ ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับดีมาก เห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและฐานลูกค้าใหม่ๆ ดังนั้นในอนาคตยังมีการพูดคุยที่จะพัฒนาและสร้างโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ร่วมกันอีก

 

“สมาชิกทั้ง 6 บริษัทล้วนเป็นบริษัทใหญ่ มีที่มาที่ไป เชื่อถือได้ มั่นคง มี resource มีพลัง มีฐานลูกค้าใหญ่ ซึ่งทั้ง 6 บริษัทมีฐานลูกค้ารวมกันกว่า 10 ล้านคน แต่ละบริษัทมีฐานข้อมูลลูกค้าว่าเป็นใคร เลือกซื้ออะไร จับจ่ายอะไร ต้องการอะไร ซึ่งการแลกเปลี่ยนข้อมูลเหล่านี้จะเป็นการเพิ่มพลังให้แต่ละบริษัท สามารถนำไปต่อยอดและเป็นสปริงบอร์ดในการก้าวไปข้างหน้าได้ โดยไม่ต้องเริ่มต้นนับ 1 แต่สามารถนับ 5 ได้เลย โดยทั้งหมดจะเดินหน้าไปด้วยกันแบบ win win”

สรโชติ อำพันวงษ์

พร้อมรับมือทีวีถูกดิสรัปท์

“สรโชติ” ย้ำว่า โลกปัจจุบันเป็นโลกที่ไม่มีใครสามารถทำธุรกิจได้เพียงคนเดียว เป็นโลกของความร่วมมือ การซินเนอร์ยี่กัน แชร์กลุ่มเป้าหมายกัน จะทำให้เดินหน้าต่อได้ เช่น ช้อป โกลบอลเอง มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเบบี้บูม อายุ 45 ปีขึ้นไป เป็นผู้หญิง 80% ชาย 20%

shop channel

ขณะที่แบรนด์อื่นอาจจะมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่ม Gen Y ที่อายุ 30 ปี เขาก็จะมีสินค้ารองรับกลุ่มนี้ รวมทั้งการพัฒนาช่องทางใหม่ๆ เพื่อรองรับและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าด้วย เพราะวันนี้ ทีวีโฮมช้อปปิ้งไม่ได้มีเฉพาะช่องทางขายผ่านทีวีเท่านั้น แต่ยังมีทั้งเทเลเซลล์ ออนไลน์ โซเชียลคอมเมิร์ซ ด้วย

ทีวี ไดเร็ค               

วันนี้ทุกแบรนด์ต้องปรับตัวให้เร็ว เพราะคีย์หนึ่งของทีวีที่ปฏิเสธไม่ได้คือ กำลังถูกดิสรัปชั่น วันนี้ธุรกิจทีวีจะไม่โตอีกต่อไป แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ เพราะคนยังดูทีวี โดยเฉพาะในกลุ่มเบบี้บูม ก็ยังอยู่บนทีวี ทำให้ธุรกิจยังขายสินค้าได้อยู่ แต่ในอนาคตผู้ประกอบการเองต้องมองหาเจนเนอเรชั่นใหม่ๆ ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ สินค้าใหม่ ซึ่งทุกช่องต่างก็มองหากลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อเป็นฐานใหม่ในอนาคต

 

โควิด ดันฟู้ดโต-แฟชั่นร่วง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “โควิด” ส่งผลกระทบแต่ก็มีทั้งปัจจัยบวกและลบ จะเห็นว่าบางสินค้าได้รับปัจจัยบวก เช่น ฟู้ด หรือออนไลน์ ซึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการทีวีโฮมช้อปปิ้ง การขายผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ใช่ธุรกิจหลัก มีสัดส่วนน้อยอยู่ และทุกวันนี้ทุกแบรนด์ต่างปรับตัวเองเป็นออมนิแชนนอล คือมีหลากหลายช่องทาง แต่ทีวีโฮมช้อปปิ้งยังเป็นช่องทางหลัก แม้จะมียอดขายออนไลน์เพิ่มแต่ก็ยังไม่ได้ทดแทนยอดขายบนทีวี

