ผลักภาระให้ผู้บริโภคสินค้าอุปโภคบริโภคซุ่มอัพราคา

18 ม.ค. 2565 | 10:32 น.

แพงยกแผงรับปีเสือ สินค้าอุปโภคบริโภคซุ่ม ลดไซส์ ขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องเหตุต้นทุนพุ่งสูงคุมไม่อยู่ กำไรลดลง ด้านผู้ประกอบการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประกาศตรึงราคา “มาม่า” ซอง 6 บาท ฟาก“เป๊ปซี่”ยันไม่ปรับราคา ด้านแฟนต้าซุ่มเงียบลดปริมาณ

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เข้าสู่ปี2565  ภาพรวมสินค้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพหลายรายการเริ่มทยอยปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ปรุงรส อาทิน้ำส้มสายชู ครีมเทียม และน้ำมันพืช จากเดิมจำหน่ายราคา 55 บาท ขยับเป็น 70 บาทต่อขวด

 

นอกจากนี้ น้ำอัดลม ได้ปรับโปรโมชั่นที่เคยให้กับร้านค้ายี่ปั๊วซาปั๊วทั้ง ลด แลก แจก แถม ลง   ส่งผลให้ราคาต่อหน่วยมีต้นทุนสูงขึ้น กำไรลดลง “น้ำอัดลมแบรนด์หนึ่งไม่ให้ส่วนลดร้านค้าแล้ว เดิมจากเคยได้ส่วนลดราว 3-5% ต่อลัง ซึ่งเหมือนเป็นการขึ้นราคาโดยอ้อม 5-10 บาทต่อลัง เบื้องต้นประเมินว่าอาจเกิดจากปลายปีแบรนด์โหมทำตลาดอย่างหนักเพื่อกระตุ้นยอดขาย พอต้นปีจึงชะลอ ต้องรองดูช่วงไฮซีซัน เดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีการกลับมาให้ส่วนลดกับร้านค้าหรือไม่”

 

ด้านนายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” ในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบะหมี่ฯกึ่งสำเร็จรูปมูลค่าราว 30,000 ล้านบาทปัจุบัน ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวสูงขึ้นหลายรายการในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโดยวัตถุดิบซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิตมาม่าคิดเป็นสัดส่วน 55-60% ทั้งแป้งสาลีมีการปรับราคาจากเดิมถุงขนาด 22.5 กิโลกรัม(กก.) 300 บาทขึ้นมาเป็น 450 บาท

 

ขณะที่น้ำมันปาล์มขยับจากราคา 19 บาทต่อกก. ขึ้นมาประมาณ 57 บาทต่อกก.  อย่างไรก็ตามบริษัทยังบริหารจัดการต้นทุนได้ และไม่มีแผนจะปรับขึ้นราคามาม่าซอง 6 บาท เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ยังนิยมบะหมี่ฯแบบซองในตลาดเดิม 

 

ขณะเดียวกัน บริษัทมีการออกสินค้าใหม่ ราคาใหม่ เช่น มาม่า โอเรียนทอล คิทเช่น ขนาด 85 กรัม ราคา 15 บาท มาม่าเย็นตาโฟขนาด 50 กรัม ราคา 8 บาท  เพื่อรองรับผู้บริโภคยุคใหม่บางกลุ่มที่ไม่ยึดด้านราคาและเปิดรับสินค้าพรีเมี่ยมมากขึ้น ทำให้แบรนด์สามารถแข่งขันในตลาดได้ด้วย

 

สำหรับประเด็นตลาดน้ำดำซึ่งในช่วง2-3วันที่ผ่านมามีกะแสข่าวว่าน้ำอัดลมแบรนด์ดังได้ปรับราคาขึ้น 1 บาทต่อขวด ซึ่งบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกยืนยันว่าบริษัทยังไม่มีการปรับเปลี่ยนราคาสินค้าแต่อย่างใด ส่วนทางด้านของน้ำอัดลมแบรนด์แฟนต้าขวดแก้วยังคงจำหน่ายราคาปลีกเดิม 9 บาทแต่ลดลดปริมาณสินค้าจาก 422 มิลลิลิตร เหลือ 325 มิลลิลิตรซึ่งเป็นการดำเนินการของบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ในฐานะผู้ผลิตน้ำอัดลมให้กับโคคา-โคล่า อย่างไรก็ตามบริษัท โคคา-โคล่า(ประเทศไทย) จำกัดออกมาชี้แจงว่าจะหารือกับผู้ผลิตอีกครั้ง