ทางรอด-ทางรุ่ง 5’Res เครื่องมือต่อลมหายใจ SMEs

19 ธ.ค. 2564 | 12:44 น.

แนะผู้ประกอบการ SMEs ปรับตัวสู้วิกฤติโควิด-19 หลังถล่มหนักทำธุรกิจต้องปิดกิจการอย่างถาวร พร้อมเผชิญภาวะว่างงาน หนี้ครัวเรือนพุ่งเป็นประวัติการณ์

การเตรียมความพร้อมรวมถึงการปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจ SMEs เดินหน้าต่อได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ กลุ่มบริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์ หรือ MI Group จึงร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดทำคู่มือพาธุรกิจ SMEs รอด ใน ปี 2022 หรือ The Survival Hacks โดยเริ่มต้นจากการตั้งโจทย์ที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องเผชิญในปี 2022

 

ไม่ว่าจะเป็นอัตราการว่างงานที่สูง การเผชิญกับเศรษฐกิจที่ยํ่าแย่ ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อมต้องแข่งขันกับสินค้าจีนที่ทะลักเข้ามาในตลาด ส่งผลให้เกิดสงครามราคา ขณะที่เงินสดหรือเงินทุนหมุนเวียนที่เริ่มร่อยหรอ การอนุมัติสินเชื่อก็ยากขึ้น ทำให้ขาดเงินทุนพยุงธุรกิจ กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นลูกค้าสำคัญ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ก็ยังไม่มีแนวโน้มจะกลับมา โอกาสขายสินค้าจึงยังน้อย ส่วนอีกปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังคือมูดการจับจ่ายจากความขัดแย้งในสังคมไม่ว่าจะเป็นการ เมืองหรือความเหลื่อมลํ้า

ทางรอด-ทางรุ่ง 5’Res เครื่องมือต่อลมหายใจ SMEs

ทางออกของ SMEs จึงไม่ใช่แค่ทางรอดเท่านั้น แต่ต้องทำอย่างไรให้ “รุ่ง” ด้วย ผ่านกลยุทธ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ผ่านเครื่องมือที่มีอยู่ โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่แท้จริง โดยการเลือกใช้ Social Media ให้ตรงกับเจนเนอเรชั่น ก่อนจะเสริมด้วยแผนการตลาด ที่เหมาะสมทั้งการใช้ Influencer, สื่อต่างๆ รวมถึงการมองหาตลาดใหม่ๆ เช่น กลุ่ม CLMV 

 

ขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจกับการเลือกใช้สื่อหรือเครื่องมือการตลาดที่เหมาะสม โดยพบว่าแนวโน้มพฤติกรรมการบริโภคสื่อและรูปแบบการสื่อสารที่โดดเด่น ได้แก่ 1. คนไทยเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเกือบ 80% สูงสุดเมื่อเทียบกับกัมพูชาที่สัดส่วนการเข้าถึง 70% ลาว 53% เมียนมาร์ 43% และเวียดนาม 70% 2.

 

ขณะที่ TikTok จะแรงต่อเนื่อง และกลายเป็นเครื่องมือช่วยขายสินค้าได้ดี 3. Video Ad & Live take over จะยังคงได้รับความนิยม เช่นเดียวกับ 4. Influencers โดยเฉพาะกลุ่ม Specialist, Micro, Nano 5. ความสนใจในการเสพสื่อออนไลน์จะลดลงเหลือเพียง 2 วินาทีแรก ดังนั้นสื่อที่สร้างสรรค์ แตกต่าง จะนำไปสู่ยอดขายและความสำเร็จของแบรนด์ได้

 

“ภวัต เรืองเดชวรชัย” ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าบริหาร MI Group บอกว่า เอสเอ็มอีต้องปรับตัว เพราะหากไม่ปรับจะไม่รอด โดย 5 สิ่งที่ต้องเปลี่ยน (5’REs) คือ Retool เปลี่ยนมาใช้เครื่องมือดิจิทัลในการทำงาน ใช้เทคโนโลยี การสื่อสารผ่านออนไลน์ Re-Business เปลี่ยนวิธีหารายได้จากธุรกิจรูปแบบใหม่ และ Reunite การเปลี่ยนใจให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน  

 

เช่นธุรกิจโรงแรม ที่เดิมมีรายได้จากการเข้าพัก ควรหารายได้จากการเปิดธุรกิจ ซัก อบ รีด เป็นต้น Re-Target การเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย ที่สอด รับกับธุรกิจและบริบทโดยรวม Re-Process การเปลี่ยนกระบวนการเข้าหาลูกค้า โดยการให้บริการเชิงรุก ที่สร้างความปลอดภัย ความมั่นใจให้กับบริการ

ภวัต เรืองเดชวรชัย

เท่านั้นยังไม่พอ 5 สิ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องทำ (Do’s) คือ 5L ได้แก่ Lean การทำให้องค์กรแข็งแรงปราศจากไขมัน Learn การเรียนรู้ อัพสกิล ตลอดเวลา Linkage การเชื่อมโยง เชื่อต่อ ต่อยอดธุรกิจ Liquidity การรักษาสภาพคล่อง และ Long Term การวางแผนเติบโตอย่างยั่งยืน และ 4 สิ่งที่ไม่ควรทำ (Don’ts) คือ Selfish ต้องไม่เห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตนเอง,  Self-Centered ต้องไม่ยึดตนเองเป็นที่ตั้ง, Static ต้องไม่อยู่กับที่ และ Stupid ต้องเติมความรู้       

 

นอกจากนี้ SMEs ยังต้องตระหนัก และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ รวมทั้งการสร้างโอกาส กระจายความเสี่ยง และมองหา “น่านนํ้า” ใหม่ๆ พร้อมกับการสร้างความแตกต่าง เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยทำให้ “SMEs” ไทยเดินหน้าต่อได้