ทรู ช้อปปิ้ง

ขณะเดียวกันโควิดทำให้ลูกค้าไม่มีอารมณ์จับจ่าย อยู่บ้าน WFH กิจกรรมต่างๆงดหมด แน่นอนสินค้าที่ได้รับผลกระทบทั้ง เครื่องสำอาง เครื่องประดับ จิวเวลลี่ แฟชั่น ฯลฯ ทำให้ภาพรวมของทั้งธุรกิจยังทรงตัว โดยในปีที่ผ่านมาสมาชิกทั้งหมดมียอดขายรวมกันเกือบ 7,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่มียอดขายราว 7,000 ล้านบาท

 

ขณะที่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด สมาชิกได้มีการจัดกลุ่ม Thrust force ขึ้นเพื่อมอนิเตอร์การขายของกลุ่มร่วมกัน ประเมินสถานการณ์ในทุกช่องขาย ทำให้เห็นเทรนด์ของทีวีโฮมช้อปปิ้งว่าเป็นอย่างไร มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ จากเดิมที่ต่างคนต่างทำ ทำให้สามารถพัฒนาลูกค้าได้ต่อเนื่อง

 

ดันยอดขายฟื้น สิ้นปีโต 20%

ขณะที่วันนี้จะเห็นการโฆษณาขายสินค้าต่างๆ ต่อเนื่องทุกชั่วโมงรวมถึงการไทอินในรายการต่างๆ ของทีวีดิจิทัล ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าจะส่งผลกระทบต่อช่องทีวีโฮมช้อปปิ้ง ซึ่งส่วนใหญ่ออนแอร์ 24 ชม. ในทีวีดาวเทียม แต่สำหรับ “สรโชติ” กลับมองว่า การขายสินค้าในรูปแบบเหล่านี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทีวีโฮมช้อปปิ้ง แต่อย่างใด

โอ ช้อปปิ้ง

“การซื้อเวลาสั้นๆ เป็นสลอต เป็นโมเดลหนึ่งที่แตกต่างกัน รวมถึงการไทอินในรายการต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเกิดขึ้นเยอะ มองว่าจะเป็นการช่วยกันทำให้ตลาดโต ทำให้คนที่ไม่เคยซื้อได้ซื้อสินค้าทางทีวี ซึ่งเป็นวิธีเล่น วิธีหนึ่งของผู้ประกอบการ แต่การลงโฆษณาขายแค่ 1-2 นาที

ไฮ ช็อปปิ้ง

ต้องยอมรับว่ายอดขายไม่เข้ามามากนัก แต่จะเป็นยอดคอล ที่จะโทรตามเข้ามาภายหลัง ดังนั้นการซื้อสลอตต่างๆ จะเป็นตัวดึงให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อในช่องหลักมากกว่า ซึ่งปัจจุบันบริษัททีวีโฮมช้อปปิ้งก็มีการทำอยู่ และในอนาคตเชื่อว่าจะมีการพัฒนาไปเป็นการทำไทอินในรายการต่างๆด้วย”

MV Mall

อย่างไรก็ดี “สรโชติ” มองว่า การซินเนอร์ยีกัน รวมถึงการพัฒนาโมเดลใหม่ๆ ร่วมกันจะผลักดันให้ปีนี้มียอดขายกลับมาเติบโตเพิ่มขึ้น 20% หากไม่มีปัจจัยใดๆ แทรกเข้ามา ขณะเดียวกันยังมองถึงการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะใน CLMV ที่ยังมีศักยภาพ ขณะที่ตลาดรวมทีวีโฮมช้อปปิ้งทั้งหมดซึ่งมีมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาทก็จะกลับมาเติบโตเช่นกัน

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,781 วันที่ 8 - 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2565