เบื้องลึก A&W โดนคัดทิ้ง ขาดทุนยับสูงสุดในพอร์ต

21 มี.ค. 2565 | 07:14 น.

ขาดทุน 70ล้านบาทสูงสุดในพอร์ต A&W ไม่ได้ไปต่อ 20 มีนาคมปิดร้านถาวรทั้ง26สาขา หลังบอร์ด GLOCON เคาะเคลียร์คัทธุรกิจขาดทุน ด้าน“Kitchen Plus” 2สาขาโดนด้วย

ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ สำหรับ A&W ผู้ให้บริการร้านอาหารและเครื่องดื่มบริการด่วนซึ่งเปิดบริการในวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้าย โดยโกลบอล คอนซูเมอร์ เจ้าของสิทธิ์ “A&W” ในไทย ได้ออกมาเปิดเผยถึงการยุติกิจการครั้งนี้ว่า  A&W ประสบปัญหาผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง 

ขาดทุนยับสูงสุดในพอร์ต เบื้องลึก A&W โดนคัดทิ้ง

โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ธุรกิจต้องเผชิญกับมาตราการควบคุมการระบาดที่เข้มข้น มีการเปิด-ร้านหลายระลอกส่งผลให้ผลประกอบการธุรกิจร้านอาหาร A&W ทั้งหมด 26 สาขา ขาดทุนรวม 70 ล้านบาทในปี 2564 ซึ่งโกลบอล คอนซูเมอร์ เจ้าของสิทธิ์ “A&W”ได้ตั้งสำรองสินทรัพย์และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการหยุดดำเนินงานในธุรกิจนี้อีก 90 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้ A&W ยังได้ทำแคมเปญทิ้งทวนก่อนปิดทุกสาขาในวันที่ 20 มี.ค. 2565 ทั้งโปรโมชันเมนูราคาพิเศษ รวมทั้งนำแก้วรูทเบียร์ ที่เป็นเอกลักษณ์ และหาซื้อตามท้องตลาดไม่ได้ เพราะถูกใช้ภายในร้าน A&W เท่านั้น มาเป็นของแถมพิเศษ ซึ่งได้รับผลตอบรับจนสามารถแจกจ่ายหมดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ 

ขาดทุนยับสูงสุดในพอร์ต เบื้องลึก A&W โดนคัดทิ้ง

การทำแคมเปญส่งท้ายนี้นอกจากจะเป็นการทิ้งทวนก่อนปิดร้านแล้วและให้แฟนคลับA&Wได้เก็บความทรงจำดีๆแล้ว ยังเป็นการระบายสต๊อกวัตถุดิบคงค้างได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เหลือสินค้าเหลือทิ้งน้อยที่สุด นอกจากการยุติธุรกิจร้านอาหาร A&Wทั้งหมดแล้ว ยังปิดร้าน Kitchen Plus ซึ่งเหลือเพียง 2 สาขาทำให้GLOCONต้องดำเนินการตั้งสำรองทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้นราว 160 ล้านบาทในปี 2564

 

นายนพพร ภัทรรุจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON เปิดเผยว่า “การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป และส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจร้านอาหาร บริษัทฯไม่สามารถแบกรับผลขาดทุนต่อไปได้ จึงยุติการดำเนินกิจการร้านอาหาร A&W และปิดร้าน Kitchen Plus 

ขาดทุนยับสูงสุดในพอร์ต เบื้องลึก A&W โดนคัดทิ้ง

โดยจะหันมาโฟกัสขยายธุรกิจด้วยการมุ่งเน้นไปที่การผลิตในอุตสาหกรรมอาหารที่มีความชำนาญ อีกทั้งยังสามารต่อยอดสนับสนุน และสามารถบริหารทรัพยากรที่มีร่วมกันภายในกลุ่มบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งน่าจะส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น” 

 

ขณะที่ น.ส. หลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร/กรรมการ  บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การเคลียร์คัทธุรกิจขาดทุนปิดร้าน “A&W” และ “Kitchen Plus” ไปราว 160 ล้านบาทในงวดงบปี 2564 ไม่กระทบสถานะบริษัท ล่าสุดส่วนผู้ถือหุ้นสูงถึง 71% หลังจากนี้ GLOCON จะก้าวสู่ “Sustainable Food” ภายใต้วิสัยทัศน์ “ผู้นำอุตสาหกรรมด้านการผลิตอาหารระดับโลก” ขับเคลื่อนรายได้เติบโตทะลุ 10,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีตามธงที่ปักไว้ 

 

โดยสัดส่วนธุรกิจในมือ GLOCON หลังจากตัด “A&W” และ “Kitchen Plus” ออกไปแล้วจะเหลือธุรกิจ 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1. ธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็ง, อาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน, ลูกชิ้นทิพย์ และผลไม้อบแห้ง สัดส่วน 73%, 2. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทต่างๆ สัดส่วน 24%, 3. ธุรกิจเทรดดิ้ง สัดส่วน 3%